28 เม.ย. 2020 เวลา 13:16 • ข่าว
FOCUS : ประเด็นน่าสนใจวันนี้
1. UN อาจแตกคอกับสหรัฐฯ !! ล่าสุด Reuters รายงานว่าสหรัฐฯ จะต้องต่อสู้อย่างหนักกับ UN หากจะเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรแก่อิหร่าน
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า สหรัฐฯ จะต้องเผชิญกับการต่อสู้ที่ยากลำบากหากจะข่มขู่ให้ประเทศในกลุ่ม UN คว่ำบาตรเพิ่มเติมแก่อิหร่าน โดยการสั่งให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ขยายข้อจำกัดสำหรับกรุงเตหะราน
รัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยกลยุทธ์ที่ได้รับการยืนยันโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐบาลของอังกฤษ, ฝรั่งเคส, เยอรมัน ซึ่งก็คือกลุ่มประเทศที่เคยเป็นสักขีพยานระหว่างข้อตกลงนิวเคลียร์ในปี 2015
โดยข้อตกลงดังกล่าวจะหมดอายุในเดือนตุลาคมปีนี้ และสหรัฐฯ ได้ร่างมาตรการที่จะขยายระยะเวลารวงถึงข้อจำกัดเพิ่มเติมแก่อิหร่าน แต่ปัญหาก็คือเรื่องนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันจากอีก 11 ประเทศที่เหลือแต่อย่างใด โดยเฉพาะรัสเซียและจีน
"ข้อตกลงดังกล่าวจะต้องล่มเมื่อมาถึงกำหนด" นักการฑูตซึ่งเป็นสมาชิกของ UNSC คนหนึ่งกล่าวภายใต้เงื่อนไขที่ไม่เปิดเผยตัวตน
"มันเป็นเรื่องยากมากที่จะนำเสนอ ให้ประเทศอื่น ๆ ปฏิบัติตามมติที่สหรัฐฯ ได้ตัดสินใจถอนตัวออกมาเอง"
1
การโหวตผ่านข้อตกลงนั้นจะต้องได้รับการยินยอมจากสมาชิกอย่างน้อย 9 ประเทศ ดังนั้นสหรัฐฯ จึงต้องต่อสู้เพื่อให้รัสเซียและจีนยอมรับข้อตกลงดังกล่าวให้ได้ ขณะที่ท่าทีของรัสเซียและจีนในปัจจุบัน ยังไม่มีการตอบสนองใด ๆ ต่อข่าวนี้
"หากสภาไม่อาจโหวตผ่านเพื่อขยายมารตรการได้ สิ่งต่อไปที่สหรัฐฯ จะพยายามทำก็คือ "การรักษามาตรการคว่ำบาตรไว้เช่นเดิม" แต่คงเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก เพราะหากเราตัดความคิดของอังกฤษ ฝรั่งเคส และเยอรมันออกไป ดูเหมือนรัสเซียและจีน จะไม่ยอมลงชื่อในของตกลงใหม่นี้" สมาชิกในกลุ่ม EU คนหนึ่งกล่าวภายใต้เงื่อนไขที่ไม่เปิดเผยตัวตน
Comment : เราจะสังเกตได้ว่าประเทศอื่น ๆ เริ่มแข็งข้อกับสหรัฐฯ มากขึ้นทุกวันแล้วนะครับในปัจจุบันนี้ ถือเป็นอีกเรื่องที่น่าติดตามครับ
2. สหรัฐฯ เพิ่มมาตรการควบคุมสำหรับการส่งออกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไปยังกองทัพของจีน
สหรัฐฯ ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ระบุว่า จะทำการเพิ่มมาตรการควบคุมสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งไปยังจีน โดยจะทำให้พวกมันอยู่ห่างจากเงื้อมมือของกองทัพจีน
กฎหมายใหม่นี้ จะกำหนดให้บริษัทต่าง ๆ ของสหรัฐฯ ที่ส่งออกอุปกรณ์ประเภท Semiconductor และอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับ Technology จำเป็นต้อง "มีใบอนุญาต" จากรัฐบาลเสียก่อน ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์บางอย่างที่ใช้ในระดับพลเรือนทั่วไปด้วย
ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ กำลังแย่ลงท่ามกลางการระบาดของ Coronavirus ขณะที่กฎหมายใหม่กำลังจะถูกบันทึกลงสู่ Federal Register ในวันนี้
Wilbur Ross รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ให้เหตุผลสำหรับการกระทำครั้งนี้ว่า "มันเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องตัดสินใจในการทำธุรกิจกับประเทศที่เคยเบี่ยงเบนสินค้าของสหรัฐฯ ไปใช้เป็นเทคโนโลยีทางการทหาร"
