5 ก.ค. 2020 เวลา 02:00 • ธุรกิจ
ถ้าฝรั่งขายหุ้นไทยไปเรื่อย ๆ รายย่อยจะหมดเงินรับหรือไม่
ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย
จำนวนเงินฝากในระบบมีเกือบ 14 ล้านล้านบาท
87% ของคนในระบบ หาเช้ากินค่ำไม่มีเงินเก็บ
คน 3% ถือครองเงิน 87% ของทั้งหมดประมาณ ประมาณ 12 ล้านล้านบาท เป็นเงินฝากธนาคารอย่างเดียวนะครับ รายย่อยเมืองไทยมีเงินขนาดนี้
ถ้ารวมเงินที่อยู่ในพันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้เอกชนบ้านเราก็อีก 10 ล้านล้านบาท
ถ้ารวมเงินทุจริต ธุรกิจนอกระบบ เงินสดที่เก็บไว้ตามบ้านก็คงอีกหลายล้านล้านบาท บ้านเรามีธุรกิจนอกระบบเกือบ 50% เลยนะครับ
ถ้าดูปริมาณเงินในระบบแล้วมีเงินเยอะมาก แต่คนที่ถือเงินส่วนมาก ไม่ได้นำเงินมาใช้ เก็บเงินกันไว้อย่างดี ทุกคน panic กันหมด ระบบเศรษฐกิจของประเทศก็จะล้มได้ ถ้าเป็นแบบนี้
รัฐบาลทุกประเทศในโลกจึงมีหน้าที่เพิ่มเงินในระบบ นำมาใช้จ่าย พยุงเศรษฐกิจ เพื่อให้ระบบการเงินยังดำเนินต่อไปได้ เศรษฐกิจไม่ล่มสลาย
การพิมพ์เงินโดยเนื้อแท้ก็คือการเก็บภาษีแบบอ้อม ๆ นั่นเอง เพราะทำให้มูลค่าของเงินลดลง คนที่ฝากเงินไว้หรือเก็บเงินไว้ตามบ้านก็จะโดนเก็บภาษีไป เพื่อช่วยชาติต่อไป
คิดเป็นอัตราภาษีก็ 30-50% ถ้าเทียบกับปริมาณเงินที่เพิ่มขึ้นมา
โดยสรุปก็คือรายย่อยบ้านเรารวยมาก มีเงินเก็บกันมากกว่า 10 ล้านล้านบาท ดังนั้นฝรั่งขายหุ้นไทยไป 4-5 แสนล้านบาท ในรอบ 10 ปีนี้ รายย่อยก็ยังมีเงินเหลือเหลือ ที่จะช้อนซื้อหุ้น
ดังนั้นอย่าไปกลัวตลาดหุ้นจะล่มสลายมากเกินไป มันเป็นไปได้ยากมากในยุคนี้ ถ้าดูจากข้อมูลข้างต้น
ภาพจาก pixabay
หรือต่อให้รายย่อยไม่ซื้อหุ้น รัฐบาลก็จะพิมพ์เงินมาซื้อหุ้นอยู่ดี ถ้าดูจากตัวอย่างจากประเทศอเมริกาเป็นต้นแบบ
ถ้าชอบบทความนี้ อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความดี ๆ ต่อไป

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา