9 พ.ค. 2020 เวลา 01:08
ตื่นเช้าอย่างไรให้สดใส
หากคุณเป็นคนที่นอนดึกแล้วต้องตื่นเช้าขึ้นมา จะทำอย่างไรให้เช้านั้นเป็นเช้าที่สดใสสำหรับคุณ
วันนี้ผมจะมานำเสนอเคล็ดลับในการตื่นเช้าอย่างสดใส
ซึ่งเป็นเคล็ดลับง่าย ๆ ที่ผมได้ฟังมาจากคลิปในยูทูบของคุณ ขุนเขา สินธุเสน เขจรบุตร ที่ได้แนะนำไว้ เพื่อให้คุณพร้อมที่จะรับมือกับวันใหม่อย่างเบิกบานใจได้
โดยเคล็ดลับมีทั้งหมด 3 อ. คือ อากาศ อารมณ์ และอาหาร
หากพร้อมแล้วก็ลองอ่านแต่ละ อ. ดูว่ามีเคล็ดลับอย่างไรบ้าง
1. อากาศ
หลายคนอาจจะลืมไปว่าสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าน้ำและอาหารนั้นคืออากาศ
เราขาดอาหารได้ประมาณ 3 อาทิตย์ ขาดน้ำได้ 3-5 วันโดยเฉลี่ย แต่คนเราขาดอากาศได้ไม่เกิน 5 นาที
การที่เรายังตื่นมาด้วยความงัวเงียอยู่เป็นเพราะว่าสมองยังรับออกซิเจนไม่เพียงพอ
โดยเทคนิคที่ทำให้ร่างกายตื่นตัวนั้นคือตอนที่คุณเพิ่งตื่นขึ้นมาให้สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ยาว ๆ ซัก 3-5 ครั้ง
หรือมีอีกวิธีหนึ่งให้คุณสูดหายใจเข้าลึก ๆ จนสุดและกลั้นไว้ 3 วินาที จากนั้นปล่อยออก ทำซ้ำแบบนี้ซัก 3 รอบ พอเสร็จจากนั้นหายใจสั้น ๆ เร็ว ๆ 20 ครั้ง หลังจากนั้นสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วปล่อยออกมาอีกทีนึง
และถ้าหากว่าสามารถออกกำลังกายในตอนเช้าได้นับเป็นเรื่องที่ดีมาก ทำให้ได้ 5-10 นาทีก็ยังดี เมื่อเราออกกำลังกายร่างกายเราจะหายใจลึกขึ้นเอง
2. อารมณ์
จำไว้ว่า"อารมณ์แรกคืออารมณ์หลักของวัน"
หากคุณตื่นขึ้นมาด้วยอารมณ์ที่เบื่อ วันทั้งวันของเราก็จะเป็นวันที่น่าเบื่อ และมักจะเจอสิ่งแย่ ๆ ในระหว่างวันเพราะว่าสมองของคุณจะดึงดูดสิ่งที่คุณกำลังคิดอยู่ให้คุณได้พบเจอ
ฉะนั้นเมื่อคุณตื่นขึ้นมาพยายามคิดถึงแต่สิ่งดี ๆ มันจะทำให้วันทั้งวันของคุณพบเจอแต่เรื่องดี ๆ เข้ามา
3. อาหาร
"จงทานมื้อเช้าอย่างราชา" เพราะมื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดของวัน
พยายามทานแต่สิ่งที่มีประโยชน์ และอย่าทานจนอิ่มเกินไปเพราะมันจะทำให้เราง่วงได้
นอกจากอาหารแล้วน้ำก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นเดียวกัน ดื่มน้ำให้เยอะ ๆ เพราะมันจะช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายคุณ
เคล็ดลับ 3 ข้อง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้
หากคุณอยากตื่นเช้ามาด้วยความสดใส และพร้อมเจอแต่สิ่งดี ๆ ในแต่ละวันก็ลองนำเคล็ดลับนี้ไปปฏิบัติดูครับ
#บทความเพื่อชีวิต

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา