12 พ.ค. 2020 เวลา 03:55 • ข่าว
คดีฆ่าหั่นศพภรรยา ตอน2 “เมื่อลูกวัย5ขวบบอกยายว่า พ่อเอาหัวแม่ออกมายัดใส่ถุง”
ตอนที่1 ใครยังไม่อ่านตอนแรกกดอ่านก่อนจ้า
ช่วงที่ตำรวจต่างพยายามหาศพของอู๋รุ่ยหยุนนั้น ก็ได้มีข่าวลือแปลกเกิดขึ้น คนที่เข้ามาอาศัยอยู่ต่อจากนายหยาวเจิ้งหยวน (บ้านเดิมที่สงสัยว่ามีเหตุฆาตกรรม) วันหนึ่งก็โทรศัพท์มาหาตำรวจ เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตอนที่ย้ายเข้าบ้านวันแรก พบเสื้อผู้หญิงเก่าๆมัดใส่ถุงไว้ อีกทั้งยังพบก้อนเนื้อหลายก้อนใส่ไว้ในตู้เย็น ตนคิดว่าเป็นเนื้อสัตว์เสียแล้วเพราะเหม็นมากจึงนำไปทิ้งขยะ เมื่อตำรวจได้ยินดังนั้นถึงแม้เวลาจะผ่านไปหลายสัปดาห์ก็ไม่รีรอที่จะไปขุดหาขยะขึ้นมา
1
ขยะที่ถูกทิ้งรวมกันในที่เก็บขยะ กองสูงเป็นภูเขาได้ถูกรถตักและตำรวจหลายร้อยนายควานหาถุงเนื้อและถุงเสื้อผ้าดังกล่าว แต่ก็ไม่พบ
หมายเหตุ*(40ปีก่อนไต้หวันยังไม่มีการแยกขยะ เพิ่งมีกฎคัดแยกตอนปี90)
1
ตำรวจคว้าน้ำเหลวอีกครั้ง?! มีแต่พยานเด็กวัย5ขวบ และ4 ขวบ ไม่มีอาวุธสังหาร ไม่พบคราบเลือดกองโต ไม่พบศพ
วันเวลาผ่านไปหลายเดือนแต่กลับไม่มีเบาะแสของอู๋รุ่ยหยุน ฝ่ายสามีบอกว่าภรรยาหอบผ้าหนีไป ฝ่ายแม่ของภรรยาบอกว่าเชื่อว่าลูกเขยฆ่าลูกสาวตน ใครพูดความจริง และพยานเด็กทั้ง2 เห็นพ่อฆ่าแม่จริงหรือ?? ข่าวครึกโครมที่ลงหน้าหนึ่งเกือบทุกวัน แต่เมื่อไม่มีหลักฐานอัยการก็ไม่สามารถสั่งฟ้อง หยาวเจิ้งหยวนถูกปล่อยตัว เรื่องราวไม่จบแค่นี้ เมื่อคนที่อาศัยอยู่ตึกเดียวกันได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ทุกคืน คนข้างห้องฝันเห็นผีผู้หญิงหัวขาด ผู้เป็นแม่ฝันเห็นลูกสาวมาเข้าฝันบอกว่าหนาว ช่วยด้วย‼️ จนผู้เป็นแม่ต้องไปตั้งศาลเซ่นไหว้ลูก หนักข้อขึ้นเมื่อญาติคนหนึ่งของผู้ตายที่กำลังช่วยแม่ผู้ตายจัดเตรียมของอยู่ในครัว ก็เจอเหตุการณ์ประหลาดขึ้น เมื่อช้อนที่วางอยู่บนโต๊ะลอยกระเด้งกับพื้น เด้งไปมาไม่หยุดนานหลายนาที ข่าวชวนขนหัวลุกนี้ได้แพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็ว นักข่าวต่างมาทำข่าว ตำรวจถูกกดดันเพราะไม่มีหลักฐาน ร้อนไปถึงผู้บัญชาการตำรวจที่ต้องไปดูเองว่าจริงหรือไม่เรื่องลี้ลับแบบนี้ เพื่อไม่ให้ประชาชนขวัญหนี
1
วันที่ผู้บัญชาการไปเยี่ยมบ้านหรือสถานที่เกิดเหตุ ได้นั่งคุยกับแม่ผู้ตายและญาติคนอื่นๆ ฝ่ายผู้บัญชาการก็มีตำรวจยศสูงๆหลายคนและตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีไปด้วย เพื่อตรวจสอบและไม่ให้ข่าวลือแปลกๆแพร่กระจายออกไป ทุกคนนั่งคุยกันอยู่นานครึ่งค่อนวันแต่ก็ไม่พบอะไรแปลกประหลาด จนสุดท้ายเมื่อผู้บัญชาการยืนขึ้นและขอลากลับ ขณะที่ก้มใส่รองเท้านั้น ก็มีแก้วที่เขี่ยบุหรี่ลอยมาจากห้องรับแขกตกลงมากระเเทกพื้นอย่างแรง คนที่อยู่ในเหตุการณ์ถึงกับตกใจหน้าซีด ข่าววิญญาณเหี้ยนยิ่งกระพือออกไป และเมื่อย้อนไปดูปฏิทินวันที่ผู้บัญชาการไปเยี่ยมบ้านตรวจสอบนั้นยิ่งขนลุกขนพองไปกันใหญ่ เมื่อมันตรงกับวันศุกร์ ที่13 พอดี....
3
คดีฆาตกรรมที่ค้างคาหาทางออกไม่เจอ ไม่นานกลับเกิดคดีโด่งดังขึ้นมาอีกเมื่อสาววัยรุ่นญี่ปุ่นหายตัวไปขณะท่องเที่ยวอยู่ไต้หวัน หายไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นเดียวกับอู๋รุ่ยหยุน ไม่พบศพ ไม่มีเบาะแส แม่ของเธอเดินทางมาจากญี่ปุ่น เพื่อตามหาลูกที่หายไป และมั่นใจว่าลูกสาวต้องถูกฆ่าตายที่ไต้หวันแน่ๆ ตำรวจกุมขมับอีกครั้ง ข่าวหน้าหนึ่งทุกสำนักมีรูปอู๋รุ่ยหยนและวัยรุ่นชาวญี่ปุ่นที่หายตัวไปวางคู่กัน ทั้งคู่หายไปไหน??
2
หลายเดือนผ่านไปที่ตำรวจพยายามหาศพอู๋รุ่ยหยุน หรือใครที่พบเห็นอู๋รุ่ยหยุนล่าสุดแต่กลับไม่เจออะไรเลย และที่น่าแปลกทั้งแม่และสามีของเธอกลับไม่รู้เลยว่าจริงๆแล้วอู๋รุ่ยหยุนทำงานที่ไหน??? แม่ที่ติดต่อกันเฉพาะเวลาเดือดร้อนเงิน สามีที่ทำงานเป็นกะลาสีออกเรือแต่ละครั้งนานครึ่งปีปล่อยเธอเลี้ยงลูกตามลำพัง2คน เงินทองขัดสนความรักค่อยๆจืดจาง?? ไม่มีที่ที่พอจะสืบได้หรือไงนะ?? ทั้งแม่และสามีเองรู้เเค่เพียงว่าอู๋รุ่ยหยุนทำงานพาร์ททามกะดึกที่บริษัทอุปกรณ์ไฟฟ้าอะไรสักอย่าง แต่ที่ไหนก็ไม่เคยรู้ แม่ของเธอรู้จักลูกสาวดีพออย่างงั้นหรือ?? ลูกเขยฆ่าลูกสาวเธอจริงๆหรือ?? ตลอดเวลาที่สอบสวนตัวสามีหยาวเจิ้งหยวนนั้น ตำรวจพยายามบีบบังคับให้สารภาพ แต่นายหยาวเจิ้งหยวนได้แต่ก้มหน้าร้องไห้ ไม่พูดจา ตำรวจปักใจเชื่อแน่ว่า เป็นเพราะสามีรู้สึกผิดที่ฆ่าภรรยาแน่ๆถึงร้องไห้ แต่มันจะเป็นอย่างนั้นหรือ????
