FOCUS : ธนาคารกลางซื้อทรัพย์สินสุทธิเข้าคลังเกือบ 5 เท่า !! ของวิกฤตทางการเงินเมื่อปี 2008 แค่ FED รายเดียว 4.1 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อวัน !!
สำนักข่าว Bloomberg พาดหัวข่าวว่า
"The Fed Is Buying $41 Billion of Assets Daily and It’s Not Alone"
ใช่ครับ...FED กำลังซื้อสินทรัพย์ในตลาดหุ้นประมาณ 4.1 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อ 1 วัน และที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ยังมีธนาคารกลางอื่น ๆ ร่วมอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อรวมมูลค่ากันแล้วจะไม่ใช่แค่ 4.1 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อวัน
Balance sheets ของธนาคารกลางหลายประเทศ ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การซื้อสินทรัพย์จำนวนมหาศาลเหล่านั้นดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ และยังไม่รู้ว่าจะหยุดเมื่อไร
นอกจากนี้ เริ่มมีคำถามที่น่าสนใจจากนักลงทุนเกิดขึ้นว่า
"สินทรัพย์เหล่านั้นจะถูกขายกลับมาสู่ตลาดเมื่อใด ?"
"จำนวนที่เข้าซื้อนั้นกล่าวได้ว่า มหาศาล และมันกำลังบอกคุณว่าภาคเศรษฐกิจโลกกำลังต้องการความช่วยเหลือมากแค่ไหน" Torsten Slok หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Deutsche Bank กล่าว
"เพียงแค่สังเกตดูว่าเราต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะฟื้นตัวจากวิกฤตเมื่อปี 2008 และตอนนี้เรากำลังพยายามมากกว่าตอนนั้นเป็นทวีคูณ"
ธนาคารกลางในกลุ่ม G7 ซื้อทรัพย์สินทั้งสิ้นเกือบ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนมีนาคม 2020 คิดเป็นเกือบ 5 เท่า !! ของยอดซื้อที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งก่อนหน้าในเดือนเมษายน 2009 (กล่าวคือสถิติใหม่สูงกว่าสถิติเก่า 5 เท่า)
นักวิเคราะห์ระดับโลกของ Morgan Stanley ได้คาดการณ์เอาไว้ว่า FED, ECB, BoJ, BoE จะต้องขยาย Balance sheets ออกไปทั้งสิ้นถึง 6.8 ล้านล้านดอลลาร์ เมื่อวิกฤตทุกอย่างคลี่คลายลง
ทรัพย์สินส่วนใหญ่ที่ FED ซื้อก็คือ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ยังได้ปล่อยกู้ให้กับบริษัทอื่น ๆ รวมถึงภาคท้องถิ่นภายในประเทศอีกมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยการเข้าถือหุ้นและซื้อหนี้ของบริษัทเหล่านั้นโดยตรง (ซึ่งไม่เคยทำมาก่อน)
เหตุผลเนื่องมาจากนักลงทุนทั่วโลกแห่ถอนเงินออกจากพอร์ตลงทุนของตัวเวองมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อวิกฤตเริ่มยืดเยื้อออกไป และนั่นเองที่เป็นเหตุผลให้ในสัปดาห์ที่ผ่านมายอด Balance Sheet ของ FED เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยถึงวันละ 4.1 หมื่นล้านดอลลาร์ !!
ในวันนี้ (22/04/2020) ยอด Balance Sheet ของ BoJ อยู่ที่ 5.6 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าขนาด GDP ของประเทศเสียอีก ส่วน Balance Sheet ของ FED อยู่ที่ 6.4 ล้านล้านดอลลาร์ คิดเป็น 30% ของ GDP ขณะที่ Balance Sheet ของ ECB อยู่ที่ประมาณ 39% ของ GDP
แน่นอนว่าญี่ปุ่นนั้นเสี่ยงอย่างมากในตอนนี้ จากหนี้รัฐบาลกว่า 200% ของ GDP นอกจากนี้รัฐบาลยังถือพันธบัตรญี่ปุ่นอยู่ถึง 43% จึงจำเป็นต้องขายออกมา รวมถึงปล่อยกู้ในขณะนี้ เนื่องจากประเทศกำลังขาดแคลน Supply และนักลงทุนก็ต้องการพันธบัตรในฐานะ Safe Heaven หรือไม่ก็เพื่อเอาไปแลกเป็น U.S. dollars
การกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม และการติชมในเชิงสร้างสรรค์ของคุณ เป็นกำลังใจให้เราและเหล่าอาชีพนักเขียนทุกคนในการพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ขอเชิญทุกท่านร่วมสร้างสังคมการเรียนรู้ที่ดีด้วยกันกับเรา
World Maker
สามารถติดตาม World Maker ผ่านทาง Facebook ได้แล้ววันนี้ที่
- 7
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
