14 เม.ย. 2020 เวลา 11:42 • ปรัชญา
Comfort Zone+Digital Disruption=อะไร?
การออกจาก Comfort Zone เป็นสิ่งที่คนสำเร็จทั่วโลกมักจะบอกให้เราออกไปเพื่อริเริ่มทำสิ่งใหม่ๆในชีวิต ไม่ว่าจะเป็น อาชีพ สุขภาพ การเงิน ครอบครัวและจิตใจ หากว่าคุณได้ฟังคลิปสร้างแรงบัลดาลใจหรือพัฒนาตนเองมาบ่อยๆ เขาก็มักจะบอกให้ออกจากComfort Zone บ่อยๆใช่ไหมครับ? แล้วเขาหรือเธอเคยพูดไหมครับว่า การออกจากComfort Zone แบบไหนที่รวดเร็วและมีความสุข มีไหม?
และสิ่งที่จะทำให้เราสามารถออกจากComfort Zone ได้ก็คือ การลงมือทำและการใช้พลังใจในการทำสิ่งที่เราไม่ชอบเพื่อออกจากComfort Zone ตามที่เราต้องการ
แต่หากเราลองมามองอีกมุมหนึ่ง เราก็ได้ฟังคนสำเร็จทั่วโลกบอกอีกเช่นกันว่า โลกของเราได้กลายเป็นDigital Disruption ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและฉับไว หากใครเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือบริษัทไม่ทัน คุณก็จะกลายเป็นคนล้าสมัยหรือตกยุคไปเลย
คำถามคือ คุณรู้ไหมครับว่า ทั้ง2อย่างที่ผมได้กล่าวไปแล้วข้างต้น มีความสัมพันธ์กันอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ก่อนอื่น ผมจะขออธิบายสิ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับ 2 สิ่งนี้ก่อน สิ่งนั้นก็คือ
Comfort Zone กับ Success Zone ครับ
Comfort Zone กับ Success Zone
Comfort Zone หมายถึง ช่วงเวลาชีวิตที่เรารู้สึกว่าทุกอย่างดูเรียบง่าย และเป็นการลงมือทำในสิ่งที่เรารู้สึกสบายและมีความสุขกับชีวิต เช่น งานอดิเรกที่เราชอบทำ และเป็นจุดแข็งที่เราสามารถแสดงออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติและเก่งกาจ(สังเกตุได้จากการทำงานอะไรซักอย่างแล้วมีคนชมว่าเราเก่งทั้งๆที่เรารู้สึกเฉยๆ นั่นแหละครับคือสิ่งที่อยู่ในComfort Zone ของเรา)
Success Zone หมายถึง ความสำเร็จทั่วโลกที่มนุษย์ต้องการที่จะก้าวเข้าไปเพื่อคว้าความสำเร็จนั้นๆมาครอบครอง เช่น การเป็นเจ้าของธุรกิจที่โด่งดัง, การเป็นดาราที่โดดเด่น การเป็นYouTuber ที่เด่นดัง การเป็นนักกิฬาที่สุดยอด การเป็นศิลปินที่ยอดเยี่ยม การเป็นนักเขียนที่เยี่ยมยอด ๆลๆ ทุกอย่างล้วยแต่มีเงื่อนไขความสำเร็จหรือ Key Success ทั้งนั้น
และถ้าคุณอยากจะประสบความสำเร็จในชีวิตให้ได้ซักอย่าง สิ่งที่คุณควรทำก่อนเป็นอันดับแรกก็คือ ลองลิสออกมาว่าจุดแข็งอย่างเป็นธรรมชาติที่อยู่ในComfort Zone ของคุณตรงกับเงื่อนไขความสำเร็จที่เราต้องการอะไรบ้าง
ยกตัวอย่างเช่น
1.คุณเป็นคนที่แอกติ้งเก่งมาก
2.คุณเป็นคนที่เข้าสังคมเก่ง
3.แต่คุณเป็นคนขี้ลืมง่ายมาก ท่องอะไรนิดๆหน่อยๆก็ลืมแล้ว
สมมุติว่าหากคุณอยากจะเป็นดาราที่ประสบความสำเร็จ และหากว่าเงื่อนไขของความสำเร็จคือ
1.ต้องแอ็คติ้งเก่ง
2.ต้องเข้าสังคมเก่ง
3.ต้องจำบทตัวละครได้อย่างแม่นยำ
นั่นเท่ากับว่า คุณมีสิ่งที่ตรงกับเงื่อนไขของความสำเร็จ 2ใน3 ก็แปลว่าคุณต้องออกจากComfort Zone ของข้อ3 แล้วคุณก็จะมีสิทธิประสบความสำเร็จ ดังรูป
Comfort Zone 2ใน3 ของ Success Zone
นั่นหมายความว่า หากคุณออกจากComfort Zone เพียงแค่คุณต้องฝึกการท่องบทตัวละครบ่อยๆให้มากกว่าคนอื่น ท่องบ่อยๆ ท่องซ้ำๆ คุณก็จะสามารถประสบความสำเร็จจากการเป็นดาราที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยมเลยครับ เพราะComfort Zone ของคุณ อยู่ใกล้Success Zoneมากๆ แต่ถ้าคุณยังบอกตัวเองว่าทำไม่ได้ คุณก็จะประสบความสำเร็จไม่ได้เช่นกัน
แต่ถ้าสมมุติว่าคุณอยากเป็นเจ้าของธุรกิจ อยากทำStart Up อยากเป็นเจ้าของกิจกรา SME ที่ประสบความสำเร็จเงื่อนไขของความสำเร็จก็คือ
