10 พ.ค. 2020 เวลา 14:25 • ธุรกิจ
4 Mins Reading
 มาเรียนรู้ 20 คำศัพท์เฉพาะเกี่ยวกับการตลาดกัน ! - ตอน 2/2
20 Marketing Specific Term and Meaning, You should know
มาต่อกันเลยนะเพื่อนๆ ขอเลือกอีก 10 คำมาเป็นอาหารสมองให้เพื่อนๆกันต่อน้ะ
ไปกันเลยยยย !
11. Responsive Design
คำนี้อาจจะไม่ค่อยได้ยินกันเยอะ แต่พูดปั้ปร้องอ้อ ทันที !
มันคือการที่เราดีไซน์รุปแบบของ เว็ป หรือ แอพพลิเคชั่น ให้เหมาะสมกับ อุปกรณ์นั้นเช่น ลุกค้าเสิชใน Desktop, Mobile (Android Apple), Mobile web
อย่างภาพข้างล่างนี่ก็จะโชว์เป็น Design ที่เหมาะสมในแต่ละแพลตฟอร์ม ทั้งหมดก็เพื่อให้ลุกค้าเห็นข้อมูครบถ้วน สามารถคลิกเข้าถึงได้ง่ายและสบายตา
Responsive design from Pinterest.uk
12. Relationship Marketing
เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่เอาไว้สำหรับสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า ซึ่งเพื่อนๆเชื่อไหมว่า เจ้ากลยุทธ์นี้ cost ของเค้าเนี่ย น้อยกว่าการหาลูกค้าใหม่ (New lead acquisition) ซะอีกนะะ
จุดประสงค์ของเค้าคือการสร้าง Brand Loyalty
เรามีสรุปหลักหัวใจของเค้ากลยุทธ์นี้คร่าวๆให้เพื่อนอ่านน้ะ
- ต้องเข้าถึงและขยายความสัมพันธ์ลูกค้าในทุกๆ Demographic Segment (เช่นแบบ Young generation) Content ต้องมีออกมาmatch เค้าด้วยนะ
- มีการใช้โปรแกรมการให้รางวัล หรือ ผู้โชคดี กับ Loyalty customer
และนั้นจะทำให้พวกเค้ามีความต้องการที่จะซื้อสินค้ากับเพื่อนๆเพิ่ม เราว่าตรงนี้คล้ายๆ Value add เพียงแต่เราเน้นกับลูกค้าที่ซื้อของเราบ่อยๆนั้นเอง
- อย่าลืม ถ่ายถอดเรื่องราว คุณค่าของแบรนด์ ให้กัลุกค้าที่ใช้บริการอยู่ด้วยละ ! หลายๆบริษัทมักจะนึกถึงแต่การดึงดูดลูกค้าใหม่ Content ต่างๆจะออกเป็นแนวโฆษณาเสียมากกว่า อย่างไรก็ตาม ลุกค้าประจำ หรือ ลูกค้าทีซื่อสัตย์กับแบรนด์เรา พวกเค้าเหล่านี้ต้องการเห็นคุณค่าในสิ่งที่พวกเค้าเชื่อมั่นด้วย
- มั่นสอบถาม Feedback จาก ลูกค้าตัวยงของเพื่อนๆด้วยละ :)
13. Churn Rate
เจ้าตัวนี้จะเอาไว้แทรคจำนวน % ของลูกค้าที่ไม่ได้ทำการซื้อแล้วจากไป หรือ ยกเลิกการของ โดยจะเาอมาเทียบกัยตัวเลขที่ลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชม หรือคลิกกำลังจะซื้อสินค้าของเรา
อย่างข้างล่างนี้เป็นสูตรง่ายยๆ ของการคิดเจ้า % Churn rate = ลูกค้าที่ออกไปแบบไม่เลือกซื้อของ / (จำนวนลูกค้รทั้งหมดตั้งแต่เริ่มนับ + ลูกค้าใหม่ใน ช่วงเวลานั้น) * 100
ส่วนใหญ่พวกเว็ปไซต์ที่เรามีพวกโปรแกรมช่วยอย่าง CRM คอยแทรค จะทำให้เห็นจำนวนลูกค้าที่คลิก หรือ หยิบของส่ตะกร้า แต่ไม่ได้เลือกซื้อของเรา ก็จะทำให้เราคำนวนง่าย
Churn Rate calculation from Phiture.com
14. UI/UX
เพื่อนๆหลายคนเคยได้ยินชื่อย่อนี้ และก็เป็นอะไรที่ popular มากๆ
User Interface (UI) - ก็คือตัวหน้าเว็ปไซต์ หรือจะเป็น Dashboard ที่มีปุ่มและแบนเนอร์ต่างๆที่ interaction กับเรา
User experience (UX) - ตรงตัวเลยคือประสบการของผู้ใช้
อย่างทีมการตลาดเวลาจะทำโปรเจคอะไรก็ต้องมการคำนึงถึงปัจจัยนี้ อาจจะมีการให้เพื่อนๆร่วม หรือ ต่างทีม ทดลอง user experience แล้วให้ feedback ประสบการณ์เชิงผู้ใช้กลับ หรือ อาจจะมีการสุ่มถามลูกค้าโดยตรงเลยก็มีเยอะน้ะ
15. Viral Marketing
คำที่ติดหูที่สุดที่เพื่อนๆน่าจะได้ยินบ่อยคือ "ทำอย่างไรสินค้าตัวนี้ถึงจะ Viral นะ?" "ทำยังไงดีให้คนบอกต่อกัน ถึงสินค้าเราในแง่นี้บ้างน้าาา ?"
