คดีฆ่าหั่นศพภรรยา ตอน1 “เมื่อลูกวัย5ขวบบอกยายว่า พ่อเอาหัวแม่ออกมายัดใส่ถุง”
ปี1980 เกิดเหตุคดีสะเทือนขวัญขึ้นดังทั่วเกาะไต้หวัน เมื่อชายคนหนึ่งถูกต้องสงสัยว่าฆ่าหั่นศพภรรยาโดยมีลูกวัย5ขวบและ4ขวบเป็นพยาน🔪🔪🔪
ย้อนไป 40ปีก่อน หยาวเจิ้งหยวนหนุ่มกะลาสีเรือได้แต่งงานกับอู๋รุ่ยหยุน ทั้งสองอยู่กินแต่งงานกันอย่างถูกต้องตามกฎหมายและมีลูกด้วยกัน 2 คน ลูกชายคนโตวัย5 ขวบ และลูกสาวคนเล็กวัย 4 ขวบ ตอนแต่งงานอู๋รุ่ยหยุนเป็นเพียงสาววัยรุ่นอายุ 19ปี และสามีก็มากกว่าไม่กี่ปี ทั้งสองคบกันไม่นานก็แต่งงานมีลูกกัน
วันเวลาผ่านไปสองสามีภรรยามีปากเสียง เพราะทั้งสองเป็นเพียงวัยรุ่นทั้งคู่เงินทองขัดสนแถมยังมีลูกที่ต้องเลี้ยงดูอีก2คน บ่อยครั้งที่อู๋รุ่ยหยุนได้โทรไปขอหยิบยืมจากแม่ตนบ่อยๆเพื่อนำเงินมาซื้อกับข้าว
เมื่อชีวิตขัดสนก็เริ่มมีปากเสียงขึ้น อู๋รุ่ยหยุนผู้เป็นภรรยาได้ไล่สามีให้ไปออกเดินเรืออีกครั้งเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวหลังจากหยุดพักหลายเดือน หยาวเจิ้งหยวนออกเดินเรือเเต่ละครั้งใช้เวลาหลายเดือนเพื่อกลับมาบ้านที และครั้งสุดท้ายนี้ที่เขากลับมาจากเดินเรือได้เพียง3 วัน ภรรยาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย.....
อู๋รุ่ยหยุนหายตัวไปหลายสัปดาห์โดยที่ขาดการติดต่อกับแม่ของเธอ ซึ่งปกติเธอมักจะโทรไปขอเงินแม่บ่อยครั้งเพื่อนำเงินมาซื้อกับข้าวให้ลูกๆ คนเป็นแม่เริ่มกังวลเพราะติดต่อลูกสาวไม่ได้ จนต้องบุกไปหาถึงบ้านแต่ก็มารู้ทีหลังว่าลูกเขยขายบ้านและย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว เมื่อติดต่อกับลูกเขยได้ จึงสอบถามกับลูกเขยว่าลูกสาวตนไปไหนทำไมติดต่อไม่ได้ ลูกเขยนายหยาวเจิ้งหยวนตอบแต่เพียงว่า “อู๋รุ่ยหยุนหอบเสื้อผ้าหนีไปแล้ว ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน”
คนเป็นแม่ยิ่งร้อนใจ ถึงแม้จะทะเลาะกับสามีหนีไปจากบ้าน แต่จะไม่โทรหาแม่มาปรับทุกข์บอกกล่าวเลยหรือ???
วันหนึ่งนางเฉินผู้เป็นแม่ยายได้ออกอุบายอ้างว่าอยากเจอหลานๆเพราะคิดถึง ขอให้นายหยาวเจิ้งหยวนลูกเขยพาหลานมาหาที่บ้านหน่อย โดยให้ลูกชายตน(พี่ชายของอู๋รุ่ยหยุน) ชวนดื่มเหล้ามอมจนไม่ได้สติ ส่วนนางเฉินผู้เป็นยายได้พาหลานแยกออกมาและได้ไถ่ถามว่า
ยาย: รู้ไหมเเม่หายไปไหน??
หลาน: พ่อฆ่าแม่แล้ว‼️
ยาย: ฆ่ายังไงทำไมถึงฆ่า??
หลาน: พ่อเอาหัวแม่ออกมา มือและเท้าด้วย
เมื่อได้ยินดังนั้นนางเฉินได้ถามหลานอีกครั้ง และได้อัดเสียงบทสนทนากับหลานเพื่อนำไปแจ้งตำรวจ ตำรวจดักรอขณะที่นายหยาวเจิ้งหยวนรอรับลูกๆหน้าโรงเรียน คดีนี้กลายเป็นข่าวดังทันที เมื่อมีพยานเป็นเด็ก2คนซึ่งเป็นลูกของผู้ต้องสงสัย เด็กทั้งสองมียายพาไปโรงพักหลังจากที่คนเป็นพ่อถูกจับฐานฆ่าหั่นศพภรรยา
40ปีก่อน ไม่ค่อยสนใจเรื่องการคุ้มครองสิทธิเด็ก ไม่มีเทคโนโลยีในการสืบที่ทันสมัย เด็ก2 คน วัย5และ4 ขวบถูกสัมภาษณ์โดยตำรวจและนักข่าว เด็กทั้งสองไม่มีอาการตกใจใดๆ และพูดตรงกัน ตอบเหมือนกันทุกครั้งคือ “พ่อทะเลาะกับแม่ พ่อใช้เข็มขัดตีแม่ พ่อฆ่าแม่ พ่อเอาหัวแม่ออกมา...” ตำรวจที่สืบสวนขณะนั้นตกใจกับคำให้การของพยานตัวน้อย และขอหมายจับกุมตัวนายหยาวเจิ้งหยวนฐานฆ่าภรรยาทันที
ศพและอาวุธอยู่ที่ไหน??? 🔪
เมื่อเริ่มสืบสวนหาหลักฐาน มีพยานคือลูก2คน แต่ไม่พบอาวุธสังหารและไม่พบศพ ทางตำรวจได้พาทีมนิติเวชตรวจหาคราบเลือดจากภายในบ้าน ถ้าฆ่าหั่นศพเลือดต้องเต็มไปหมดสิ ทีมนิติเวชใช้สารลูมินอล(สารตรวจจับปฏิกริยาเลือด)ฉีดพ่นทั่วภายในบ้านแต่กลับพบเลือดเพียงน้อยนิดเท่านั้น ตำรวจได้สอบเด็กวัย5ขวบอีกครั้ง ว่ารู้ไหมพ่อเอาศพแม่ไปทิ้งที่ไหน?? เด็กชายวัย5ขวบตอบว่า จำไม่ได้เพราะพ่อขับรถไปรู้แต่ว่ามีม้าและหญ้า เมื่อได้ยินดังนั้นตำรวจจึงพยายามมองหาสถานที่น่าจะเป็นไปได้ คือสนามม้าที่ห่างจากบ้านของนายหยาวไม่ไกลนัก โดยเดิมทีจะพาเด็ก2คนไปด้วย แต่ไม่นานหลายคนตั้งคำถามว่า เหมาะสมแล้วหรือกับการที่ลากเด็กวัย5และ4ขวบไปมาในสถานที่เกิดเหตุที่พ่อฆ่าหั่นศพแม่??
สุดท้ายตำรวจได้พยายามหาศพขุดรื้อสนามม้าแต่กลับหาศพไม่พบ... นายหยาวเจิ้งหยวนปิดปากสนิท พูดแต่ว่าภรรยาเก็บเสื้อผ้าหนีไปแค่นั้น และไม่พูดอะไรอีกเลยหลายสัปดาห์ผ่านไป ความกดดันจากทั้งสื่อ ทั้งเบื้องบน ทั้งสังคมที่พุ่งมายังชุดสืบสวน ซึ่งมีแค่พยาน 2 คนวัย5ขวบและ4ขวบ ไม่มีทั้งหลักฐานและไม่มีทั้งศพสุดท้ายอัยการยกสำนวนฟ้อง และตำรวจจำเป็นต้องปล่อยนายหยาวเจิ้งหยวนให้เป็นอิสระเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ....
ติดตามตอนที่2 ครั้งต่อไปนะคะ พรุ่งนี้
- 23
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
