5 พ.ค. 2020 เวลา 07:34 • ข่าว
FOCUS : ประเด็นน่าสนใจวันนี้
1. ความกังวลเรื่องสงครามการค้ากลับมาอีกครั้ง หลังจากทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีจีน
ระหว่างความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจาก Coronavirus และสงครามน้ำมัน รวมถึงความครุมเครือในด้านการเงินของบริษัทต่าง ๆ ทำให้ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ออกมาผิดเพี้ยนไปจากปกติอย่างไม่เคยมีมาก่อน
ทรัมป์และเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของเขา ได้เพิ่มคำวิจารณ์ต่อจีนอย่างรุนแรงและเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของ "ต้นกำเนิดไวรัส" โดยเขากล่าวว่าจะนำหลักฐานต่าง ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าจีนอยู่เบื้องหลังการแพร่ระบาด ออกมาเผยแพร่ต่อสาธารณะชนอย่างแน่นอน
Comment : ขณะที่ไวรัสได้คร่าชีวิตชาวอเมริกันไปแล้วกว่า 70,000 คน แต่ทรัมป์ก็ยังเล่นประเด็นเรื่องการเมืองไม่เลิก ส่วนเรื่องนี้สมควรหรือไม่สมควร World Maker อยากให้ผู้อ่านลองคิดเอาเองครับ
ความผันผวนในตลาดเพิ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากมีข่าวเรื่องนี้ออกมา ขณะที่ S&P 500 ปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน
การทรุดตัวลงอย่างรุนแรงครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นด้วยการแพร่ระบาดของ Coronavirus และตามมาด้วยสงครามน้ำมัน ส่วนปัจจัยด้านภูมิศาสตร์ทางการเมืองก็กำลังจะกลายมาเป็นปัจจัยต่อไป ที่จะช่วยเสริมให้เศรษฐกิจถดถอยมากขึ้นกว่าเดิม
ฝ่ายกลยุทธ์ของ BCA Research ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของโลกในด้านงานวิจัยระดับมหาภาค กล่าวว่า "ขณะนี้ยังไม่ใช่ว่าที่จะตั้งสมมติฐานใด ๆ ต่อความมีเสถียรภาพของระบบการเงินโลก"
และในขณะเดียวกัน บริษัทได้คำนวณออกมาแล้วว่า นักลงทุนส่วนใหญ่กำลังมองว่าความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะกลับมาทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง
"ความเสี่ยงที่รุนแรงที่สุดในขณะนี้ก็คือการที่ทรัมป์ ได้เพิ่มความตึงเครียดทางการเมืองให้แก่ระบบการเงินโลก ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจกำลังเผชิญกับภาวะที่เลวร้ายที่สุด" John Normand หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ด้านปัจจัยทางพื้นฐานของ JPMorgan Chase กล่าว
นอกจากนี้เขายังได้คาดการณ์ว่า "ราคาของสินทรัพย์ประเภทที่มีความเสี่ยงสูง (Risk Assets) จะลดลงถึง 10% หากทรัมป์ตัดสินใจขึ้นภาษีสินค้านำเข้าต่าง ๆ จากประเทศจีน"
โดยรวมแล้ว ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดเกิดขึ้น นักลงทุนได้ถอนเงินออกจากกองทุนต่าง ๆ ของสหรัฐฯ ไปแล้วประมาณ 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ (ย้ำว่าเฉพาะในกองทุนนะครับ ยังไม่รวมถึง Sectors อื่น ๆ)
VIX Index หรือที่รู้จักกันในชื่อ "Wall Street Fear Gauge" ซึ่งสะท้อนถึงค่าความเชื่อมั่นของผู้คนที่มีต่อตลาด ได้เพิ่มขึ้นอีกครั้ง เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน
Stephen Jen ซึ่งเป็น CEO ของบริษัท Eurizon SLJ Capital บริษัทชั้นนำของยุโรปในด้านการลงทุนระดับมหภาค กล่าวว่าสหรัฐฯ มีวิธีการลงโทษจีนหลัก ๆ 3 อย่างหากเหตุการณ์ยังยืดเยื้อต่อไป ซึ่งก็คือ
(1.) การจัดเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติม
(2.) การเข้มความเข้มงวดของสินค้าด้านเทคโนโลยีที่จะส่งออกไปยังจีน
(3.) การคว่ำบาตรทางการเงิน
ความเสี่ยงทั้ง 3 อย่างนี้จะทำให้ตลาดติดอยู่ในภาวะทรุดตัวไปอีกอย่างน้อยหลายเดือน หรือแม้แต่หลายปีข้างหน้า
"มาตรการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นหลังจากเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติได้แล้ว โดยหลังจากนั้นการลงโทษที่แท้จริงจะตามมา หากจีนไม่ได้ทำทุกอย่างในปัจจุบันให้ดีเพียงพอ"
Comment : โดยส่วนตัวของ World Maker มองว่าเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่ทรัมป์พยายามทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจออกไปจากความล้มเหลวในการควบคุม COVID-19 ของรัฐบาลเอง
2. FED เตรียมอัดฉีดเงินเพิ่มเติมสำหรับอุ้มหนี้และกองทุน ETF กว่า 7.5 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ จำเป็นต้องกู้ยืมเงินกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า FED กำลังเตรียมการที่จะเข้าซื้อหนี้ และกองทุน ETF หลายแห่งในสหรัฐฯ ซึ่งมีมูลค่ารวมถึง 7.5 แสนล้านดอลลาร์
ในวันจันทร์ที่ผ่านมา The New York FED ได้ประกาศผ่านเว็บไต์อย่างเป็นทางการว่ากำลังจะเข้าซื้อหุ้นของกองทุน ETF หลายแห่งตามที่เหมาะสม ซึ่งรวมถึงการเข้าซื้อพันธบัตรต่าง ๆ ที่ออกโดยบริษัทเหล่านั้น
"รายละเอียดอื่น ๆ จะประกาศให้ทราบเพิ่มเติมเมื่อใกล้ถึงเวลา" The New York FED กล่าว
สิ่งนี้ทำให้นักลงทุนบางกลุ่มรีบเทเงินเข้าไปสู่พันธบัตรต่าง ๆ ของกองทุน ETF ทันที เพื่อรอการเข้าซื้อของ FED โดย BlackRock Inc. ได้รับ Inflow ในเดือนเมษายนสูงถึง 3.7 พันล้านดอลลาร์ และทำให้ราคาหุ้นของ iShares iBoxx ปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 12%
ขณะเดียวกันนั้น ทางฝั่งกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยถึงความจำเป็นที่จะต้องกู้ยืมกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ โดยในวันจันทร์ที่ผ่านมา ได้รายงานตัวเลขของจำนวนเงินที่ใช้ไปแล้วกว่า 2.999 ล้านล้านดอลลาร์ สำหรับการพยุงเศรษฐกิจในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของ Coronavirus
ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2020 เป็นต้นมา หนี้สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นไปแล้วถึง 6.4% หรือ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 24.9 ล้านล้านดอลลาร์
การขาดดุลงบประมาณของปี 2020 ในปัจจุบันอยู่ที่ 7.44 แสนล้านดอลลาร์ และมีแนวโน้มสูงมากที่จะทำให้เกิดการขาดดุลครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ
นอกจากนี้ยังมีคาดการณ์เพิ่มเติมอีกว่า กระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะต้องกู้เงินอีก 6.77 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2020
การกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม และการติชมในเชิงสร้างสรรค์ของคุณ เป็นกำลังใจให้เราและเหล่าอาชีพนักเขียนทุกคนในการพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ขอเชิญทุกท่านร่วมสร้างสังคมการเรียนรู้ที่ดีด้วยกันกับเรา
World Maker
สามารถติดตาม World Maker ผ่านทาง Facebook ได้แล้ววันนี้ที่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา