16 พ.ค. 2020 เวลา 07:45 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
10 พืชและสัตว์ที่รอคนใจดีรับอุปการะ
1) ซากัวโรแห่งแอริโซน่า
https://www.britannica.com/plant/saguaro
ซากัวโรมีฉายาว่า "Towering cacti" เพราะความสูงใหญ่เทียมตึกของมัน บางต้นมีอายุยาวนานกว่า 200 ปี สูงได้ถึง 12 เมตร ทำให้ขึ้นชื่อว่าเป็นพืชอวบน้ำสายพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา พบได้เฉพาะทะเลทรายโซนอรัน รัฐแอริโซนา และรัฐแคลิฟอร์เนียตอนใต้เท่านั้น
สำหรับการช่วยอุปการะเจ้าพืชอวบน้ำยักษ์นี้ โครงการก่อตั้งขึ้นโดย "Friends of Saguaro National Park" ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร และเป็นพาร์ทเนอร์ของอุทยานแห่งชาติซากัวโร เมืองทูซอน รัฐแอริโซนา
เงินอุปการะเริ่มต้นที่ 35 เหรียญ (ประมาณ 1,1xx บาท) เพื่อนำไปเป็นทุนในการวิจัย และรักษาสภาพอุทยานให้เหมาะสมแก่การเจริญเติบโตของซากัวโร (องค์กรดังกล่าวยังมีโครงการเพื่อช่วยเหลือสัตว์อื่นๆในอุทยานอีกด้วย เช่น หมาป่าโคโยตี้ กิล่ามอนเตอร์ และเพ็คคารี่)
Friends of Saguaro National Park:
2) ปลากระเบนแมนตา แห่งหมู่เกาะมัลดีฟ
Manta ray at Ari Atoll (Reinhard Dirscherl/ullstein bild via Getty Images)
ท้องทะเลรอบหมู่เกาะมัลดีฟ ถือเป็นบ้านที่ใหญ่ที่สุดของปลากระเบนแมนตาจำนวนกว่า 5,000 ตัว โดยปลากระเบนแมนตาจัดเป็นปลากระเบนที่ใหญ่ที่สุดในโลก อาจมีความกว้างช่วงปีก (ครีบหู) ได้ถึง 6.7 เมตร หรือ 22 ฟุต มีน้ำหนักได้ถึง 1,350 กิโลกรัม หรือ 3,000 ปอนด์
ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงธันวาคมของทุกปี ปลากระเบนแมนตาจะมาชุมนุมกันทางตอนเหนือของ Ari Atoll (ซึ่งเป็นเกาะปะการังที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก) เพื่อกินแพลงค์ตอนเป็นอาหาร
ในปี 2011 องค์กรการกุศล "Manta Trust" เพื่อการอนุรักษ์พันธุ์ปลากระเบนแมนตา ได้ก่อตั้งแคมเปญเพื่อให้บุคคลภายนอกสามารถออกเงินช่วยเหลือและรับอุปการะปลากระเบนได้ในราคาเพียง 25 เหรียญ (ประมาณ 800 บาท) โดยเว็บไซต์ของ Manta Trust จะแสดงประวัติและชื่อของปลากระเบนที่เปิดให้บุคคลภายนอกอุปการะ เช่น Spiderman, Juno และ George the giant เป็นต้น
The Manta Trust:
3) เต่ายักษ์กาลาปากอส แห่งหมู่เกาะกาลาปากอส
Giant Galápagos tortoises in the highlands of Santa Cruz Island in the Galápagos Islands (Avalon/Universal Images Group via Getty Images)
เต่ายักษ์กาลาปากอส ถือเป็นเต่าบกที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีลักษณะเด่น คือ กระดองหนา มีสีเทาเข้มจนถึงสีดำ มีคอที่ยาวมากเพื่อใช้ในการหาอาหาร หัวมีขนาดเล็ก ตัวผู้มีกระดองยาว 122 เซนติเมตร น้ำหนักได้ถึง 250 กิโลกรัม ตัวเมียจะตัวเล็กกว่า กระดองยาว 91 เซนติเมตร น้ำหนักโดยเฉลี่ยประมาณ 159 กิโลกรัม และมีอายุยืนได้นานมากกว่า 100 ปี หรือเกือบๆ 200 ปี
และจากขนาดอันมโหฬาร ทำให้มนุษย์ชอบล่ามันเป็นอาหารมานานหลายศตวรรษ จนกลายเป็นหนึ่งในสปีชี่ที่ใกล้สูญพันธุ์ไปจากโลก
ปัจจุบัน มีองค์กรการกุศลมากมายยื่นมือเข้าช่วยเหลือและพิทักษ์เต่ายักษ์กาลาปากอส หนึ่งในนั้นคือ "The Galapagos Conservation Trust" ซึ่งเป็นองค์กรที่ริเริ่มโครงการวิจัยและอนุรักษ์พันธุ์เต่ายักษ์กาลาปากอสเป็นแห่งแรก โดยค่าใช้จ่ายในการรับอุปการะเริ่มต้นที่ 35 ปอนด์ (ราว 44 เหรียญหรือ 1,4xx บาท)
โครงการอนุรักษ์ของ The Galapagos Conservation Trust ยังรวมถึงสัตว์อื่นบนเกาะกาลาปากอส เช่น สิงโตทะเล ฉลามหัวค้อน เป็นต้น
The Galapagos Conservation Trust:
4) กอริลลาภูเขาแห่งแอฟริกา
Mountain gorillas in Virunga National Park in the Democratic Republic of the Congo (Brent Stirton/Getty Images)
กอริลลาภูเขาแห่งแอฟริกากลาง เป็นสัตว์เฉพาะถิ่น พบกระจายพันธุ์อยู่ในเขตเทือกเขาวีรูงกาในเขตแดน 3 ประเทศเท่านั้น คือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก รวันดา และอูกันดา
สหภาพระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) จัดให้กอริลลาภูเขาเป็นสปีชี่ใกล้สูญพันธุ์อย่างวิกฤติ ปัจจุบันมีปริมาณกอริลลาภูเขาเหลือไม่เกิน 1,200 ตัวในเทือกเขาวีรูงกา อันเนื่องมาจากถูกคุกคามในเรื่องถิ่นอยู่อาศัยจากมนุษย์ และปัจจัยอื่น เช่น สงคราม โรคระบาด ตลอดจนถูกจับไปขายในตลาดมืด
เพื่อเป็นการช่วยเหลือและอนุรักษ์กอริลลาภูเขา องค์กร "The Gorilla Organization" จึงเปิดรับบริจาคด้วยเงินจำนวน 4 เหรียญต่อเดือน (ประมาณ 128 บาท) เพื่อใช้เป็นทุนในการฟื้นฟูกอริลลาที่บาดเจ็บจากการถูกล่า และบริหารจัดการพื้นที่ Safe zone ให้แก่กอริลลาและสัตว์อื่นในบริเวณเดียวกัน
The Gorilla Organization:
5) แนวปะการังธรรมชาติ แห่งเบอร์มิวดา
Scuba diving in Bermuda (Flickr user Curtis & Renee)
แนวปะการัง หรือ พืดหินปะการัง เป็นระบบนิเวศที่ซับซ้อน และมีความหลากหลายมากที่สุดในทะเล
แนวปะการังจัดเป็นสิ่งก่อสร้างของสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นหินปูนที่มีความแข็ง โดยสัตว์ทะเลขนาดเล็กคือ ปะการัง รวมถึงซากของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในทะเล เช่น สาหร่ายหินปูน หอยเปลือกแข็ง เป็นต้น เมื่อตายไปแล้วจะยังคงเหลือซากหินปูนทับถมพอกพูน ค่อยๆ ผุกร่อนเป็นผงตะกอน และสะสมพอกพูนในแนวปะการัง
การเจริญเติบโตของแนวปะการังเป็นไปอย่างช้าๆ ปะการังบางชนิดอาจเพิ่มขนาดของตนเองขึ้นมาได้เพียง 2-5 เซนติเมตรต่อปีเท่านั้น ซึ่งกว่าที่ปะการังจะสร้างตนเองจนแข็งแรงเป็นแนวพืดได้ต้องใช้เวลานับหมื่นๆ ปีเลยทีเดียว
ปัจจุบัน แนวปะการังทั่วโลกกำลังถูกคุกคามจากภาวะโลกร้อน โดยเฉพาะแนวปะการังในบริเวณหมู่เกาะเบอร์มิวด้า ที่ได้รับผลกระทบตั้งแต่ครั้งสร้างสนามบินบนเกาะในช่วงทศวรรษที่ 1950 ทำให้แนวปะการังบางส่วนเสียหายและถูกทำลาย
เพื่อเป็นการรักษาแนวปะการังที่ยังเหลือรอด และช่วยส่งเสริมให้เกิดแนวปะการังใหม่ๆขึ้นมา "Living Reefs" จึงจัดตั้งโครงการ “Adopt a Coral Garden” ขึ้นมาในปี 2016 ท่านสามารถอุปการะโครงการได้ตั้งแต่ 150-600 เหรียญ (4,8xx - 19,xxx บาท) โดยทางโครงการจะมอบโล่เกียรติคุณเพื่อเป็นการตอบแทนผู้ร่วมสมทบทุน
The Living Reefs:
6) ซีคัวญ่าแห่งแคลิฟอร์เนีย
Giant sequoias in California's Sequoia National Park (Marji Lang/LightRocket via Getty Images)
ซีคัวญ่าพืชตระกูลสนสายพันธุ์เรดวู้ด (Redwood) ซึ่งเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ถือกำเนิดมาตั้งแต่ยุคจูราสสิคจากการค้นพบฟอสซิลที่มีอายุมากกว่า 200 ล้านปี
ครั้งหนึ่งต้นเรดวู้ดเคยปกคลุมหุบเขาเซียร์ราเนวาดา และชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย ยาวไปจนถึงชายแดนรัฐโอเรกอน จนกระทั่งปี 1850 ก็เกิดการตัดต้นไม้ชนิดนี้อย่างบ้าคลั่ง การตัดไม้ที่กินเวลากว่าศตวรรษทำให้ต้นเรดวู้ดถูกทำลายลงกว่า 95%
"Sequoia Forest Keepers" เป็นองค์กรที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อระดมทุนในการอนุรักษ์และฟื้นฟูต้นสนซีคัวญ่า และเรดวู้ดสายพันธู์อื่นภายในอุทยานแห่งชาติซีคัวญ่า โดยท่านสามารถอุปการะซีคัวญ่าเพียงต้นเดียวในราคา 100 เหรียญ (3,2xx บาท) หรือ 2,500 เหรียญ (80,xxx บาท) สำหรับซีคัวญ่ากลุ่มใหญ่
หลังบริจาคเงินแล้ว ท่านจะได้รับใบรับรองจากองค์กร ซึ่งจะแนบพิกัดและรูปขนาด 8-10 นิ้ว ของต้นซีคัวญ่าที่ท่านรับอุปการะ
The Sequoia Forest Keepers:
7) ช้างเอเชียแห่งประเทศไทย
Elephants rescued from the tourism and logging trade gather at the Elephant Nature Park in the northern Thai province of Chiang Mai. (Lillian Suwanrumpha/AFP via Getty Images)
ตั้งแต่ปี 2001 เป็นต้นมา มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าแห่งประเทศไทย (Wildlife Friends Foundation Thailand: WFFT) ได้ช่วยเหลือสัตว์ใกล้สูญพันธุ์เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช้างไทยที่มีรายงานว่า พบอยู่อาศัยในป่าตามธรรมชาติเพียง 2,000 ตัวเท่านั้น
ในพื้นที่บริเวณภาคใต้ของประเทศไทย พบว่ามีช้างจำนวนมากถูกนำไปใช้งานสำหรับบริการนักท่องเที่ยว หรือถูกบังคับให้เดินเร่ขอทานตามท้องถนน มูลนิธิจึงเปิดให้ประชาชนทั่วไปบริจาคเพื่อช่วยเหลือช้างในจำนวนเงินเพียง 38 เหรียญ (ประมาณ 1,2xx บาท) และมูลนิธิจะมอบประกาศนียบัตร รวมถึงอีเมลล์ที่จะอัพเดทช้างที่ท่านรับอุปการะให้อย่างสม่ำเสมอ
Wildlife Friends Foundation Thailand:
8) พะยูนแมนนาทีอินเดียตะวันตก แห่งฟลอริดา
A manatee moves slowly in Florida's Crystal River and Homasassa Spring. (Frogfish Photography/Barcroft via Getty Images)
แมนนาทีอินเดียตะวันตก เป็นแมนนาทีชนิดหนึ่ง มีขนาดใหญ่ที่สุดในอันดับพะยูน มีลักษณะต่างจากพะยูนตรงรูปร่างของกะโหลกศีรษะและรูปร่างของหาง โดยหางของพะยูนแมนนาทีจะมีรูปร่างแบนกลมคล้ายใบพาย ส่วนหางของพะยูนจะแยกออกเป็นส้อมคล้ายหางโลมา
พะยูนแมนนาทีอินเดียตะวันตกเป็นหนึ่งในกลุ่มสัตว์ชนิดที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ แม้จะไม่มีผู้ล่าตามธรรมชาติ แต่การขยายดินแดนของมนุษย์ทำให้ที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติแถบบึงน้ำตื้นชายฝั่งของมันลดลง พะยูนแมนนาทีจำนวนมากยังได้รับบาดเจ็บจากการถูกใบพัดเรือบาด อีกทั้งยังมักกินอุปกรณ์ตกปลาที่มนุษย์ทิ้งไว้ เช่นพวกสายเบ็ดหรือเอ็นตกปลา ซึ่งจะเข้าไปอุดตันระบบย่อยอาหารของพะยูนแมนนาที และทำให้มันตายอย่างช้าๆ
เพื่อช่วยเหลือและอนุรักษ์พะยูนแมนนาทีอินเดียตะวันตก จึงมีการก่อตั้งกลุ่มอนุรักษ์ "Adopt-a-Manatee" เริ่มต้นเงินอุปการะที่ 25 เหรียญ (800 บาท) ผู้อุปการะจะได้รับใบประกาศนียบัตร รูปพะยูนแมนนาที ข่าวสาร "Manatee Zone" ในฐานะสมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ และ membership handbook
Adopt-a-Manatee:
9) แมงดาทะเลแห่งอ่าวเดลาแวร์
Horseshoe crabs in Mispillion Harbor, Delaware (Gregory Breese/U.S. Fish and Wildlife Service)
แมงดาทะเลพบได้ทั่วไปในมหาสมุทรแอตแลนติก ตั้งแต่รัฐเมน (สหรัฐอเมริกา) จนถึงทางตอนใต้ของคาบสมุทรยูคาตัน เพนินซูลา ประเทศเม็กซิโก แต่พวกมันชอบขึ้นบกเพื่อวางไข่บริเวณอ่าวเดลาแวร์ สหรัฐอเมริกา
ทุกๆฤดูใบไม้ผลิ ตั้งแต่ปลายเมษาจนถึงต้นพฤษภาคม แมงดาทะเลนับหมื่นๆตัวจะขึ้นไปวางไข่บนหาดทรายทั่วอ่าวเดลาแวร์ โดย Wetlands Institute (เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร) ประเมินว่าประชากรแมงดาทะเลกำลังลดลงอย่างต่อเนื่องถึง 90% ในช่วง 150 ปีที่ผ่านมา จากการล่าเพื่อเอาเลือดของพวกมันไปใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตยาและวัคซีน
โปรแกรมการอนุเคราะห์เริ่มต้นที่ 25 เหรียญ (ประมาณ 800 บาท) ทางองค์กรจะมอบใบประกาศนียบัตร รูปแมงดาทะเล และติดประกาศท่านในข่าวสารขององค์กร
Wetlands Institute:
10) นกกีวีแห่งนิวซีแลนด์
Little spotted kiwi on South Island, New Zealand (DeAgostini/Getty Images)
นกกีวี เป็นนกจำพวกหนึ่งที่บินไม่ได้ มีลักษณะที่แปลกไปจากนกอื่นๆ มีวิวัฒนาการเป็นของตัวเองอย่างชัดเจน เป็นนกออกหากินเวลากลางคืน มีถิ่นกำเนิดในธรรมชาติอยู่ในนิวซีแลนด์เท่านั้น
นกกีวีมีความสำคัญมากต่อชาวมาวรี ชนพื้นเมืองของนิวซีแลนด์ ชาวมาวรีมีความเชื่อว่านกกีวีเป็นสัตว์เลี้ยงของเทพเจ้าในป่า ขนของนกกีวีจึงถูกนำมาทำเป็นผ้าคลุมที่ใช้ในพิธีกรรมต่างๆ ในปัจจุบัน ชาวมาวรีเลิกล่านกกีวีแล้ว แต่จะใช้เฉพาะขนจากนกกีวีที่ตายแล้วเท่านั้น
ปัจจุบันมีนกกีวีอาศัยอยู่ตามธรรมชาติเพียง 70,000 ตัวเท่านั้น เนื่องจากมันไม่สามารถบินได้ ทำให้ง่ายต่อการถูกล่าเป็นอาหาร
"Kiwi House" จึงเสนอโครงการอุปการะนกกีวี โดยเฉพาะนกกีวีลายจุดใหญ่ และนกกีวีน้ำตาล (2 ใน 5 สายพันธุ์ที่พบในนิวซีแลนด์เท่านั้น) โดยใช้เงินเพียง 60 เหรียญต่อปี (1,9xx บาท) เพื่อใช้เป็นทุนในการสนับสนุนพื้นที่อยู่อาศัยและวางไข่ของนกกีวี
Otorohanga Kiwi House:

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา