13 เม.ย. 2020 เวลา 04:43 • กีฬา
ซามี่ ฮูเปีย
ซามี่ ฮูเปีย
👊 Sami Hyypia ซามี่ ฮูเปีย ภูผาน้ำเเข็งเเห่งเเอนฟิลด์ หากเอ่ยถึงกองหลังที่ดีที่สุดหลังยุคปี 2000 ของ ‘หงส์แดง‘ ลิเวอร์พูล เชื่อว่า ‘ซามี ฮูเปีย‘ เจ้าของสมญานาม กองหลังภูผาน้ำแข็ง ทีมชาติฟินแลนด์ ต้องติดอยู่ใน 1-5 อย่างแน่นอน ด้วยการเล่นที่เยือกเย็น แกร่งในลูกกลางอากาศ ทางบอลที่ดี และ การสั่งการที่ยอดเยี่ยม
.
ซามี่ ฮูเปีย ติดทีมชาติฟินแลนด์ ตั้งแต่อายุได้ 18 ปีแล้ว และเข้าได้ย้ายมาอยู่กับ หงส์แดง จาก วิลเล็ม ทเว ในลีกดัตช์ ไม่มีใครรู้จักว่าหนุ่มฟินแลนด์คนนี้เป็นใคร ค่าตัวเพียงแค่ 2.6 ล้านปอนด์ และเขาก็พิสูจน์ให้ทุกคนรู้ว่า การเซ็นสัญญาเขาให้มาเป็นส่วนหนึ่งของสโมสรแห่งนี้ มันเกินคุ้มจริงๆ
.
ฮูเปีย เป็นตัวหลักในลิเวอร์พูลตั้งแต่ปีแรกที่มาถึง และตลอด 10 ปีมในถิ่น แอนฟิลด์ เขาช่วยให้ทีมได้แชมป์เอฟเอ คัพ 2 สมัย, ลีกคัพอีก 2 สมัย, ยูฟ่า คัพ 1 สมัย และไฮไลต์แห่งชีวิต คือคว้าถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2004-05 ด้วยการชนะจุดโทษ เอซี มิลาน หลังไล่ตีเสมอ 3-3 จากการโดนนำ 3-0 ในครึ่งเเรก
.
ฮูเปียอาจเป็นกองหลังที่ถูกมองว่าช้า แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรค เพราะการอ่านเกมของเขานั้นยอดเยี่ยมมาก เกมรับลูกโด่งที่เคยเป็นปัญหาเรื้อรังของลิเวอร์พูลก็ถูกเเก้ไข เขาลงเล่น 87 เกมติดต่อกันในช่วงเดือนมกราคม ปี 2000 ถึง เดือนตุลาคม ปี 2001 โดยไม่ถูกจดชื่อเลย และยังได้รับปลอกแขนกัปตันทีมแทนเจมี่ เร้ดแน็ปป์ ที่มีอาการบาดเจ็บตลอดฤดูกาล จนกระทั่งสวมปลอกแขนกัปตันทีมถาวร ในเดือนเมษายน ปี 2002
.
แน่นอนว่าการเล่นตำแหน่งกองหลังตัวกลางนั้นต้องมีคู่หู คู่หูของฮูเปียคนแรกในยุคของอุลลิเยร์ คือ สเตฟาน อองโชซ์ และต่อมาเป็นเจมี่ คาร์ราเกอร์ ในยุคของเบนิเตซ ซึ่งมันเป็นคู่กองหลังที่ยอดเยี่ยมทั้ง 2 คู่ เพราะสไตล์การเล่นของฮูเปีย จะเป็นตัวรองมากกว่าตัวชน ดังนั้นไม่ว่าจะจับคู่กับอองโชซ์หรือคาร์ราเกอร์ มันจึงเป็นคู่ที่ค่อนข้างลงตัว และกวาดแชมป์มาประดับตู้โชว์ที่แอนฟิลด์มากมาย
.
ซามี่ ฮูเปีย ไม่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของแอนฟิลด์แค่ตัวกับฝีเท้าเท่านั้น แต่เขายังเอาหัวใจมาด้วย เพราะเขาเชียร์ลิเวอร์พูลมาตลอดชีวิต ที่จริง ฮูเปียก็ไม่ได้มีแต่ช่วงเวลาผาสุขกับลิเวอร์พูล ในเดือนตุลาคม ปี 2003 เชราร์ อุลลิเยร์ ยึดปลอกแขนกัปตันคืนจากเขาเพื่อมอบต่อให้สตีเว่น เจอร์ราร์ด แน่นอน ฮูเปียคงไม่มีความสุขแน่ แต่เขาก็มีสปิริตพอ เข้าใจดีว่าทำไมอุลลิเยร์ต้องทำเช่นนั้น และแม้จะเสียใจกับเรื่องนี้ แต่เขาก็ยังเห็นแก่ทีมมากกว่าเห็นแก่ตัว เขายังคงทุ่มเทให้ทีมเช่นเดิม
.
คงไม่มีอะไรต้องบรรยายมาก สำหรับฤดูกาล 2004-2005 ที่การจับคู่กันระหว่างฮูเปียกับคาร์ราเกอร์ ทำให้ลิเวอร์พูลได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก ฤดูกาล 2005-2006 กับแชมป์เอฟ เอ คัพ ฤดูกาล 2006-2007 กับการเข้าชิงแชมเปี้ยนลีกอีกปี รางวัลถุงมือทองคำ 3 ปี ซ้อนของเปเป้ เรน่า ระหว่าง ปี 2006-2008 ก็มีส่วนมาจากแผงกองหลังไม่น้อย
.
การเล่นตำแหน่งกองหลังตัวกลาง แต่ทำประตูให้ทีมถึง 35 ลูกในเวลา 10 ปี เป็นสถิติที่กองหลังระดับตำนานหลายคนทำไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น รอน ยีสท์, ฟิล ทอมป์สัน, มาร์ค ลอว์เรนสัน หรือแม้แต่อลัน แฮนเซ่น ตำนานปราการหลังตัวกลางของเราทั้ง 4 คน ไม่มีใครสามารถทำประตูให้ทีมได้ถึง 20 ประตู ตลอดการค้าแข้งกับลิเวอร์พูล แต่ฮูเปียทำได้ถึง 35 ประตู โดยแบ่งเป็น พรีเมียร์ลีก 22 ประตู แชมเปี้ยนลีก 6 ประตู ลีกคัพ 3 ประตู เอฟเอ คัพ 2 ประตู และยูฟ่าคัพ 2 ประตู
.
เกมแห่งความทรงจำของเขาด้วย ไม่นับเกมนัดชิงบอลถ้วย ต้องขอบอกว่าเกมชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่โอลแทรฟฟอร์ด แซงทางโค้งทุกเกมจริงๆ เพราะที่จริงแล้ว ฮูเปียจะไม่ได้เล่นเกมนี้ แต่เพราะ อาเบลัว เกิดไม่ฟิตสมบูรณ์ ราฟาต้องโยก คาร์ราเกอร์มายืนแบ็คขวา และทำให้เขาต้องลงเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์คู่กับ มาร์ติน สเคอเทล โดยที่รู้ตัวก่อนเกมเพียงแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น แต่เขาก็ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุด เพราะเราบุกไปยำใหญ่ใส่แมนยูฯ ถึง 4-1
.
