ทำยังไงให้คิด ทะลุกรอบ !
ภายใต้วิกฤตเช่นนี้ หลายคนเรียกร้องให้รีบมองหาโอกาส แต่พูดง่าย ทำยาก !
คนที่โชคดี มองเห็นโอกาสภายใต้วิกฤต ก็รอดตัวไป แต่หลายคน ไม่ได้โชคดีเช่นนั้น
ทำยังไง จึงจะมีไอเดียดีๆ เพื่อพาชีวิตและธุรกิจให้รอดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้
Harvard Business Review แนะนำ 4 แนวทาง
1. Science Fiction - หานิยายเพ้อฝันทางวิทยาศาสตร์มาอ่าน หรือหาหนังแนวบันเทิงคดีเชิงวิทยาศาสตร์ (Sci Fi) มาดู สินค้าและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกนี้หลายอย่าง ได้มาจากไอเดียฝันๆ ในหนังสือหรือภาพยนตร์แนวนี้ ตัวอย่างเช่น รถขับเองโดยไม่ต้องมีคนขับ มีในหนังเจมส์บอนด์ 007 มาหลายสิบปี ก่อนที่จะมีรถจริงๆ ให้เห็น
2. Analogies - เปรียบเทียบและเลียนแบบความสำเร็จของส่ิงที่ไม่เหมือนกัน เช่น ธุรกิจแชร์ริ่งอย่าง Airbnb ประสบความสำเร็จด้วยการทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างเจ้าของบ้านกับลูกค้าผู้อยากหาที่พักระยะสั้น Uber หรือ Grab ก็เลียนแบบความสำเร็จนี้ มาใช้กับเจ้าของรถและคนที่ต้องการใช้รถ เป็นต้น อนาคตต่อไป เราอาจเห็นธุรกิจแชร์ริ่งแบบนี้ ระบาดไปสู่สินค้าอื่นๆ อีกมากมาย ก็เป็นได้
3. First Principles Logic - รื้อวิธีคิดแบบเดิมแล้วเริ่มต้นคิดแบบใหม่ ตัวอย่างเช่น บริษัทยาชื่อ Regeneron เคยใช้วิธีการทดลองยาใหม่ โดยเริ่มต้นจากทดลองกับหนูก่อน เมื่อประสบความสำเร็จแล้ว จึงนำมาทดลองใช้กับคนต่อไป ซึ่งที่ผ่านมา พบว่าเมื่อนำมาใช้กับมนุษย์ มักประสบความล้มเหลว เพราะหนูกับมนุษย์มีโครงสร้างทางยีน (Gene) ไม่เหมือนกัน บริษัทจึงรื้อวิธีคิดแบบเดิมแล้วเริ่มคิดแบบใหม่ โดยการนำหนูที่เกิดจากการปรับเปลี่ยนพันธุกรรมด้วยการปลูกถ่ายยีนของมนุษย์เข้าไปในตัวหนู มาทำการทดลองแทนหนูแบบเดิม ปรากฎว่าช่วยให้ผลการทดลองกับมนุษย์ ประสบความสำเร็จในอัตราที่เพิ่มสูงขึ้นมาก หรืออีกตัวอย่าง Elon Musk เจ้าของโครงการ Space X เคยคิดจะขอซื้อยานอวกาศจากโซเวียต แต่โซเวียตไม่ขาย แทนที่จะพยายามหาซื้อจากประเทศอื่นหรือต่อรองกับโซเวียตต่อไป เขาเลือกใช้วิธีคิดใหม่ ด้วยการตัดสินใจลงมือสร้างเอง เป็นต้น ลองดู จากนี้ไป แทนที่จะพยายามคิดต่อยอดจากสิ่งเดิมที่ทำอยู่ ลองคิดแบบใหม่ โดยเริ่มต้นจากศูนย์แล้วคิดต่อไป อาจคิดอะไรดีๆ ออก ก็ได้
4. Exploring Adjacencies Using Exaptation - อย่าไปแปลภาษาอังกฤษ เข้าใจยาก ! เอาเป็นว่าวิธีนี้คือ ลองคิดว่าสิ่งที่เรามีอยู่ เอาไปใช้หรือทำอย่างอื่นได้อีกหรือเปล่า วิธีการคิดแบบนี้ มี 2 แนวทาง
4.1) Skill Forward : เรามีทักษะอะไรอยู่ ซึ่งสามารถนำไปทำสินค้าหรือบริการอย่างอื่นเพิ่มเติม นอกเหนือจากที่ทำอยู่ในปัจจุบันได้ เช่น ปัจจุบันมีทักษะเป็นช่างประปา สามารถนำทักษะเกี่ยวกับการเดินท่อประปา ไปรับทำงานเดินท่อร้อยสายไฟ ให้ดูสวยงามไม่รกรุงรัง ได้ เป็นต้น
4.2) Customer-needs Backward : เอาความต้องการหรือปัญหา (Pain Point) ของลูกค้าเป็นตัวตั้ง แล้วออกแบบสินค้าหรือบริการให้ตอบโจทย์ลูกค้า เช่น Amazon ขายหนังสือออนไลน์ พบว่าลูกค้ามีปัญหาไม่รู้จะอ่านหนังสือออนไลน์บน Platform อะไรดี เลยคิดทำ Kindle (เครื่องอ่านหนังสือขนาดพกพา) มาขายเพิ่มเติม เป็นต้น
ลองค่อยๆ คิดดูครับ อย่าเพิ่งยอมแพ้ ทุกวิกฤตมีโอกาสเสมอ !
ที่มา : “Leadership Hacks by Apiwut” สนใจเกร็ดความรู้ ทุกเช้าแบบสดใหม่ ติดตามได้ที่ Blockdit : http://bit.ly/38yuMHB
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