นี่ละๆ คือสิ่งที่ Viral Marketing เค้าถนัด คือ การตลาดแบบ Social network ซึ่งนั้นรวมไปถึง Word-of-Mouth Marketing
และแน่นอน สื่อช่องทางหลักๆเนี่ย คงจะไม่พ้น Facebook, IG, Tiktok ตัวกลางที่จะทำให้เกิดความฮิต หรือ Viral วลีติดปากได้ง่ายที่สุด
ข้อดีของวิธีนี้คือ เพื่อนๆจะสามารถโปรโมทแบรนด์ได้ด้วยต้นที่ต่ำ แต่อาจต้องแลกกับการสั่งสมไอเดียดีๆแทนน
แน่นอน ว่ามันมีประสิทธิภาพในการเรียก Reach หรือ คนมาดูมาแชร์นี้เองง
16. Outbound Marketing
จริงๆมันก็จะมี In & Out เนอะ
Inbound Marketing คืออ การตลาดเพื่อดึงลูกค้าเข้ามาหา ให้นึกคำว่า In ไว้น่ะเพื่อนๆ ว่าเข้ามาๆ Get in ! ส่วนใหญ่ก็จะเน้นการ attract ลุกค้าที่สนใจผลิตภัณฑ์ที่คล้ายๆกันของเพื่อนๆ เช่นเค้าอาจะ Search มาไรงี้ ก็เจอชื่อเรา และ เน้นการให้คนมา Subscribe เรามากขึ้น เช่นอาจจะมีให้ register E-mail
Inbounce Marketing process from Hubspot
Outbound Marketing แค่ชื่อก็แสดงถึงความตรงข้ามอย่างชัดเจนน อันนี้คือ การ ผลักออกไป โดย จะเป็นการที่เรา Feed พวกโฆษณาเกี่ยวกับสินค้า บริการเราถึงลูกค้า โดยไม่ได้คำนึงว่าจะเป็นลูกค้ที่สนใจไม๊ ส่วนใหญ่จะเห็นเป็น Ads ที่ขึ้นแทรกมากับ youtube หรือ โฆษณาทางรายการทีวี ที่แทรกมาเหมือนจะบังคับให้เราดู
เราว่าอันนี้เปรียบเทียบดีนะ from Kodsana.com
17. Account-based marketing (ABM)
เจ้าตัวนี้ วิธีทางการตลาดที่เราจะเจาะเฉพาะกลุ่มเป้าหมายเท่านั้น ซึ่งการสื่อสารถึงลูกค้าเนี่ย อาจมีข้อความพิเศษ ซึ่งบุคคลที่เป็น Target เนี่ย เราเรียกว่า Ideal customer profile (ICP) นั้นเองง
จาก www.drift.com
จากภาพข้างบนเราดูง่ายๆว่า ฝั่งซ้ายการตลาดแบบเจาะกลุ่มธรรมดา จะเน้นการทำให้ผู้คนสนใจแบรนด์ กรอกชื่อ ค่อยเริ่มส่งเมล์หาลูกค้าที่กรอกมา แล้วค่อยกำหนดกลุ่มเป้าหมาย
ฝั่งขวาคือ พีรามิดที่อธิบายถึงการทำงานของ ABM ซึ่งเป็นความคิดแนวใหม่คือ เราเริ่มจากการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน แล้วตามมาด้วยการสร้างสัมพันธ์ระยะยาวเลย เพื่อนๆพอจะเห็นความต่างเนอะ
จริงๆ ABM เกี่ยวข้องกับ Inbound marketing เพราะว่าเป็นการตลาดที่ดีไซน์ออกมาเฉพาะกลุ่ม อ้ะ ไปดูภาพด้านล่างเบาๆ
เพื่อนๆก็คงแบบ เอ้ยย ย้อมแมวรึเปล่า เหมือนภาพมาซ้อนกัน... ใช่แล้วเพราะ ถ้าเราพูดถึงแค่ความหมายของ Inbound Marketing อะเพื่อนๆ มันก็ค่อนข้างตรงนะ แต่เรารู้คอนเซปของ Inbound การเจาะกลุ่ม แล้วปรับใช้กลยุทธ์ของ ABM มาช่วยเนี่ย จะดีขึ้นเยอะเลยละ
18. Contextual marketing
อ่าาาห์บอกได้เลยว่า เรายังคงวนอยู่กับ Inbound Marketing อย่างที่เพื่อนๆรู้คือมันกว้างมากกก
 Contextual marketing ก็เป็น 1 ใน Inbound marketing ซึ่งคือการที่เราใช้กลยุทธ์ของการ โฆษณา หรือ Feed Content ที่เป็นในลักษณะเดียวกัน กับกลุ่มลูกค้าที่เรากำหนด ผ่านช่องทาง โทรศัพท์ หรือ เว็ป
เพื่อนๆพอจะรู้จัก SEO มะ (Search engine optimisation) ?
พูดง่ายๆก็เหมือนกันเวลาเรา เสิช สินค้าเกี่ยวกับ เครื่องกรองน้ำ.... แล้วเราไปเข้าเว็ปอื่นๆเล่น เว็ปท่องเที่ยว แล้วจู่ๆเพื่อนๆเห็นโฆษณา เครื่องกรองน้ำแว่บไปแว่บมา
และที่สำคัญคือ แบรนด์เพื่อนๆเองต้องรู้กลุ่มตลาดที่เพื่อนๆต้องการอย่างชัดเจนก่อน (Buyer Persona Segment)
ไม่งั้นละก็เพื่อนๆลองคิดดูนะ มีคอนเท้นที่ดี การเลือกการ Feed ที่ดี แต่ผลิตภัณฑืของเพื่อนๆเน้นขายกับลูกค้าองค์กร (B2B) แต่ช่องทางการโฆษณา หรือ context ของเพื่อนๆดันไปยิงใส่ลูกค้าประเภท B2C แบบนี้จบเบยย
เพราเราจำเป็นต้องใส่ Personal context ลงไปในข้อความด้วยนะ !
19. Growth marketing
Growth แน่นอนละคือความยั่งยืน การเติบโตเนอะ
Growth marketing ก็คือ การที่เราโฟกัสกับทั้ง Life cycle ของลูกค้า
ทำอย่างไรที่จะผูกมัดใจเค้าใหซื้อของกับเราต่อไปเรื่อยๆ ?
เพื่อนๆ จำโมเดลที่เราพูดถึงเรื่อง TOFU, MIFU, BOFU ได้ม้าา จากบทความตอนที่ 1
น้านแหละๆ เจ้า Growth marketing เนี่ย เค้าไม่ได้จะให้แค่โฟกัสที่ละ Funnel แต่ว่า ทั้งหมดเลยนี้ละ โดยที่หน้าที่ของเค้าคือ การที่หาช่องโหว่และอุดรูรั่วในแต่ละ funnel ของ acquisition, keep customers engaged, retain ด้วย นวตกรรม (Innovation) ต่างๆ
ซึ่งเพื่อนๆ ถึงตรงนี้อาจจะ เอ้ะ อ่านไปอ่านมาเริ่มคล้ายกับข้อข้างบน 5555
แบบนี้น้ะ
Traditional Marketing - โฟกัสเฉพาะ 1 funnel คือ TOFU และเน้นกลยุทธ์ Short term win
Account-based marketing - โฟกัสกับ Key Account ต่างๆ เจาะกลุ่มตลาดเลยทันทีและเน้น Long term relationship
ส่วน Growth marketing - เน้นทุกจุดของ Funnel แต่จะไม่ได้โฟกัสไปแค่กลุ่มเป้าหมายใหญ่อันเดียว แบบ ABM
20. Go-to-market (GTM) strategy
ก็จะกึ่งๆอยู่ใน Traditional marketing เนอะ
GTM เนี่ย คือการที่เราสร้าง Roadmap สำหรับการปล่อยตัว ผลิตภัณฑ์ใหม่
การสร้าง Unique Value proposition ซึ่งก็คือการกำหนดการสื่อสารเรื่องราว ประโยชน์ ของสินค้าของเพื่อนๆ เพื่อสร้าง First impression กับลูกค้า
ซึ่งโดยส่วนใหญ่ เจ้าวิธี GTM เนี่ยจะใช้วัดสำหรับ ช่วงเริ่มต้นของผลิตภัณฑ์ จนถึง ช่วงที่เราเรียกว่า Product Marker Fit หรือช่วงท้ายของ Introduction stage นี่เองงง ถ้า product เราพร้อมสำหรับ Growth Stage คือพวก Brand awareness, perception รวมถึงประโยชน์ต่างๆ เริ่มมี Loyalty customer และ product เพื่อนๆมีจุดยืนที่เพียงพอแล้ว
อันนี้เรามีภาพประกอบข้างล่างขยายความเกี่ยวกับ Product Lifecycle stage
Product Lifecycle - from newbreedmarketing.com
เป็นไงกันบ้างง หวังว่า 10 คำเฉพาะทางการตลาดที่เราเลือกมานี้ น่าจะช่วยให้เพื่อนๆเห็นมุมมองที่กว้างขึ้นของ Marketing เนอะ !
บางคำเพื่อนๆอาจคุ้นเคยแล้ว เราเชื่อ !
ไว้เราจะหาบทความต่อๆไป ที่ได้ลงรายละเอียดและตัวอย่างการนำไปใช้งานต่างๆ ของเจ้ากลยุทธ์เหล่านี้กันน :):)
โฆษณา