แน่นอนว่าอีกเกมที่จะอยู่ในความทรงจำของเราไปชั่วชีวิตเกมที่เขาได้ลงเล่นเพียงแค่ 6 นาทีเท่านั้น เกมสุดท้ายในสีเสื้อแดงเพลิงกับสเปอร์ เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2009 ราฟาส่งเขาลงมาแทนเจอร์ราร์ด เพื่อเป็นโอกาสให้เขาได้กล่าวคำอำลากับแฟนบอลลิเวอร์พูลทั้งสนาม ก่อนเกม มีการแปลอักษรเป็นชื่อของเขา “SAMI” และรูปธงชาติฟินแลนด์ที่อัศจรรย์ฝั่งเดอะค๊อป
 
.
ท้ายเกม เดอะค็อปตะโกนร้อง “Sami Sami Sami” จนราฟาต้องตัดสินใจเปลี่ยนตัวเร็วกว่าที่ตั้งใจไว้ เจอร์ราร์ดถอดปลอกแขนกัปตันทีมออกจากแขนและสวมมันที่แขนของฮูเปีย เสียงเฮของเดอะค๊อปดังลั่นกลบเสียงผู้บรรยาย ราวกับลิเวอร์พูลเพิ่งส่งศูนย์หน้าตัวความหวังทำประตูลงมาแต่เปล่าเลย เราส่งตำนานกองหลังผู้กำลังจะจากเราไปลงสนามต่างหาก
.
เเต่หลายคนมองว่า ซามี่ ฮูเปียกับเฟอร์กิล ฟาน ไดค์ มีความคล้ายกัน ส่วนสูงเท่ากัน ฟาน ไดค์ กับ ฮูเปีย มีส่วนสูงที่เท่ากัน 193 cm ในอดีตเคยเล่นอยู่กับสโมสรวิลเล่ม ทเวเหมือนกัน โดยฮูเปีย เล่นระหว่างปี 1995-1999 ส่วน ฟาน ไดค์ เล่นระหว่างปี 2009-10 ทั้งคู่มีประสบการณ์กับทีมชาติชุดใหญ่มาแล้วทั้งคู่ ก่อนย้ายมาลิเวอร์พูล ทั้งสองคนย้ายมาอยู่ลิเวอร์พูลตอนอายุ 26 ปีเหมือนกัน แม้จะราคาต่างกันลิบลับก็ตาม ทั้งสองคนเลือกเบอร์ 4 เหมือนกัน เเละทั้งคู่พาสโมสรลิเวอร์พูลคว้าเเชมป์เปี้ยนลีกได้สำเร็จเหมือนกัน โดยไฮไลท์ของเกมส์พลิกนรกทั้งสองครั้ง ต้องตามหลังคู่เเข่งถึงสามประตูเเม้จะเป็นการเล่นคนละรอบก็ตาม
.
ตลอดเวลาที่ค้าเเข้งในถิ่นเเอนฟิลด์ ฮูเปีย เป็นที่รักเเละเคารพของเพื่อนร่วมทีม เเละเเฟนบอลลิเวอร์พูล เชื่อไหมว่าตลอดเวลาที่ค้าเเข้งกับลิเวอร์พูล ฮูเปีย ไม่เคยได้รับใบเหลืองเลย เเต่เขาเคยได้รับใบเเดงหนึ่งครั้งจากการทำฟาล์ว รุดฟานนิสเตอร์รอย ในเขตโทษนั่นเอง
โปรดเสพข่าวอย่างมีสติ ขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุน
แอดมินเพจลิเวอร์พูล เเละ กลุ่ม This is Anfield....
🤷‍♂️ ร่วมเเสดงความคิดเห็นในคอมเม้นต์ด้านล่างครับ โปรดเเสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ ไม่สร้างความเเตกเเยก
" เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน " You'll never walk alone " 🤷‍♂️
.
💢✍️ #นักเลียนคีย์บอร์ด ®️ 💢 #ลิเวอร์พูลเเฟนคลับ
เเละ 💢 กลุ่มThis is Anfield
.
💢🅰️EY พูดคุยข่าวสารทีมลิเวอร์พูล อัพเดตตรงจากอังกฤษ.
.
.
โฆษณา