Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
แม่มีความคิดว่า....
•
ติดตาม
1 พ.ค. 2020 เวลา 07:50 • ปรัชญา
EP. 3 #ฆราวาสธรรม สัจจะ ทมะ
ครอบครัวอบอุ่น : การสร้างรากฐานครอบครัว
บทที่ ๑ ตอนที่ ๒/๑
💝💝💝💝💝💝💝💝💝💝💝💝💝💝💝💝
เมื่อใครก็ตามคิดเลือกคู่ชีวิต หรือคิดที่จะแต่งงานเป็นสามีภรรยาอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว ก็ต้องเตรียมใจว่า ไม่สามารถหลบหลีก ๔ ปัญหาหลักดังกล่าวได้
การป้องกันปัญหานี้ แม้ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีทางแก้ไขหรือป้องกัน
เพราะหากแต่ละคนรู้ว่าหัวใจของครอบครัวคืออะไร และทุกคนก็ตั้งใจดูแลหัวใจของครอบครัวอย่างดีที่สุดแล้ว ในที่สุดปัญหาเหล่านี้ก็จะหมดไป
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงให้ธรรมหมวดหนึ่ง ซึ่งสามารถใช้เป็นหลักฐานชีวิตและครอบครัวให้มั่นคง นั่นคือ "ฆราวาสธรรม" ซึ่งประกอบด้วย หลักการ ๔ ข้อ คือ สัจจะ ทมะ ขันติ จาคะ ทั้งสี่ข้อนี้เป็น "หัวใจครอบครัว"
ตามปกติ ถ้าหัวใจของเรายังเต้น เราก็ยังมีชีวิตต่อไป ถ้าตราบใดก็ตาม ที่สมาชิกแต่ละคนในครอบครัว ยังมีฆราวาสธรรมอยู่ประจำตัว หัวใจของครอบครัวก็ยังคงเต้นอยู่ ปัญหาเหล่านี้ก็จะไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน มีแต่ครอบครัวที่มั่นคง อบอุ่น สามัคคีกันขึ้นทุกวัน
🍉🍉🍉🍉🍉🍉🍉🍉🍉🍉🍉🍉🍉🍉🍉🍉
ฆราวาสธรรม อันประกอบด้วยหัวใจครอบครัว ๔ ข้อนั้น มีความสำคัญอย่างไรบ้าง และช่วยป้องกันแก้ไขปัญหาประจำครอบครัวอย่างไร พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงชี้ให้เห็นไว้ดังนี้
ลงให้ดูความน่ารักจะได้อ่านไม่เครียดค่ะ
🌺๑.สัจจะ แก้ปัญหาความหวาดระแวงกันและกัน
สัจจะ แปลว่า ความจริงใจ ความจริงจัง ตลอดจนความซื่อตรงต่อกันและกัน
ถ้าแปลอย่างนี้ หลายคนอาจมองภาพไม่ชัด แต่ถ้าจะแปลเพื่อส่องให้เห็นแนวทางปฏิบัติชัดๆ ก็ต้องแปลว่า สัจจะ คือ ความรับผิดชอบ หรือ นิสัยรับผิดชอบ
เมื่อมองในแง่ของความเป็นครอบครัว นิสัยรับผิดชอบของแต่ละคน ถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง
เพราะถ้าใคร ขาดนิสัยความรับผิดชอบเมื่อไหร่ ความหวาดระแวงต่อกันตะเกิดทันที
ในทำนองเดียวกัน ถ้าหากใครจะเลือกคู่ครอง สิ่งแรกที่ต้องมองให้ชักเจน คือเรื่องความรับผิดชอบของคนๆนั้น
ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายหญิงหรือฝ่ายชาย ต้องมองให้ออกว่าเขามีมากพอที่จะรับผิดขอบความเป็นความตาย ความรุ่งเรือง ความล่มสลาย ของครอบครัวได้หรือไม่
🍄🍄🍄🍄🍄🍄🍄🍄🍄🍄🍄🍄🍄🍄🍄🍄
คนมีสัจจะ ย่อมแสดงความรับผิดชอบออกเป็น ๔ ด้าน คือ