2
เมื่อลูกเขยที่ตนปักใจเชื่อว่าเป็นฆาตกรฆ่าลูกสาวจะถูกปล่อยตัว คนเป็นแม่อย่างนางเฉินทนไม่ได้ พยายามบอกตำรวจถึงความเป็นไปได้ต่างๆและเชื่อว่าลูกเขยคือคนฆ่าลูกสาวเธอ เธอเล่าว่าตอนที่ลูกสาวเธอเจอหยาวเจิ้งหยวนนั้นอายุเพียง 19ปีเท่านั้น ที่บ้านห้ามยังไงก็ไม่ฟัง ไม่นานก็แต่งงานมีลูกออกมาติดๆกันถึง2 คน เงินทองขัดสนเพราะเป็นวัยรุ่นทั้งคู่ และเริ่มมีปากเสียงทะเลาะตบตี ซึ่งตนคาดว่าลูกสาวน่าจะต้องการเลิกรา เพราะลูกสาวเคยบ่นว่าอยากเลิก และนี่น่าจะเป็นชนวนให้เกิดการฆาตกรรมขึ้น
3
ตลอดเวลาหลายเดือนตำรวจพยายามสืบหาว่าจริงๆแล้วอู๋รุ่ยหยุนทำงานที่ไหนกันแน่ หรือเคยทำงานที่ไหน เพราะถ้ารู้ก็จะสอบถามเพื่อนร่วมงานได้ เพื่อจะได้มีเบาะแสเพิ่มขึ้น (40ปีก่อน เทคโนโลยีไม่ทันสมัยเหมือนตอนนี้ที่จะสืบหาอะไรง่ายๆ) สุดท้ายคดีที่เหมือนจะปิดไม่ลงกลับมีความหวัง เมื่อมีสายนึงโทรมาที่สถานีตำรวจบอกว่า รู้จักคนนึงหน้าตาคล้ายกับอู๋รุ่ยหยุนเคยทำงานที่ร้านตนมาก่อน ซึ่งร้านนั้นคือร้านนวดซาวน่า (三溫暖) กลับไม่ใช่บริษัทห้างร้านอะไรอย่างที่สามีและแม่เธอบอก....
4
เมื่อตำรวจไปถึงนำรูปใบเก่าในบ้านที่พอจะหาได้ไปให้เถ้าแก่เนี้ยดู เถ้าแก่เนี้ยยืนยันว่าน่าจะใช่อู๋รุ่ยหยุน แต่อู๋รุ่ยหยุนในรูปนั้นมีไฝเม็ดใหญ่ที่ปาก แต่คนที่ทำงานในร้านเธอนั้นกลับไม่มี แต่คิดว่าน่าจะคนเดียวกันและไม่กี่วันก่อนเพิ่งมารับเงินเดือนไปเอง😳 เกิดอะไรขึ้นกันแน่?? อู๋รุ่ยหยุนยังไม่ตายอย่างนั่นหรือ??
2
เมื่อตำรวจได้เบาะแสก็รีบสืบต่อว่าแล้วตอนนี้อู๋รุ่ยหยุนอยู่ที่ไหน เถ้าแก่เนี้ยบอกว่าเธอคนนั้นมารับเงินเดือนและลาออกไปเลย ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ตำรวจพยายามสอบถามเพื่อนร่วมงานภายในร้านว่ามีใครสนิทกับอู๋รุ่ยหยุนบ้าง มีคนนึงบอกกับตำรวจว่ามีแขกในร้านชอบพออยู่กับอู๋รุ่ยหยุน และเคยไปกินข้าวด้วยกัน เมื่อตำรวจยื่นรูปอู๋รุ่ยหยุนให้พนักงานนวดคนนั้นดู เธอบอกว่าใช่..ใช่อู๋รุ่ยหยุนแน่นอน เพิ่งไปกินข้าวด้วยกันมา เมื่อตำรวจถามว่าเมื่อไหร่ เพื่อนร่วมงานเธอบอกว่าเมื่อเดือน10 เมื่อเทียบกับคำให้การที่แม่ของอู๋รุ่ยหยุนคาดว่าลูกสาวเธอถูกฆาตกรรมนั้นน่าจะเดือน7 แสดงว่าอู๋รุ่ยหยุนอาจมีชีวิตอยู่.....
1
อู๋รุ่ยหยุนที่ตำรวจตามหาอยู่นั้นคืออู๋รุ่ยหยุนคนเดียวกันจริงหรือ?? ลูกวัย5ขวบ พยานที่เห็นเหตุการณ์พ่อฆ่าแม่นั้น เห็นอะไรกันแน่?? แม่ของเธอบอกว่าลูกสาวถูกลูกเขยฆ่าทำไมปักใจเชื่อเช่นนั้น?! สามีบอกว่าหอบเสื้อผ้าเธอหนีไป แค่หนีไปจริงๆหรือ?? แล้วเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นล่ะ ผีหัวขาดที่คนฝันถึงคือใครกัน??
3
มาติดตามต่อตอนหน้าค่ะ
ตอนที่3(จบ)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา