.
"แกเป็นใคร อย่ามายุ่งหน่อยเลยหน่า"
เสียงเด็กหัวโจก หน้าตาดูร้าย เหมือนจะเป็นหัวหน้าแก๊ง ถามเราแบบกวนๆ
.
"ฉันน่ะเหรอ ก็แค่คนที่อยู่ในท็อป 10 อีกคนยังไงเล่า
และก็เป็นหัวหน้าห้อง 1 ด้วย พวกเธอมาทำอะไรเพื่อนชั้นมิทราบ"
.
"อยู่กันคนละห้องมาอย่ามาแส่หาเรื่องเลยหนะ หลบไป"
อีเจ๊หัวโจกดูจะไม่ยอมง่ายๆ
.
หนอยๆ !!!
ไม่รู้ซะแล้วว่าชั้นนั้นก็สู้คน ไม่เคยยอมใครนะเฟ่ย ! ! !
.
.
ซอลมีพยายามนึกท่าสู้ ที่เคยดูในกังฟูแพนด้ามาใช้
"กว่าชีวิตจะผ่านมาถึงตอนนี้ ชั้นก็ดูมาสามภาคแล้วนะเฟ่ย อย่าคิดว่าจะหมู ย๊ากกกกก"
.
แต่....
.
"ด่ะๆ ... เดี่ยว ... เดี๋ยวววววว
โธ่วโว้ย... ไอ้พวกเกรียนสมองทึบ"
.
ซอลมีพยายามสู้เต็มที่ แต่โดนแก๊งสามเจ๊รุมจับล็อกมือ แล้วผลักเข้าไปกองรวมกับ มินอา
.
.
ปั้ง ! เสียงปิดประตูดังสนั่นหวั่นไหว
ต่อด้วยเสียงล็อกกลอนอย่างไว
.
"อยู่กันในนั้นมืดๆ ไปก่อนละกัน คิดได้เมื่อไหร่แล้วบอกนะ ฮ่าๆ" เสียงอีเจ๊หัวโจกกับพวกพ้องตะโกนรอดประตูเข้ามา เยาะเย้ย
.
แล้วสองคนก็โดนขังอยู่ในห้องในสุดของห้องสมุด
.
.
"ไม่ต้องห่วงหรอกมินอา มุกตื้นๆ อย่างกับการ์ตูนตาหวานแค่นี้จะไปกลัวอะไร เรามีมือถือ..."
.
ซอลมีตกใจทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ !
.
"แย่ละมือถือวางไว้บนโต๊ะนี่หว่า !!! แล้วมือถือเธอล่ะ"
เราหันไปมองมินอาด้วยความหวังสุดท้าย
.
"ของเราเมื่อกี้โดนกระแทกดับ ยังเปิดเครื่องไม่ติดเลย"
มินอาพูดพร้อมดูมือถือหน้าจอแตกของตัวเอง
.
"อืมมม เอางี้ใจเย็นไม่มีใครตายเพราะโดนขังอยู่ในห้องสมุดหรอกหน่า ยังไงพรุ่งนี้ก็ต้องมีเจ้าหน้าที่มาเปิด"
เราพยายามปลอดใจมินอา แต่ก็ทำใจดีสู้เสือปลอบใจตัวเองด้วยนิดหน่อย
.
"แต่วันนี้เป็นวันศุกร์นะ !
กว่าลุงเจ้าหน้าที่จะมาเปิดห้องอีกทีก็วันจันทร์"
มินอาตอบมาเสียงสั่นๆ
.
"โอ้วววววว ม่ายนะ นี่ฉันจะต้องโดนขังถึง 3 วัน 2 คืนจริง ๆ หรือเนี่ย !"
.
ปึ้งๆๆ ! ! ! ซอลมีเริ่มทุบประตู โวยวาย !
.
.
"ตั้งสติสิ คิดสิคิด โอ้ยยยยยคิดไม่ออกกกกก
ถ้าปวดฉี่จะทำยังไง ฉี่ยังไม่เท่าไหร่ แล้วถ้าปวดอึล่ะ แง๊งงงงงงง"
.
"พอคุณลุงมาเปิดประตูวันจันทร์ กลิ่นอึก็จะโชยออกไปที่หน้าประตู ทุกคนต้องโผล่เข้ามาอย่างล้นหลาม ทีนี้ต้องมีคลิปพวกเราสองคน สองสาวจอมอึแห่งห้องสมุดแน่เลย
ม่ายยยยนะ ม่ายยยย....................... ย"
.
ซอลมีเริ่มคร่ำครวนสติหลุดในสิ่งที่ยังไม่เกิด
.
.
ซอลมีๆ ใจเย็นๆ
มินอาเขย่าไหล่ซอลมีที่เหมือนสติหลุดไปซะละ~
.
ซอลมี ! โป๊กกกก !
มินอาเอาหัวกระแทกหน้าผากเข้าอย่างจัง เพราะเห็นซอลมีไม่ได้สติซักที
.
ติ๋ง ! ติ๋ง ! ...
.
"เฮ้ยเลือด ! เลือด !"
.
.
เลือดมาปัญญาเกิด ซอลมีเอามือเช็ดเลือดกำเดาตัวเอง
ในตาดูได้สติเหมือนตื่นรู้ฉับพลัน ก็เริ่มลุกไปสำรวจทางหนีทันที
.
"มีหน้าต่างตรงนั้นหนิ ไหนลองปีนดูซิ ข้างล่างสูงกี่... ชั้น...
โอ้วโน่ว สูงขนาดนีปีนลงไปไม่ไดัแน่ๆ งั้นเอาไงดี
เฮ้ย ! มีคนเล่นบาสอยู่สนามโน้นไกลๆ"
.
ซอลมีและมินอา พยายามตะโกนโหวกเหวก
จนเสียงแหบเสียงแห้ง แต่ก็ไม่มีใครได้ยิน เพราะสนามบาสอยู่ไกลเกินไป และเวลานี้เป็นช่วงเย็น คนก็ทยอยกลับบ้านกันเกือบหมดละ
.
"ขอพักสักแป๊บนะเธอ เสียงฉันไม่ไหวละ"
ทั้งคู่นั่งหันหลังให้หน้าต่าง พิงกำแพงกะว่าขอพักเหนื่อยสักหน่อย
.
"ขอโทษนะซอลมี" มินอาเอ่ยขอโทษอย่างรู้สึกผิด
.
"บ้าหน่าไม่ได้ความผิดของเธอซักหน่อย มันความผิดของอีเจ๊พวกนั้นต่างหาก ถ้าจำไม่ผิดพวกเขาเป็นรุ่นพี่เราหนิ แต่โดนเรียนซ้ำชั้นใช่ไหม?"
.
อืม... เราก็ไม่แน่ใจว่าโดนซ้ำชั้นเรื่องอะไรนะ
.
โอ้ยจะมีเรื่องอะไร รายงานยังไม่ทำเองเลย จะเอาที่ไหนไปเรียนต่อ แล้วดูใส่เสื้อซ้อนเสื้อยื้ดข้างใน แต่ปลดกระดุมเสื้อนักเรียนข้างนอก ใครมันเป็นคนคิดเทรนนี้วะ เสี่ยวชิบ !
.
"ฉันว่านะเทรนนี้น่าจะมีที่มา เขาอาจจะอ้วนขึ้นจนติดกระดุมไม่ได้ก็ได้นะ เลยใส่ทับเสื้อยื้ดแล้วปลดกระดุมเอา"
มินอาตอบแบบวิเคราะห์เหตุผลหน้าตาจริงจัง
.
อุ๊บ ! ~ ฮ่าๆๆ เกือบสำลักน้ำลายแหนะ
มินอา เธอนี่ก็ช่างตอบสมกับเป็นเด็กเนิ๊ตเนอะ ก็คิดได้ !
.
อ่าวจริง ! นี่เราคิดว่าเขามีปัญหาเรื่องติดกระดุมไม่ได้มาตลอดเลยนะ
.
"อ่อ แล้วพวกที่ไม่ใส่เสื้อเข้าในกระโปรง คือพวกที่อ้วนจนยัดเสื้อเข้ากระโปรงไม่ลงใช่ไหม?"
.
"ใช่เลย เธอเริ่มคิดเหมือนกันแล้วใช่มะ"
มินอาพูดพร้อมขยับแว่น ทำหน้ามีเล่ห์เหลี่ยม ◇
.
"ฮ่าๆๆ ฉันล่ะยอมเธอจริงๆ เอาหน่าคิดแง่นี้ก็ดีเหมือนกัน
การมองโลกของฉันต่อพวกเขา คงเปลี่ยนไปตลอดกาล"
.
.
ทั้งคู่คุยกันอย่างสนุกสนานซักพัก พอหายเหนื่อยก็ลุกขึ้นหาทางออกอีกรอบ
.
.
"มาจ้า ซอลมีกลับมาแล้น พร้อมเอนเนอจี้เต็มหลอด ฮึดขึ้นสู้กันอีกรอบซะหน่อยจะเป็นไร พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน ต้องมีใครซักคนเห็นบ้างล่ะ"
.
"ไหนดูซิว่าพวกเรามีอะไรในตัวกันบ้าง ฉันก็ไม่ค่อยชอบพกอะไรซะด้วย ในห้องนี้ก็มีแต่หนังสือ กับสมุด จะทำยังไงดีน้อ"
.
"ซอลมี ! ฉันมีไอนี่ล่ะแต่ไม่รู้จะเวิกไหม"
มินอาหยิบกระจกอันเล็กจิ๋วที่พกในกระเป๋ากระโปรงขึ้นมาให้
.
"เฮ้ย ! เก๋... ไหนลองๆ วิชาลูกเสือเนตรนารีขั้นพื้นฐาน"
พวกเราพยายามหามุมกระจก มาสะท้อนแสงตอนเย็นที่เหลืออยู่น้อยนิด
.
"ตรงนี้แดดไม่แรงเลยแฮะ พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินเต็มที่ละ
ไหนลองเขยิบไปอีกฝั่ง เออตรงนี้ได้ละๆ"
.
แสงแดดสะท้อนไปโดนหน้าคนที่กำลังวิ่งอยู่พอดี
.
"ช่วยด้วย ! พวกเราติดอยู่บนนี้ !
ช่วยบอกลุงหน้าตึกให้เอากุญแจมาเปิดให้ที"
ทั้งคู่พยายามตะโกนบอกอย่างสุดเสียงอีกครั้ง แต่นี่คงเป็นความหวังสุดท้าย เพราะระยะห่างค่อนข้างไกล ไม่แน่ใจว่าเขาจะเข้าใจไหม
.
"นายนั่นหล่ะได้ยินมั้ย ทางนี้ๆๆ เสียงจะไม่มีแล้ววว"
.
แล้วแสงสุดท้ายก็หมดลง
.
"เฮ้ออออ เขาจะได้ยินไหมนะ เหมือนจะเดินมาทางตึกเรา แต่ถ้านานกว่านี้เขาคงแค่เดินผ่านไปล่ะมั้ง" ซอลมีคิดไปปลงไป
.
"เอาหน่า นอนค้างที่นี่ซัก 2 คืนจะเป็นไรไป อย่างน้อยสุดก็มีเพื่อนไว้เล่าเรื่องผี เฮ้ย ! เล่าเรื่องสนุกก่อนนอนละกันหน่า" มินอาหยอกกลับ
.
"เออนั่นสินะ น้อยสุดก็ไม่ได้อยู่คนเดียวเนอะ"
เราดีใจที่มินอาดูสดใสขึ้นละ
.
.
กึกกักๆ
.
"เอะมีเสียงดังมาจากประตู ฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว บรรยากาศรำไร
.
หรือว่าผี ! มาเร็วกว่าแสง?"
.
ทั้งสองสาวทำหน้าเลิกลั่ก กอดกันขนลุกเกรียว แต่พอซอลมีตั้งสติได้ ก็คิดว่าไม่น่าใช่
.
บ้าสิเธอ คุณลุงต้องมาเปิดประตูให้แน่เลย
ซอลมีรีบพุ่งตัวไปที่ประตูด้วยความดีใจ มีมินอาวิ่งตามไปติดๆ
.
ขอบคุณนะคะคุณลุง พวกหนูจะไม่ลืมพระคุณลุงเล...
.
ยังไม่ทันพูดจบ ด้วยความที่รีบร้อน บวกกับดีใจม้ากมาก
ซอลมีจึงสะดุด พร้อมกับจังหวะประตูเปิดออก
ภาพที่เห็นแวปแรก ซอลมีนึกว่าจะเป็นคุณลุงเฝ้าตึกข้างล่าง
.
แต่กับเป็น... เฮ้ย??? !!! ...
.
.
โปรติดตามตอนต่อไป >>
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
☆ จากใจผู้เขียน ☆
อ่ะแฮ่มๆ คิดว่าจะเป็นใครกันน้อออ โหวดมาๆ
และถ้าอยากเม้ามอยหอยสังข์ ก็มาเม้นไว้รัวๆ เลยน้า
เห็นแล้วจะมารีบตอบอย่างไวจ้า ♡ @เดวิลมิกกี้
.
.
📌 ไปอ่านกันเต็มๆ ไม่มีสะดุดคลิกลิ้งรูปด้านล้าง
👇👇👇👇👇👇👇👇👇👇👇👇👇👇👇
.