๑) ด้านหน้าที่และการงาน คือ ไม่ว่าจะได้รับหน้าที่มากน้อยแค่ไหน งานในแต่ละหน้าที่เหล่านั้นจะยากเย็นแสนเข็ญเพียงใด และสภาวะต่างๆ จะไม่เอื้ออำนวยขนาดไหน งบประมาณก็มีอยู่จำกัด กำลังคนก็มีอยู่น้อยนิด เวลาก็กระชั้นชิด ความรู้ก็มีอยู่ไม่พอกับงาน แม้กระนั้น คนที่มีสัจจะย่อมจะตั้งใจขวนขวายรับผิดชอบด้วยการ "ทำงานชิ้นนั้นให้สำเร็จและให้ดีที่สุดด้วย"
๒) ด้านคำพูด คือ ต้องเป็นผู้ที่พูดอย่างไร ก็ทำอย่างนั้น และทำอย่างไรก็พูดอย่างนั้น ไม่ใช่ทำคืบมาโม้ว่าทำมากเป็นศอก หรือทำศอกมาโม้ว่าทำเป็นวา การกระทำต้องตรงกับคำพูดตัวเองเสมอไป
๓) ด้านการคบคน คือ คบค้าสมาคมกับใครด้วยความจริงใจ ไม่มีหลี่ยมคู มีอะไรก็ว่ากันตรงๆ เตือนกันตรงๆ ไม่มีเบื้องหน้า เบื้องหลัง ใช้ความจริงใจแลกความจริงใจ ที่สำคัญที่สุด คือ ไม่ลำเอียง หรือไม่มี อคติ ๔ ประการ ได่แก่ ไม่ลำเอียงเพราะรัก ไม่ลำเอียงเพราะชัง ไม่ลำเอียงเพราะโง่(ไม่รู้) ไม่ลำเอียงเพราะกลัว
๔) ด้านศีลธรรมความดี คือ ในเรื่องส่วนตัว ถือเอาหลักธรรมเป็นใหญ่ ไม่ยอมทำในสิ่งที่ผิดศีล ผิดธรรม ผิดประเพณี และผิดกฤหมายบ้านเมือง จึงปิดคุก ปิดตาราง ปิดนรก และเปิดสวรรค์ให้ตัวเองได้อย่างสง่าผ่าเผย
เพราะฉะนั้น เมื่อพิจารณาตามนี้ คนที่มีสัจจะก็คือคนที่มีความรับผิดชอบ ทั้งต่อหน้าที่การงาน ต่อคำพูด ต่อคนที่คบด้วย และต่อคุณธรรม ซึ่งจะทำให้เป็นคนที่คิดดี พูดดี ทำสิ่งใดก็มีความตั้งใจจริงในทุกสิ่งที่คิด ที่พูดและทำนั้นให้ดีที่สุด
🍆🍆🍆🍆🍆🍆🍆🍆🍆🍆🍆🍆🍆🍆🍆🍆
ทั้งนี้เพื่อเป็นการยกระดับความรู้ ความสามารถ และความดีของตนเองให้มากยิ่งๆขึ้นไป
ดังนั้น สัจจะของเรานั้น สามารถดูออกได้จาก ๔ ด้านนี้ ยิ่งมีมากเท่าไหร่ ย่อมแสดงว่าเขามีความรับผิดชอบมากเท่านั้น
เพราะคนประเภทนี้ เขามักมีหลักง่ายๆ ประจำใจอยู่เสมอว่า
"ไม่ว่าจะทำอะไร ต้องทำให้ดีที่สุด พูดจาอะไรก็ชัดเจนที่สุด จิตใจก็มั่นคงในศีลธรรมที่สุด"
คนมีสัจจะ ไม่เฉพาะคนในครอบครัวที่ไว้วางใจ แม้แต่พรรคพวกเพื่อนฝูงก็ให้ความไว้เนื้อเชื่อใจมาก ความหวาดระแวงที่อาจจะเคยมีมาก่อน ก็จะยิ่งลดน้อยถอยลงไปมากเท่านั้น
แต่ถ้าใครไม่มีสัจจะ ไปตรงไหนก็เจอความหวาดระแวง ความไม่น่าเชื่อถือตรงนั้น คนดีๆมีแต่คนหลีกหนีไม่อยากเข้าใกล้ ไม่อยากคบค้าสมาคมด้วย เพราะกลัวว่าจะพลอยทำให้เขาเสียชื่อเสียงไปด้วย
เพราะฉะนั้น ถ้าคนในครอบครัวไม่มีสัจจะ หรือไม่มีนิสัยรับผิดชอบต่อหน้าที่การงาน ต่อคำพูด ต่อบุคคล และศีลธรรมความดี ปัญหาความหวาดระแวงจึงได้เกิดขึ้นมา แล้วจะอยู่ด้วยกันได้อย่างไร
ดังนั้น ครอบครัวจะมีรากฐานมั่นคงอยู่ได้ คนในบ้านจะต้องมี "สัจจะ" เป็นนิสัยข้อที่หนึ่ง
1
🍊🍊🍊🍊🍊🍊🍊🍊🍊🍊🍊🍊🍊🍊🍊🍊
🌺๒. ทมะ แก้ปัญหาความโง่เขลา ไม่ทันโลก ไม่ทันคน ไม่ทันกิเลส
ทมะ แปลว่า รู้จักข่มจิตข่มใจตัวเอง
ในทางปฏิบัติ ทมะ หมายถึง ความกระตือรือร้นในการเคี่ยวเข็นฝึกตนเอง อย่างไม่มรข้อแม้เงื่อนไข เพื่อให้ตนเองมีทั้งความรู้ ความสามารถ และความดีเพิ่มพูนมากขึ้นทุกวันๆ