Comment : พูดง่าย ๆ คือเขาให้เหตุผลว่า ต้องเพิ่มมาตรการควบคุม เนื่องจากจีนเคยดัดแปลงอุปกรณ์อิเล็กทรอกนิกส์ของสหรัฐฯ และเอาไปใช้ทางการทหารนั่นเอง เรื่องนี้ควรเรียกว่า Development หรือ Copy ?? ฝากไว้ให้คิดเอาตามวิจาณญาณของท่านผู้อ่านครับ
นอกจากนี้ ในกฎหมายดังกล่าวยังมีการจำกัดสินค้าส่งออกไปยังรัสเซียและเวเนซุเอลาอีกด้วย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าการกระทำดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อให้รัฐบาลสหรัฐฯ สามารถตรวจสอบได้มากขึ้น ว่ามีสินค้าประเภทใดบ้าง ที่ถูกส่งไปยังประเทศจีน รัสเซีย และเวเนซุเอลา
โดยสรุปแล้วประเภทสินค้าที่จะถูกจำกัดอย่างเข้มงวดก็คือ
1. สินค้าประเภท Semiconductor
2. สินค้าที่เกี่ยวกับวงจรอิเล็กทรอนิกส์
3. อุปกรณ์โทรคมนาคม
4. อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับเรดาร์
5. ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ขั้นสูง
6. สินค้าอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและความมั่นคงของประเทศ
Comment : ดูเหมือนเทคโนโลยีทางการทหารของสหรัฐฯ กำลังเผชิญความท้าทายอย่างหนักเช่นกัน โดยปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่ามีประเทศอื่น ๆ ก้าวขึ้นมาบนเวทีโลก และท้าทายความเป็นมหาอำนาจของสหรัฐฯ ในเกือบทุกด้าน ถือเป็นเรื่องที่น่าจับตามองอย่างยิ่งสำหรับช่วง 10 ปีให้หลังจากนี้ไป
3. HSBC ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ประกาศผลกำไรลดลงเกือบ 50% ในไตรมาสแรก
1
HSBC Holdings Plc ได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกที่ไม่เป็นไปตามคาดหวัง หลังจากธนาคารจัดสรรเงินเยียวยามากขึ้นสำหรับ "หนี้เสีย" ที่เกิดขึ้นจากวิกฤต Coronavirus
โดยธนาคารได้รายงานผลประกอบการก่อนหักภาษี (Pre-Tax Profit) ลดลงถึง 48% เมื่อเทียบกับปีก่อน สู่ระดับ 3.23 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าระดับคาดการณ์ที่ 3.67 พันล้านดอลลาร์
รายได้ทั้งหมดลดลง 5.1% จากปีก่อน สู่ระดับ 13.69 พันล้านดอลลาร์ และมูลค่าหุ้นของบริษัทใน London และ Hong Kong ลดลงถึง 29.7% และ 35.1% ตามลำดับ
เกร็ดความรู้ : HSBC คือหนึ่งในธนาคารซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของบริษัท Hin leong ของสิงคโปร์ที่พึ่งยื่นขอป้องกันการล้มละลายไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ธนาคารยังได้ปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายชดเชยทางด้าน Credit ขึ้นจาก 2.4 พันล้านดอลลาร์เป็น 3 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะมีการสูญเสีย Credit กว่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2020 นี้
Comment : กล่าวคือเงิน 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ตรงนี้ มีไว้เพื่อชดเชยการเกิด "หนี้เสีย (NPL)" ในระบบสินเชื่อ (Credit) ของธนาคารนั่นเอง
การกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม และการติชมในเชิงสร้างสรรค์ของคุณ เป็นกำลังใจให้เราและเหล่าอาชีพนักเขียนทุกคนในการพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ขอเชิญทุกท่านร่วมสร้างสังคมการเรียนรู้ที่ดีด้วยกันกับเรา
World Maker
สามารถติดตาม World Maker ผ่านทาง Facebook ได้แล้ววันนี้ที่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา