24 เม.ย. 2020 เวลา 13:00 • ประวัติศาสตร์
ความโกรธแค้นของพระแม่ไกอา
หลังจากที่พระแม่ไกอาทราบข่าวว่าหลานสุดแสบอย่างซุสได้จัดการเตะโด่งลูกๆ ของตนลงไปยังแดนทาร์ทารัสแถมยังกล้าตั้งตนขึ้นมาเป็นราชาสวรรค์อีก แน่นอนครับว่าเรื่องนี้มันสร้างรอยแค้นให้กับพระแม่ไกอาเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เองนางจึงได้จัดการสร้างอสูรร้ายนามไทฟอน (ชื่อของอสูรตนนี้ต่อมาถูกนำมาตั้งเป็นชื่อของพายุไทฟอนก่อนจะเพี้ยนเป็นไต้ฝุ่นไปในที่สุด) ขึ้นมาเพื่อส่งไปทำลายเหล่าเทพแห่งโอลิมเปียน โดยเจ้าอสูรไทฟอนนั้นความน่ากลัวของมันอยู่ตรงที่มีหนึ่งร้อยหัวแถมยังตัวใหญ่ยักษ์อีกต่างหาก
ด้วยเหตุนี้เองเมื่อมันเดินทางไปถึงยังโอลิมปัสเหล่าเทพจึงได้พากันอพยพหนีตายออกจากสวรรค์ โดยการแปลงกายเป็นสัตว์ชนิดต่างๆ เพื่อหลบสายตาของเจ้าไทฟอน (สำหรับจุดนี้บางตำนานก็ว่ามีเทพบางส่วนหนีเตลิดไปไกลถึงอียิปต์และได้กลายสภาพเป็นเทพเจ้าที่ผู้คนรู้จักของดินแดนบริเวณนั้นไป)
.
ทางด้านซุสเองก็หนีตายเช่นกันโดยแปลงกายเป็นแกะ แต่ด้วยความระลึกขึ้นได้ว่าตัวเรานั้นเป็นราชาสวรรค์มาเสียทีอย่างนี้ก็ดูกระไรอยู่ ด้วยเหตุนี้เองซุสจึงได้กลับไปยังโอลิมเปียนเพื่อต่อสู้กับไทฟอนก่อนที่ซุสจะปิดเกมด้วยการฟาดอสุนีบาตใส่เจ้าอสูรตนนี้และนำมันไปฝังเอาไว้ใต้ภูเขาไฟเอตนา
.
ทั้งนี้การที่ซุสสามารถโค่น ไทฟอน ลงได้มันดูเหมือนจะยิ่งไปเพิ่มความแค้นให้กับพระแม่ไกอามากยิ่งขึ้น นางเลยจัดการส่งเจ้าอสูรเอนซาลาดัสกลับมาต่อกรกับซุสอีกครั้ง
ผลของการต่อสู้ซุสเป็นฝ่ายชนะและได้จับเอนซาลาดัสขังไว้ที่บริเวณใต้ภูเขาไฟเอตนาเช่นเดียวกันซึ่งเจ้าอสูรตนนี้ก็ค่อนข้างร้ายมิใช่น้อย โดยมันมักจะแผดเสียงออกมาอยู่ตลอดจนกระทั่งวันหนึ่งมันก็สงบไป เว้นเสียแต่ในบางคราวที่มันขยับตัวชาวกรีกเชื่อว่านั่นแหละครับเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวบนโลก
.
ในที่สุดความสงบก็กลับคืนมายังโอลิมปัสอีกครั้ง ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจหลังจากนี้ก็คือพวกทวยเทพแห่งโอลิมเปียนได้ให้กำเนิดเหล่าเทพเจ้ารุ่นใหม่ขึ้นมารวมถึงบรรดาวีรบุรุษและอสูรอีกจำนวนไม่น้อยที่จะมาสร้างความปั่นป่วนให้กับโลกจนเกิดเป็นเรื่องราวมันๆ ตามมาอีกมากมายเลยทีเดียว

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา