Blockdit Logo (Mobile)
Fitsecret
•
12 พ.ค. 2020 เวลา 11:17 • สุขภาพ
2-3 วันไม่ถ่าย ถือว่าท้องผูกนะคะ
ความจริงควรถ่ายทุกวันค่ะ
ทุกคนคะ จูลย้ายไปใช้เพจหลักแล้วนะคะ แล้วจะทยอย ย้ายข้อมูลไปค่า ที่นี้นะคะ https://www.blockdit.com/page359degree... อ่านต่อ
(กินยังกินทุกวันเลย ขาเข้าเข้าทุกวัน ขาออกไม่มีเลย หมักหมม เน่าเสียอยู่ภายในนะตัวเธอ)
ปัจจัยที่ทำให้เราท้องผูก ส่วนใหญ่เกิดจากการที่เราปฏิบัติตัวไม่ถูกต้อง เช่น
..ไม่ค่อยเคลื่อนไหวร่างกาย
..ดื่มน้ำน้อย
..กินอาหารที่มีกากใยน้อย
..ไม่ค่อยกินผัก
..ชอบกลั้นอุจจาระบ่อยๆ
..ใช้ยาระบายบ่อยๆจนลำไส้เคยชิน
..ความเครียด
..กินเนื้อสัตว์มาก
..นอนน้อย
..ทานอาหารแปรรูปมากเกินไป
..เคยสวนทวาร สวนลำไส้ (ทำดีท็อกที่ไม่ถูกต้อง) ทำให้จุลินทรีย์ดีในร่างกายสูญเสีย ระบบแปรปรวน
..ไม่ทานกลุ่มจุลินทรีย์ดี (พวกโพไบโอติก) เช่น โยเกริ์ต กิมจิ คีเฟอร์ คอมบุฉะ ..
..ทานอาหารกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งนานเกินไป เช่น เคยทานมะขามแล้วช่วยขับถ่ายได้ ก็ทานแต่แบบนี้ตลอดจนร่างกายเคยชิน
..ทานยาบางชนิด ทำให้จุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ถูกทำลาย เช่น ยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวด
..การใช้ยาบางชนิดที่ทำให้ท้องผูก
เช่น ยารักษาอาการซึมเศร้า ยารักษาโรคพวกพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์ ยาลดความดันโลหิต ยาลดกรดที่มีส่วนผสมของแคลเซียม หรืออะลูมิเนียม ยาแก้ปวดที่มีส่วนผสมของมอร์ฟีน เป็นต้น
..การทำงานของลำไส้ใหญ่ผิดปกติ หรือภาวะลำไส้เฉื่อย
พบได้น้อย เป็นการที่ลำไส้ใหญ่เคลื่อนไหวน้อยลงทําให้อุจจาระเคลื่อนลงมาช้ากว่าปกติ
แนวทางแก้ไข..
..ร่างกายเราจำเป็นต้องได้เส้นใยอาหารเพียงพอ อย่างน้อย 25 กรัมต่อวัน (และเพื่อสุขภาพสมบูรณ์สูงสุด คือ ผักผลไม้ 5 สี 400กรัม/วัน)
1. อาหารที่กินต้องเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน และมี เส้นใยสูง
เช่นกินข้าวกล้องให้มากๆ เพราะเป็นอาหารที่มีเส้นใยสูงมาก
ข้าวกล้อง 1 จาน (2 ทัพพี) มีเส้นใยถึง 6 กรัม ในขณะที่ผัก 1 จาน มีเส้นใยเพียง 2 กรัม
1
เพราะฉะนั้น ถ้าเราจะกินเส้นใยให้เพียงพออย่าง ง่าย ๆ ก็ต้องกินข้าวกล้อง เพียงมื้อละ 1 จาน 3 มื้อ ก็จะได้เส้นใยไป 18 กรัมแล้ว ที่เหลืออีก 7 กรัมก็ให้กินผัก และผลไม้อีกอย่างละ 2 จานต่อวัน เท่านี้ก็จะได้เส้นใยเพียงพออย่างง่าย ๆ ทำให้สุขภาพลำไส้ใหญ่โดยรวมดีขึ้น
และ/หรือ
กระเทียมสดจัดเป็นพรีโบโอติก (ใยอาหาร) ระดับต้นๆเลย
top3 รองจากหัวหอม และชีโครี รูท
และมีประโยชน์ด้านอื่นสูงมาก
และ/หรือ
มะขามหวานที่เป็นฝักสุก กินทั้งเนื้อที่ติดเม็ดด้วย วันละไม่เกิน4ฝัก (เป็นใยอาหารเชิงเดี่ยว) (ควรทานให้หลากหลายค่ะ)
และไม่ควรกินทุกวัน เพราะเรื่องปริมาณน้ำตาล และลำไส้จะเสียนิสัยได้ค่ะ แต่ช่วยเนื่องท้องผูกเป็นครั้งคราวได้
มะขามเปรี้ยวไม่แนะนำเพราะเราจะต้องไปหาอะไรมาจิ้มอีก (แต่ทานเพรียวๆได้ ก็ทานค่ะ)
มะขามมีคุณค่าทางโภชนาการ และมีสารอาหารสูง เนื้อมะขามหนึ่งถ้วย (120 กรัม)
ประกอบด้วย
* แมกนีเซียม: 28% ของ RDI
* โพแทสเซียม: 22% ของ RDI
* เหล็ก: 19% ของ RDI
* แคลเซียม: 9% ของ RDI
* ฟอสฟอรัส: 14% ของ RDI
* วิตามินบี 1 (วิตามินบี): 34% ของ RDI
* วิตามินบี 2 (ไรโบฟลาวิน): 11% ของ RDI
* วิตามินบี 3 (ไนอาซิน): 12% ของ RDI
* ติดตามปริมาณของวิตามินซี, วิตามินเค, วิตามินบี 6 (ไพริดอกซิ), โฟเลต, วิตามินบี 5 (กรดแพนโทธีนิก), ทองแดงและซีลีเนียม
..นอกจากนี้ยังมีเส้นใย 6 กรัมโปรตีน 3 กรัมและไขมัน 1 กรัม แคลอรี่รวม 287 ซึ่งเกือบทั้งหมดมาจากน้ำตาล
ในความเป็นจริงมะขามหนึ่งถ้วยมีคาร์โบไฮเดรต 69 กรัมในรูปของน้ำตาลซึ่งเทียบเท่ากับน้ำตาล 17.5 ช้อนชา
แม้จะมีปริมาณน้ำตาล แต่เนื้อมะขามถือว่าเป็นผลไม้ที่กินได้แบบควบคุมมีการวิจัยว่าช่วยเชื่อมโยงกับการเผาผลาญอาหารและควบคุมโรคเบาหวานประเภท 2
นอกจากนี้ยังมีโพลีฟีนอลซึ่งเป็นสารประกอบจากพืชที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย
เส้นใยช่วยจับสารพิษและไขมันส่วนเกินในลำไส้ไปทิ้งอีกด้วย
(ใครที่ทานผักน้อยมาก่อน ควรเริ่มจากน้อยๆเช่นกันค่ะ เพื่อให้ลำไส้และร่างกายปรับตัว ไม่งั้น จะท้องผูกไปกันใหญ่ค่ะ)
..เพื่อเพิ่มปริมาณอุจจาระและกระตุ้นการเคลื่อนตัวภายในลำไส้ใหญ่ให้เร็วขึ้น
2. ควรดื่มน้ำระหว่างวันเยอะๆ มีการเคลื่อนไหวร่างกายร่วมด้วยเช่นออกกำลังกาย ก็จะช่วยกระตุ้นให้อุจจาระเคลื่อนตัวไปได้มากพอ
จนไปกดประสาทกระตุ้นความรู้สึกอยากถ่าย แล้วเราก็จะอยากเข้าห้องน้ำค่ะ
3. ทานโพไบโอติก ให้เป็นนิสัย ..
เช่น โยเกริ์ต กิมจิ แต่อย่าลืมดูเรื่องน้ำตาล และ ความเค็มด้วยค่ะ
(เริ่มแต่น้อยนะคะ บางคนอาจมี ท้องอืด ลมขึ้น อาหารไม่ย่อน ท้องเสีย ให้ลดปริมาณลงค่ะ)
4. ฝึกการขับถ่ายให้เป็นนิสัย
บางคนอาจไม่ถนัดนั่งให้เป็นเวลา แต่การที่เรารู้สึกปวดแล้วไปถ่ายเลย ช่วยได้มาก อย่ากลั้นให้ปวดมากแล้วค่อยถ่าย จะยิ่งทำให้เราท้องผูกค่ะ
5. นอนให้พอ 6-8 ชม. / วัน
การนอนน้อย ก็ทำให้ระบบแปรปรวน ไม่เพียงแต่การขับถ่าย แต่ยังจะลามไปถึงระบบอื่นด้วยค่ะ
ใครอ่านมาถึงตรงนี้ ขออวยพรให้คุณมีสุขภาพที่ดี อ่อนเยาว์ตามที่ต้องการนะคะ
🔆เลื่อนนิ้วโป้งกด Like 👍สักนิด เพิ่มพลังชีวิตให้จูลนะคะ ขอบคุณค่า
🔆หากบทความมีประโยชน์ อย่าลืม Share เพื่อแบ่งปันให้คนอื่นๆด้วยค่า
🔆เพื่อไม่ให้พลาดทุกบทความ กด Follow กดSubscribe และ กดกระดิ่ง เพื่อแจ้งเตือนด้วยค่ะ
••••เทคนิคของคนวัยใส หัวใจมุ้งมิ้ง••••
ติดตามเทคนิคดีๆ ในการดูแลสุขภาพ แลดูอ่อนกว่าวัยได้เพิ่มเติมที่
โฆษณา