27 เม.ย. 2020 เวลา 12:53 • ความคิดเห็น
The Eternal Relationship
Between Gold And Global Crisis
ความสัมพันธ์อันเป็นนิรันของทองคำกับวิกฤตของโลก
นักวิจารณ์และพวกกลุ่ม Elite จากธนาคารกลางมักจะเรียกทองคำว่าเป็นสิ่งตกทอดจากยุคโบราณ
แต่พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่าทองคำนั้นเป็นทรัพย์สินที่จะต้องวิ่งเข้าหาเป็นอย่างแรกในช่วงเวลา
ที่เกิดความไม่เเน่นอนหรือวิกฤตการเงิน
และแม้พวกเขายิ่งทำเป็นเกลียดมากเท่าไหร่
พวกเขานั้นก็ยิ่งแอบเก็บสะสมทองคำมากขึ้นเท่านั้น
เเละรู้อะไรมั้ย พวกเราสามารถสังเกตุว่าธนาคารกลางเริ่มมีการ Stock ทองคำในปริมาณที่มากขึ้นเมื่อไหร่
เราก็สามารถทำนายถึงสภาพเศรษฐกิจ
ที่กำลังจะเป็นได้ทันที
(ในช่วงเวลานี้นั้น Central Bank
มีการเข้าซื้อทองคำมาตลอดครับ)
ธนาคารต่างๆรับรู้ถึงวิกฤตเเละความพินาศ(disasters)เป็นอย่างดี
เพราะว่ากลุ่มคนพวกนี้เองที่เป็นผู้สร้างมันขึ้นมากับมือหรืออย่างน้อยก็มีส่วนร่วมอยู่ด้วยนั้นเอง
(Boom Bust Cycle) (ทุกครั้งที่เกิด Economic Crisis Fed หรือธนาคารกลางจะมีอำนาจที่เพิ่มขึ้นเสมอครับ)
เพราะงั้นกลุ่มนายธนาคารจึงมักจะรู้ล่วงหน้าว่าเมื่อไหร่ที่ควรจะเตรียมตัว
เเละ hedge ทรัพย์สินของตนเพื่อปกป้องมันจากพายุที่กำลังจะพัดเข้ามา
และทองคำนี่แหละที่จะเป็นตัว hedge (ประกัน)ที่ดีที่สุด
เพราะมันจับต้องได้ เป็นธรรมชาติและไม่สามารถคัดลอกหรือดัดแปลงออกมาได้
**สำหรับบังนั้นเราสามารถใช้สินทรัพย์อย่างอื่นในการประกันความเสี่ยงต่อการพังหรือ Decline ของตลาดได้ เพียงเเต่ว่าทองคำนั้นเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกครับ
รัฐบาลและ Bankerต่างๆจะวิ่งเข้าหาทองคำทุกครั้งเมื่อเกิดความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ
เพราะมันไม่เพียงปกป้องทรัพย์สิน
ของพวกเขาได้เท่านั้น
แต่ทองคำยังปกป้องอำนาจของพวกเขาไว้ได้อีกด้วย
(เรื่องนี้บังเห็นด้วยครับ)
ในโลกซึ่งประชาชนส่วนใหญ่กำลังอยู่บนขอบเหว
อยู่ในสภาพที่เเสนจะขัดสน(ยากจน)
กลุ่มคนที่มีฐานะที่มั่นคงทางทรัพย์สินอยู่แล้ว
กำลังสะสม Hard Aseet (Gold)
จากเศษเงินในกระเป๋าของพวกเขา..
ไม่ต้องไปพูดถึงพวกนักการเมือง
ที่สามารถควบคุมผู้คนได้
Wealth gap หลังจากนี้จะยิ่งถ่างออกไปเรื่อยๆ
เเละช่องว่างที่มากขึ้นในส่วนนี้นั้นหมายถึงอำนาจที่ต่างกันเเบบสุดขั้วอีกด้วย
ไม่ใช่ว่าพวก Elite เเละ Banker
จำเป็นต้องครอบครองทรัพย์สิน
ไว้ทำประโยชน์อะไรหรอก
แต่พวกเขาแค่ไม่ต้องการให้พวกคุณ
นั้นแหละครอบครองทรัพย์สินได้
Inc.com
ทำไมน่ะหรือ...ก็เพราะ hard assets ทั้งหลาย
ได้ถูกดูดเเละเก็บรวบรวม
โดยพวก Banker ไปหมดแล้ว
พวกเขาพยายามไม่ให้มี concept เรื่อง
ทรัพย์สินส่วนบุคคลหลงเหลืออยู่ในความคิดของสาธารณชนอีก
และนี่จะเป็นการทำลายอิสรภาพของพวกคุณ
(น่ากลัวมากครับ)
(นี้คือเหตุผลที่หลายๆคนกำลังติดกับดักหนี้อยู่?)
ในอีกแค่ชั่วอายุเดียว
next generation
คนรุ่นต่อไปจะไม่ได้รับรู้ว่ากรรมสิทธิ์ในที่ดินหรือบ้านคืออะไร
การเป็นเจ้าของทรัพย์สินหมายความว่าอะไร
การถือครอง Hard Asset นั้นสำคัญขนาดไหน
แล้วในที่สุด ประชาชนทั้งหลาย
ก็จะตกอยู่ในสังคมที่มีเศรษฐกิจร่วมกัน
“shared economy”
pod apartment, Wi-Fi and close access to public transit (คุ้นๆมั้ยครับ)
(เหมือนเรื่องนี้กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ใช่ไหม ? )
futurism.com
ความคิดที่จะปลูกบ้านของตนเองเพื่อลูกหลาน
ตามแบบรุ่นปู่รุ่นทวดก็จะไม่มีอีกเเล้ว
นี่จะทำให้การสร้างครอบครัวเปลี่ยนโฉมไปเลย
เเละประชาชนต้องพึ่งพารัฐในเกือบทุกเรื่อง..
รูปแบบการเตรียมพร้อมเเละปกป้องตัวเองจากวิกฤตของกลุ่ม Banker
คือการเก็บทองคำของธนาคารกลาง
ทำให้เห็นถึงช่วงเวลาที่น่าจะเกิดขึ้นของวิกฤตการเงิน
ในเกือบทุกครั้งก่อนมีวิกฤต
ทุนสำรองทองคำของธนาคารกลางมักจะพุ่งขึ้นสูง และราคาก็สูงขึ้นตามมา
ตัวอย่างเช่นในปี 1913 **เป็นปีที่ Federal Reserve ถูกก่อตั้งขึ้นมาครับ
ธนาคารกลางในหลายๆประเทศ
มีการซื้อทองคำอย่างเร่งด่วน
ก่อนที่จะเกิดการ Collapes ขึ้นในปี 1914
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
และการระบาดของไข้หวัดสเปนปี 1918-1920
สหรัฐมีการเพิ่มทองคำเข้าทุนสำรองจำนวน
650 ตันในปี 1913
และอีก 1,000 ตันตั้งแต่ปี 1915-1920
และจากมีการใช้มาตรฐานทองคำผูกกับค่าเงินดอลล่าร์
ราคาทองคำในช่วงเวลานั้นจึงไม่ค่อยผันผวนมากนัก
วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นตอนนั้นมันรุนแรงขนาดตลาดหุ้นนิวยอร์คปิดไปถึง
4 เดือนเต็ม จากกรกฎาคมถึงพฤศจิกายน 1914
***คำถามคือ ถ้าเกิดการล้มของระบบขึ้นมาอีกครั้ง
เงินในตลาดทุนต่างๆก็มีโอกาส
ที่จะโดน Freeze ทุกเมื่อ ?
เเละถ้าต้องเป็นเเบบนั้นจริงๆ
คนที่มีเงินในตลาดหุ้นจะเป็นอย่างไร ?
นั้นเขาคือเจ้าของทรัพย์สินจริงๆหรอ..
www.straitstimes.com
ซึ่งเราได้เห็นตัวอย่างเหตุการณ์นี้
ที่เพิ่งเกิดขึ้นเร็วๆนี้ในประเทศฟิลิปปินส์ครับ
หลังจากการเกิด Lockdown ในตลาดหุ้นนั้น
ทองคำจึงถูกมองเป็นสิ่งแรกที่เข้า
ปกป้องความเสี่ยงไว้นั้นเอง
สิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อโลกเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่
ในช่วงปี 1930 (Great Depression)
Federal Reserve และกระทรวงการคลังได้มีการเพิ่มสัดส่วนการถือครอง
ทองคำอีก 2,700 ตันตั้งแต่ปี 1930 ถึงปี 1935
และเพิ่มไปอีกกว่าเท่าตัวจาก 9,000 ตันเป็น 19,000 ตันตั้งแต่ปี 1935
จนถึงเริ่มเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่สองเมื่อปี 1939
ราคาทองคำพุ่งขึ้นจาก $ 20 ต่อออนซ์เป็น $ 35
ต่อออนซ์ระหว่างปี 1932 ถึง 1934
เเละเหตุการณ์นั้นทำให้พวกเราได้รู้จัก
Executive Order 6102
President Franklin D. Roosevelt
www.npr.org
Executive Order 6102 is a United States presidential executive order signed on April 5, 1933, by President Franklin D. Roosevelt
โดยคำสั่งของ Executive Order 6102
นั้นคือชาวอเมริกันทุกคนที่ถือครอง
ต้องส่งมอบทองคำให้กับทาง Federal Reserve
ทองคำเเลกกับเงินกระดาษ
Gold & Fiat Currency
ทุกคนคิดว่ายังไงบ้างครับ
ทองคำ Hard Asset เเลกกับ Fiat Currency ที่สามารถพิมพ์ออกมาได้ไม่จำกัด
นี้ใช่การปล้นทองคำจากประชาชน
นี้คือการปล้นความมั่งคั่งจากประชาชนใช่หรือไม่ ?
ความต้องการของทองคำได้เพิ่มขึ้นอีกครั้ง
ปี 1962 เกิดวิกฤตขีปนาวุธในคิวบา
ซึ่งวิกฤตในครั้งนั้นได้ไปจุดชนวน Demand ในตัวทองคำ
ในตลาดลอนดอนเรียกได้ว่าสูงเป็นประวัติการณ์
ธนาคารกลางเริ่มกดราคาทองคำโดยการขายทองคำส่วนที่อยู่ในรีเสิร์ฟ
ที่เรียกว่า "The Gold Pool"
Such manipulation only works today as long as paper ETF
markets and the physical markets remain coupled together
การกดราคาทองคำที่ทำอยู่ในเวลานี้ สามารถทำได้ตราบเท่าที่ตลาด
กระดาษ ETF และตลาดทองคำ physical มันเกาะติดควบคู่กันอยู่
(ราคาทองคำที่เเท้จริง กำลังถูกกดโดยทองคำกระดาษ)
ในช่วงที่เกิดเศรษฐกิจถดถอยและวิกฤตเงินเฟ้อ เมื่อปี 1978-1980
ราคาทองคำพุ่งขึ้น 29% ในปี 1978
120% ในปี 1979
และ 29% อีกครั้งในปี 1980
กราฟด้านบนจะเเสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของราคาทองคำกับดัชนี้หุ้น Nasdaq ครับ
หลังจากการเเตกตัวของฟองสบู่ Dotcom
ราคาทองคำก็เพิ่มขึ้นกว่า 40%
เมื่อสหรัฐเข้าสู่สงครามกับอัฟกานิสถานและอิรัก
Federal Reserve ก็มีการเริ่มสะสมทองคำอีกครั้ง
**เราจะเห็นได้ว่า ทุกช่วงเวลาที่เกิดวิกฤต
ราคาทองคำจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น
คำถามคือ ตอนนี้เราอยู่ในวิกฤตเเล้วหรือยัง ?
ราคาของทองคำที่เพิ่มสูงขึ้นมา
ตั้งแต่ปี 2009 -2012
ยังคงอยู่ในความทรงจำของพวกเราเสมอมา
ราคาของทองคำพุ่งสูงขึ้นไปถึง 70%
ในช่วง Credit Crash
แต่แล้วพวกฺBankers
ก็สามารถกดราคามันกลับลงมาจนได้
เเละยังมี many mainstream “experts”
ออกมาพูดเเละคาดการณ์ว่าราคาทองคำ
นั้นจะร่วงลงต่ำกว่า $1,000 ต่อทอยออนซ์
เเละเเท้จริงเเล้ว "experts" เหล่านี้ก็เคยทำนายว่าทองคำจะร่วงลงต่ำกว่า
$1,000 ทุกปีมาตลอด 7 ปีแล้ว..
สำหรับคนที่รอทองคำราคากลับลงไปต่ำกว่า $1,000 ต่อทอยออนซ์
นั้นคงเป็นไปไม่ได้อีกเเล้ว
Why ?
เพราะธนาคารกลางกำลังเข้าซื้อทองคำกันอย่างบ้าคลั่ง
และเพราะว่าระบบเศรษฐกิจของโลก
กำลังอยู่ในฐานะที่ย่ำแย่
www.ft.com
ตั้งแต่การพังของระบบการเงินเมื่อปี 2008
ปัญหาที่เเท้จริงกลับไม่ได้รับการแก้ไขเลย..
ราคาของทองคำนั้นปรับตัวขึ้นจาก $1200 ในเดือนกันยายน ปี 2018
ไปถึง $1,600 ยาวตลอดทั้งปี
แต่ธนาคารกลางต่างๆก็ยังคงซื้อทองคำ
ไม่ว่าราคาจะขึ้นไปเท่าไหร่ก็ตาม
พวกเขาคงรู้ดีในสิ่งที่พวกเรานั้นคาดไม่ถึง..
เราได้เห็นถึงการสะสมทองคำที่เกิดขึ้นก่อนเวลาที่จะเกิดการ Collapse ของระบบการเงิน
เราได้เห็นการ Freeze ที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้น
**เราจะรับมืออย่างไรถ้าเกิดการ Freeze
ของตลาดหุ้นอีกครั้ง
เราได้เห็นถึงการ munipulate ในตัวของราคาทองคำ
**เราจะทนได้มั้ย ถ้าราคาทองคำถูกกดให้ต่ำลง
1 ปี 2 ปี หรือนานกว่านั้น
ถ้าทนได้คุณก็สามารถซื้อทองคำได้ทุกราคา..
ทองคำเคยถูกกดราคามานานเเสนนาน
นั้นก็หมายความว่าทองคำก็อาจจะถูกกด
ราคาในครั้งนี้เช่นกัน ?
เเละเราได้เห็นถึงความสามารถในการเป็น
Safe Haven (หลักประกัน) ของทองคำที่จะทำหน้าที่ของมันเวลาที่เกิด Crisis ขึ้น
เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอครับ
เเละบังก็จะย้ำทุกคนเหมือนเดิมนะครับ
ศึกษา วางเเผน
ทำการบ้านในทุกสินทรัพย์ที่จะลงทุน
ด้วยตัวเราเองเสมอ
ประวัติศาสตร์ได้เเสดงที่มาที่ไปให้เราได้เห็นเเล้ว
เรียนรู้เเละนำมาประยุกต์ใช้นะครับ
ความรู้จะเป็นเกราะป้องกันให้กับตัวเราเอง
เเละเรายังสามารถเเบ่งปันความรู้ที่เราได้รับมา
ให้กับคนรอบข้างได้อีกด้วย
เพื่อน ญาติ พี่น้อง คนที่เรารัก
สร้างเกราะป้องกันที่เข้มเเข็งให้กับพวกเขานะครับ
ถึงเเม้ว่าวิกฤตจะเกิดขึ้นหรือไม่นั้น
มันไม่สำคัญเลย..
ช่วงเวลาในตอนนี้
คือช่วงเวลาที่เราต้องรักกันให้มากที่สุด
ช่วยเหลือกันเเละกันให้มากที่สุดครับ
บังหวังว่าบทความนี้ จะช่วยให้ทุกคนเห็นมุมมอง
ของทองคำมากยิ่งขึ้นนะครับ
ขอให้ทุกวันเป็นวันที่ดีของทุกคนนะ
เพราะความรู้คือของขวัญที่ดีที่สุด📚
ตอนนี้บังได้สร้างซีรี่ย์อัลบั้มของบทความไว้เเล้ว
สำหรับคนที่สนใจสามารถติดตามอ่าน
ย้อนหลังได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้เลยนะครับ
Legendary Advice
Economic Collapses
Everything is Gold
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ
ถ้าชอบบทความนี้ ช่วยกด Like กดติดตาม
เเชร์บทความนี้ เพื่อเป็นกำลังใจให้บังด้วยนะครับ🖤

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา