FOCUS : ประเด็นน่าสนใจวันนี้
1. การสูญเสียงานในเอเชียแปซิฟิกอาจเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ขณะที่ S&P Global คาดการณ์อัตราว่างงานของไทยต่ำกว่า 1 %
"อัตราการว่างงานในทวีปเอเชียแปซิฟิกอาจเพิ่มขึ้นกว่า 3% ซึ่งคิดเป็น 2 เท่าของค่าเฉลี่ยในวิกฤตถดถอยครั้งก่อน ๆ" Shaun Roache หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ S&P Asia Pacific กล่าว
นอกจากนี้ S&P Global ยังได้เตือนอีกว่าการสูญเสียงานในบางส่วนจะไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างรวดเร็ว
อุตสาหกรรมภาคบริการเป็นธุรกิจแรกที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการ Lockdowns ซึ่งภาคบริการเหล่านี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดการจ้างงาน และการจ้างงานก็เป็นปัจจัยหลักของวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้
คาดการณ์อื่น ๆ ของ S&P
1. S&P คาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิกอยู่ที่ 7.5% ในปัจจุบัน โดยพุ่งเป้าไปที่ประเทศหลัก ๆ ในภูมิภาค (ไทยเป็น 1 ในนั้น)
2. ตัวเลขต่อไปนี้คือค่าประมาณอัตราการว่างงานใน 5 ประเทศที่ S&P คาดว่าจะได้รับผลกระทบสูงสุด
ออสเตรเลีย : มากกว่า 3%
ญี่ปุ่น : มากกว่า 2%
เกาหลีใต้ : มากกว่า 4%
นิวซีแลนด์ : ใกล้เคียงกับ 3%
ไทย : น้อยกว่า 1%
3. ทุกประเทศทางฝั่งเอเชียแปซิฟิก นอกจากสิงคโปร์ จะมีอัตราการสูญเสียงานสูงกว่าอัตราการจ้างงานที่ฟื้นฟูขึ้น โดย S&P คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาเป็นปกติได้
รายละเอียดสำคัญอื่น ๆ
1. กว่า 50% ของคนในเอเชียแปซิฟิกทำงานอยู่ในภาคบริการ
2. มีเพียง 14% ที่ทำงานในภาคอุตสาหกรรม
3. งานภาคการเกษตรในจีนและประเทศตลาดเกิดใหม่ลดลงอย่างมาก ซึ่งคนงานเหล่านั้นได้เปลี่ยนสายงานไปสู่ภาคบริการ อย่างเช่น โรงแรม ภัคตาคาร และอื่น ๆ
4. ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ส่วนแบ่งในตลาดแรงงานของจีนมาจากภาคบริการมากกว่าโรงงานอุตสาหกรรมถึง 5 เท่า
5. GDP ของจีนตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมาเติบโตด้วยภาคบริการมากกว่าภาคอุตสาหกรรม
2. กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ปล่อยเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 2.9 พันล้านดอลลาร์ให้แก่สายการบินต่าง ๆ
กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ในวัจันทร์ที่ผ่านมา ระบุว่าได้มีการเบิกงบประมาณ 2.9 พันล้านดอลลาร์ เพื่อจ่ายเงินเดือนให้พนักงานในสายการบินขนาดเล็ก 54 แห่ง และสายการบินหลัก ๆ อีก 2 แห่ง
รายละเอียดที่น่าสนใจมีดังนี้
1. เงินก้อนแรก 50% จะถูกมอบให้กับบริษัทสายการบินหลัก ๆ ในทันที และในส่วนที่เหลือจะทยอยจ่ายเป็นงวด ๆ
2. โดยรวมแล้ว ตั้งแต่มีมาตรการช่วยเหลือมา กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ได้มอบเงินช่วยเหลือแก่สายการบินหลัก ๆ ไปแล้ว 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์
3. สายการบินหลักต้องจ่ายดอกเบี้ยคืน 30% ของเงินทุน
4. ต้องวางสินทรัพย์ค้ำประกันเป็นจำนวน 10% ของเงินที่กู้ยืม
5. สายการบินอื่น ๆ ที่กู้เงินต่ำกว่า 100 ล้านดอลลาร์จะไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยใด ๆ รวมถึงไม่ต้องวางสินทรัพย์ค้ำประกันให้แก่รัฐบาล
6. ปัจจุบัน Demand ในสายการบินต่าง ๆ ของสหรัฐฯ ลดลงถึง 95%
7. S&P Global คาดว่าความต้องการน้ำมันสำหรับเครื่องบิน (Jet Fuel) จะลดลง 47% และราคาน้ำมันจะลดลงถึง 65%
8. การระบาดของ Coronavirus ได้สร้างความเสียหายให้กับสายการบินทั่วโลกไปแล้วประมาณ 3.14 แสนล้านดอลลาร์
สิ่งที่น่าสนใจในการกู้เงินครั้งนี้ก็คือ บริษัทที่ได้รับเงินกู้จะต้องไม่ปลดพนักงานคนใดออกหลังจากนี้ จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2020 และต้องยอมรับข้อกำจัดในการทำ Leveraged Buybacks ซึ่งรวมถึงการจ่ายผลตอบแทนให้แก่ผู้บริหาร และการจ่ายเงินปันผลอื่น ๆ
รายละเอียดการกู้ยืมของสายการบินต่าง ๆ (เท่าที่ทราบในตอนนี้)
1. Southwest Airlines : 3.2 พันล้านดอลลาร์
2. United Airlines : 4.5 พันล้านดอลลาร์
3. American Airlines : 4.75 พันล้านดอลลาร์
4. Alaska Airlines : 1.1 พันล้านดอลลาร์
5. Horizon Airlines : 1.1 พันล้านดอลลาร์
การกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม และการติชมในเชิงสร้างสรรค์ของคุณ เป็นกำลังใจให้เราและเหล่าอาชีพนักเขียนทุกคนในการพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ขอเชิญทุกท่านร่วมสร้างสังคมการเรียนรู้ที่ดีด้วยกันกับเรา
World Maker
สามารถติดตาม World Maker ผ่านทาง Facebook ได้แล้ววันนี้ที่
References :
- 17
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