1.คุณต้องเก่งเรื่องการควบคุมงบการเงิน
2.คุณต้องมีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีการการผลิตสินค้าหรือบริการ
3.คุณต้องเก่งเรื่องการตลาดและการเจาะตลาดผู้บริโภค
4.คุณต้องเก่งเรื่องการบริหารจัดการคน
5.คุณต้องสร้าง Product ที่"แตกต่างและแตกตื่น"แก่ผู้บริโภคอย่างฉับพลันและรวดเร็ว
แต่คุณมีความสามารถเพียงแค่ข้อ 1และ2 แต่ข้อ3-5คุณไม่ได้มีความสามารถด้านนี้ นั่นหมายความว่าคุณมีจุดแข็งที่อยู่ใน Comfort Zone เพียงแค่ 2ใน5 เท่านั้นและคุณต้องพยายามออกจากComfort Zone อย่างหนักเพื่อให้ข้อ3-5ของคุณมีความเชี่ยวชาญจนสามารถครอบครอบSuccess Zone ได้(หมายถึงในกรณีที่ไม่สามารถระดมทีมได้นะครับ เพราะการระดมทีมก็สามารถเสริมจุดแข็งของเราให้เข้าใกล้Success Zoneได้เหมือนกัน) ดังรูป
Comfort Zone 2ใน5 ของ Success Zone
สรุปก็คือ
1.การเป็นดาราจะทำให้คุณประสบความสำเร็จได้ง่ายและเร็วกว่าเพราะใช้แรงในการออกจากComfort Zone ไปหา Success Zone น้อยกว่าการเป็นเจ้าของธุรกิจ
2.การเจ้าของธุรกิจจะทำให้คุณต้องออกจากComfort Zone ไปหา SuccessZone มากกว่าและต้องเหนื่อยมากกว่าการเป็นดารา
จากบทความข้างต้น ก็คงทำให้เราได้รู้กันแล้วนะครับว่า การออกจากComfort Zone ไปหาSuccess Zone นั้นสามารถทำได้จาก
1.การค้นหาสิ่งที่อยู่ในComfort Zone และใช้มันให้เกิดประโยชน์ต่อความสำเร็จให้มากที่สุด
2.การออกจากComfort Zoneเพื่อไขว่คว้าหาสิ่งที่ยังขาดหายไปจากSuccess Zone เพื่อสร้างความสำเร็จที่ยอมเยี่ยมที่สุด
ยังจำหัวข้อบทความกันได้อยู่ไหมครับ😄 ถ้าเกิดว่าผมเขียนยาวเกินไป ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ แต่ผมอยากจะให้ผู้อ่านได้เข้าใจจริงๆ งั้นมาต่อกันเลยนะครับ
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ที่เล่ามาเนี่ยมันเกี่ยวข้องอะไรกับDigital Disruption ด้วย สิ่งที่เกี่ยวข้องกันก็คือ "ความเร็วครับ"
ความเร็วระหว่าง Digital Disruption Vs คุณ
สิ่งที่น่ากลัวมากๆเลยก็คือ
1.หากคุณใช้เวลาออกจากComfort Zoneของตัวเองเพื่อสร้างสิ่งใหม่ได้ช้าเกินไปและไม่สามารถวิ่งไล่ตามDigital Disruption ได้ทัน ความพยายามในการออกจากComfort Zone ของคุณจะไม่มีความหมายเลยเพราะ "คุณได้ทำสิ่งที่ใหม่ล่าสุดช้าเกินไป"
2.หากคุณออกจาก Comfort Zone แล้ว Digital Disruption มันจะเปลี่ยนSuccess Zoneไปเรื่อยๆครับ และจะทำให้คุณต้องเสียแรงเพิ่มในการคว้าSuccess Zone ออกไปเรื่อยๆ เช่น นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จแล้ว แต่ก็ต้องประสบความสำเร็จให้มากขึ้นเรื่อยๆเพื่อ "เป็นปลาใหญ่ที่กินปลาเล็กให้ได้ในอนาคต" เพราะนักธุรกิจทุกคนต้องการการผูกขาดอยู่แล้วโดยปกติ
ข่าวดีก็คือ
1.เราต้องค้นพบ Comfort Zone ที่เปรียบเสมือนเป็น"จุดแข็งที่เก่งกาจอย่างเป็นธรรมชาติ"ของเราให้เร็วที่สุด และเลือกดูว่าเงื่อนไขความสำเร็จใดที่ทำให้เราต้องออกจากComfort Zone ได้น้อยที่สุด เพื่อให้เราสามารถเข้าSuccess Zone ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเหนื่อยมากนักจากการออกจาก Comfort Zone มากเกินไปจนทำให้เราต้องพ่ายแพ้ Digital Disruption เพราะ "เราก็เร็วไม่แพ้กัน"🙂
You Win!!!!!
ส่งท้ายนี้ผมอยากจะขอฝากประโยคหนึ่งเพื่อเป็นการทิ้งท้ายให้กับผู้อ่านทึกท่านนะครับ
"Digital Disruption ทำให้เราไม่สามารถรู้ได้ว่าอะไรคือสิ่งที่ใหม่ที่สุดในโลกใบนี้อย่างแท้จริง"
ฝากกดLike กดShare และกดFollowด้วยนะครับ🥰🥰🥰🥰

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา