19 เม.ย. 2020 เวลา 12:59 • ไลฟ์สไตล์
ว.วิสัชนา. . .
ไม่สำคัญว่าคุณจะสังกัดชนชาติศาสนาหรือพูดจาภาษาใด ในเรื่องของความกตัญญูนั้น เป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือสิ่งสมมติ นอกเหนือลัทธินิกาย นอกเหนือชาติ ศาสนา ภาษา ผิวพรรณ หรือวรรณะใด ๆ ทั้งหมดทั้งสิ้น แต่เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ผู้ให้ชีวิต กับลูกผู้ได้ชีวิต
ใครก็ตามเป็นผู้ที่ได้ชีวิตมาจากพ่อและแม่ เขาผู้นั้นก็สมควรจะกลับไปทดแทนพระคุณ และกตัญญูต่อผู้เป็นพ่อเป็นแม่ โดยไม่ต้องติดใจสงสัยว่าคำสอนในเรื่องความกตัญญูนั้นเป็นคำสอนทางพระพุทธศาสนา
เพราะแท้ที่จริงแล้ว คำสอนเรื่องความกตัญญูนั้น เป็นคำสอนของโลก เป็นจรรยามารยาทของวิญญูชนทั่วโลกที่ท่านประพฤติปฏิบัติสืบต่อกันมา มนุษย์ทุกคนควรเป็นผู้ที่มีความกตัญญูต่อบิดามารดาผู้ให้กำเนิด ไม่เพียงเพราะว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ลูกควรกระทำเท่านั้น แต่เพราะสิ่งนี้เป็นปัญญาของมนุษย์ผู้มีอารยธรรม
ใครก็ตามที่เกิดมาเป็นมนุษย์ แล้วหลงลืมมารดาบิดาผู้ให้กำเนิด บุคคลผู้นั้นเป็นได้อย่างดีที่สุดก็แค่สัตว์โลกชนิดหนึ่งเท่านั้น ก็เพราะสัตว์โลกทั้งหลายไม่จำเป็นต้องกตัญญูต่อบิดามารดา เนื่องจากเขายังเป็นสัตว์ที่ด้อยวิวัฒนาการ แต่มนุษย์ผู้มีวิวัฒนาการทางปัญญาขั้นสูง มีโอกาสกตัญญูต่อบิดามารดาแล้วไม่ทำ ก็ถือว่าได้ลดชั้นแห่งความเป็นมนุษย์ของตนลงมาเหลือแค่เพียงสัตว์โลกธรรมดา ๆ เท่านั้น
ฉะนั้น เราทุกคนควรหาโอกาสหรือตระหนักรู้อยู่เสมอว่า เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์แล้วจะต้องกตัญญูกตเวทีต่อมารดาบิดาให้ถึงที่สุด แม้ทำไม่ได้ทางกายก็ต้องประพฤติให้ได้ทางใจ
.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
ที่มา : หนังสือ "มหัศจรรย์แห่งรัก" Love Analysis | ว.วชิรเมธี
โฆษณา