ทมะ อาจแปลอีกอย่างเป็นภาษาชาวบ้านพื้นๆง่ายๆว่า รักการฝึกฝนตัวเอง ซึ่งบางทีปู่ย่าตาทวดท่านถึงกับใช้คำว่า อย่าปล่อยให้ตัวเองโง่
🍌🍌🍌🍌🍌🍌🍌🍌🍌🍌🍌🍌🍌🍌🍌🍌
วิธีการที่จะเพิ่มความรู้ ความสามาถและความดีในเรื่องใดๆก็ตาม มีการปฏิบัติอยู่ ๔ ขั้นตอน คือ
๑) ต้องหาครูดีให้เจอ คือ ไม่ว่าใครจะสนใจหรือเพิ่มพูนความรู้เรื่องอะไรให้ตัวเองก็ตาม ผู้นั้นจะต้องหาคนที่มีความรู้ความสามารถในด้านนั้นๆ มาป็นครูให้ได้ก่อน มิฉะนั้น โอกาสที่จะทำล้มเหลวมีมากหากหาไม่ได้จริง อย่างน้อยที่สุด ก็ต้องเป็นผู้ที่รู้ในเรื่องเหล่านี้มากที่สุดในภาวะนั้น
๒) ต้องฟังคำครู คือ ต้องตั้งใจฟังแล้วฟังอีก ถามแล้วถามอีก จนกระทั่งจับประเด็นได้ว่า สิ่งที่ครูสอนนั้น ทั้งหลักการ และวิธีการ มีอะไรบ้างอย่างชัดเจน มีความลึกขนาดไหน มีความลุ่มลึกแค่ไหน
๓) ต้องตรองตามคำครู คือ นำแต่ละประเด็นที่ครูอธิบายแล้วอธิบายอีกอย่างดีแล้วมาพิจารณา ให้เข้าใจเหตุผล ทั้งในแง่ของความสำคัญการใช้งาน ข้อควรระวัง และผลได้ผลเสียที่จะตามมาให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
๔) ต้องทำตามคำครู คือ หลังจากที่พิจารณาคำครูได้เข้าใจดีแล้วว่า ว่าถูกต้องและเหมาะสมเป็นอย่างไร ก็ลงมือปฏิบัติตามด้วยความมีสติรอบคอบ ระมัดระวัง ไม่ประมาท พลั้งเผลอจนำไปสู่ความล้มเหลวในบั้นปลายได้
คนที่จะมีความรู้ ความสามารถ ความดีได้เต็มที่ ต้องอาศัยวิธีการนี้เท่านั้น ในการฝึกฝนตนเองให้ทันโลก ทันคน ทันกิเลส
🍅🍅🍅🍅🍅🍅🍅🍅🍅🍅🍅🍅🍅🍅🍅🍅
แต่แน่นอนว่า การจะทำได้อย่างนี้ ต้องทนฝืนใจ ข่มใจ และบางครั้งเจ็บเข้าไปในใจเหมือนเลือดไหลซิบๆออกมา
สาเหตุที่ต้องทนฝืนใจ ข่มใจ ก็เพราะการฝึกใดๆ ถ้าไม่สามารถเปลี่ยนนิสัย ไม่ชื่อว่าการฝึกตัว
ยกตัวอย่าง เช่น แค่จะแก้นิสัยชอบกินจุบกินจิบ มันก็ไม่ง่าย หรือเพียงแค่นิสัยชอบนอนตื่นสาย พูดไม่เพราะ ชอบเถียงพ่อเถียงแม่ ก็ต้องหากุศโลบายมาแก้ไขกันหืดขึ้นคอ
รวมทั้งการฝึกตัวเองให้ละเอียดลออไม่สะเพร่า ลุ่มลึกไปตามลำดับจึงไม่หมู เพียงแค่ไม่กี่เรื่องนี้ ก็ฝึกฝนตนเองทั้งชาติ ซึ่งยังไม่นับรวมนิสัยอิจฉาตาร้อน ติดเหล้า ติดการพนัน ฯลฯ
ดังนั้น...ครอบครัวจะมีรากฐานมั่นคงอยู่ได้ ทุกคนในบ้านจะต้องมีทมะ เป็นนิสัยที่ ๒
........................ส.ผ่องสวัสดิ์.........................
🍇🍇🍇🍇🍇🍇🍇🍇🍇🍇🍇🍇🍇🍇🍇🍇
ติดตามตอนต่อไปนะคะ เดี๋ยวจะยาวเกิน
หวังว่าพี่ๆเพื่อนๆชาวบีดีจะชื่นชอบนะคะ
กดไลค์กดแชร์เป็นกำลังใจให้แม่ด้วยค่ะ
ขอบคุณมากๆนะคะที่อ่านจนจบ 🙏
แล้วแม่จะรีบมาเขียนต่อค่ะ 😊
📝📝📝📝📝📝📝📝📝📝📝📝📝📝📝📝
1 บันทึก
13
16
5
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ถ้า...อยากมีครอบครัวอบอุ่น: ตอนแรก - ล่าสุด
1
13
16
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย