19 เม.ย. 2020 เวลา 12:25 • ธุรกิจ
Bending The Inflation Curve
-John Mauldin
การตอบสนองของพวกเราต่อการคุกคามของ coronavirus นั้นเป็นสิ่งจำเป็น
แม้ว่าพวกเขา ( Fed)(ธนาคารกลางสหรัฐ)
จะมีการพิมพ์เงินที่มากมายมหาศาลเข้ามาในระบบ
เเละพวกเขานั้นกำลังสร้างอุปสงค์และอุปทานในตัวดอลลาร์อีกจำนวนมาก
เเต่สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นคือความรวดเร็วซึ่ง
ไม่เหมือนอะไรที่เคยเห็นมาก่อนในศตวรรษนี้เลย
Federal Reserve เเละ Other central banks
กำลังทำในสิ่งที่คาดเดาถึงผลกระทบไม่ได้เลย
เเละเเน่นอนสำหรับใครหลายๆคนนั้น
inflation will be the result..
ผลลัพธ์ของการกระทำอันบ้าคลั่งของธนาคารกลางต่างๆคือเงินเฟ้อนั้นเอง
เเละสำหรับ John Mauldin นั้น
เงินเฟ้อจะต้องเกิดขึ้นอย่างเเน่นอน
เเต่ก่อนหน้าที่จะเกิดการเสื่อมค่าของสกุลเงินดอลลาร์
เขายังมีความเชื่อว่าหลังจากนี้เราจะต้องเจอกับภาวะ Deflation Shock ก่อน
Milton Friedman
Milton Friedman เขาคือนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังคนนึงของโลก
(เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่บังชื่นชมอีกคนนึงที่บังชื่นชอบครับ)
เเละบังเชื่อว่าทุกคนคงได้ยินประโยคคำพูดนี้ของเขาเเน่นอน
There's no such thing as a free lunch
ในโลกนี้ ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ หรอก..
เเละเขาคนนี้คือผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบล
สาขาเศรษฐศาสตร์ ในปี ค.ศ. 1976 อีกด้วย
เเละอีกคำพูดที่สำคัญของเขาคือ Inflation is always and
everywhere a monetary phenomenon นั้นเอง…
Milton Friedman เเละเพื่อนร่วมงานของเขา Anna Schwartz
ได้รู้เเน่ชัดถึง
ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นกันระหว่าง Money Supply และการเกิด Inflation
สิ่งที่มักไม่ค่อยสังเกตก็คือความเร็วของเงิน
ความเร็วของเงินคงที่ในช่วงเวลานั้น
velocity of money นั่นเองครับ
Velocity of money
เมื่อความเร็วของเงินลดลง นโยบายการเงินซึ่งอาจส่งผล
ทำให้เกิดการเสื่อมค่าในสกุลเงิน จึงไม่ได้ผล
(การอัดฉีดเงินเข้าระบบ จะทำให้เกิดการเสื่อมค่าของสกุลเงิน)
Here is Lacy Hunt’s latest velocity chart
(มาดูกราฟ Velocity ของ Lacy Hunt กันครับ)
เราต้องย้อนกลับไปในปีก่อนปี 1949
เพื่อหาช่วงเวลาที่ Velocity มันต่ำกว่าวันนี้
และเราจะได้เห็นการเพิ่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของ Velocity
จากระดับต่ำสุดหลังสงครามนั้นเอง
บังขอเสริมนิดนึงนะครับ
เราจะเห็นถึงค่า Velocity ที่ลดลงมาตลอดตั้งเเต่ก่อนเกิด Covid 19 ด้วยซ้ำ
Q4 2018 1.4637
Q1 2019 1.4581
Q2 2019 1.4553
Q3 2019 1.4420
Q4 2019 1.4253
นั้นแสดงถึงภาวะเงินฝืดที่เรากำลังพบเจออยู่เเล้ว
เเละในอนาคตมีเเน้วโน้มจะเพิ่มมากขึ้น
John Mauldin ยังมีความคิดที่ว่าหลังจากนี้นั้น Velocity
จะลดลงไปอีกเรื่อยๆครับ
เเละจงจำไว้ ภาวะเงินฝืดไม่ใช่เพื่อนที่ดีของคุณเเน่นอน…(บังเห็นด้วยในส่วนนี้ครับ)
ทุกสิ่งทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมอีกเเล้ว
พวกเราได้ทำลายอุปสงค์ในสิ่งต่างๆโดยการปิดประเทศไปเเล้ว
และเห็นชัดได้ว่าเราไม่สามารถเปิดสวิตช์เพื่อนำมันกลับมาได้
(มันไม่ง่ายขนาดนั้น)
เราจะรู้สึกอย่างไรเมื่อกลับไปสู่ที่ๆมีผู้คนมากมาย
ร้านอาหาร
โรงภาพยนตร์
กิจกรรมกีฬา โรงแรม
สถานที่พักผ่อนวันหยุดและพื้นที่อื่น ๆ
ทุกที่ทั้งหมดที่พวกเราเคยรวมตัวกัน
สถานที่ที่ให้ความรู้สึกถึงการเป็นมนุษย์
ความกลัวมันได้ถูกฝังลึกไปในจิตใจของพวกเราเเล้วนั้นเองครับ
แน่นอนว่าเศรษฐกิจบางส่วนจะเริ่มกลับมาปกติอีกครั้ง
เเต่คำถามคือ พวกเขายังต้องใช้แรงงานอีกกี่คน?
(ซึ่งคำตอบในคำถามนี้คือ จำนสวนคนจะน้อยลงเเน่นอนครับ)
รูปแบบ พฤติกรรมการซื้อสินค้าต่างๆของเรามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
เรากำลังเรียนรู้ว่าเราสามารถทำงานได้จากที่บ้าน
Zoom และบริการอื่น ๆ ถึงเเม้จะมีจุดอ่อนที่เปิดเผยออกมา
แต่สิ่งนี้จะถูกปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นเเน่นอน
สิ่งนี้จะทำให้การทำงานจากที่บ้านง่ายขึ้นและเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้น
การเปลี่ยนเเปลงของบริษัท ขนาดใหญ่หลายพันแห่ง
นั่นหมายถึงความต้องการพื้นที่สำนักงานจะลดลง
=> ราคาค่าเช่าพื้นที่สำนักงานจะลดลงด้วยเช่นกัน
นี้คือ Deflation อย่างไม่ต้องสงสัย
ถึงแม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะตัดสินใจเข้ามาซื้อพื้นที่สำนักงานก็ตาม
แต่นั้นก็ไม่ได้เป็นการเพิ่มความต้องการ หรือเพิ่ม Demand ขึ้นมาเเต่อย่างใด
เเละการเปลี่ยนเเปลงนี้จะเกิดขึ้นใน 100 other industries อีกด้วย
Think about restaurant buildings (คิดถึงอาคารร้านอาหาร)
ผู้สร้างและผู้เช่าอาคารต้องเสียค่าใช้จ่ายมหาศาลในการสร้างห้องครัว
ซึ่งหมายความว่าหากร้านอาหารต้องออกจากการทำธุรกิจไป
เจ้าของทรัพย์สินจะต้องหาร้านอาหารอื่นเพื่อมาเช่าพื้นที่ของตน
คำถามคือ มีโอกาสมากแค่ไหนที่สิ่งๆนี้จะเกิดขึ้นในวันนี้
นี้คือตัวอย่างเล็กๆที่ John Mauldin ได้พูดขึ้น
เเละเหตุการณ์เบบนี้กำลังเกิดในธุรกิจอีกหลายประเภทครับ
เเละเขายังบอกอีกว่าวิกฤตในครั้งนี้นั้น
จะนำไปสู่การขจัดความมั่งคั่งครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อีกด้วย…
เรากำลังอยู่ในฟองสบู่ลูกใหญ่ที่สุด
เเละความรู้จะช่วยให้เราผ่านวิกฤตในรอบนี้ไปได้
เพราะความรู้คือของขวัญที่ดีที่สุด📚
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ
ถ้าชอบบทความนี้ ช่วยกด Like กดติดตาม
เเชร์บทความนี้ เพื่อเป็นกำลังใจให้บังด้วยนะครับ🖤

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา