Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Rule of Thumb
•
ติดตาม
14 พ.ค. 2020 เวลา 05:10 • ธุรกิจ
Leadership — ภาวะผู้นำ
ความเดิมจาก Ep. ที่แล้ว “ใช้ชีวิตอย่างคนต้นแบบ” จากการเก็บเกี่ยวความรู้ทั้งจากคนต้นแบบและแหล่งความรู้ต่างๆ บวกกับประสบการณ์ที่เราได้สั่งสมมา ก็ถึงเวลาที่เราจะพร้อมขึ้นมาเป็น “ผู้นำ” ในรูปแบบที่เป็นอัตลักษณ์ของตนเอง ที่มีส่วนผสมของ “ความเป็นผู้นำ” ที่ไม่เหมือนใคร ผมขอสรุปลักษณะของ “ผู้นำ” ที่ดีในแบบฉบับ Rule of Thumb ของผมเอง ไว้ดังนี้
1
• มีวิสัยทัศน์ — การมองการณ์ไกล เห็นโอกาสที่คนอื่นยังมองไม่เห็น ด้วยการใช้ข้อเท็จจริงเท่าที่หาได้ มาวิเคราะห์คาดการณ์อนาคตล่วงหน้า บางครั้งถึงแม้จะไม่มีข้อมูลเพียงพอ ผู้นำที่ดีก็สามารถใช้วิจารณญาณและประสบการณ์ของเขามาตัดสินใจ ผมขอเรียกมันว่า “กึ๋น” ของผู้นำ แม้บางครั้งคนจะมองว่าเสี่ยง แต่ผู้นำ มักจะทำตามวิสัยทัศน์ของเขาได้สำเร็จซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลายต่อหลายครั้ง จนคนรอบตัวเริ่มเชื่อใจ ยกย่อง และยอมเป็นผู้ตามในที่สุด มีอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อผมได้เริ่มงานกับบริษัท หัวเว่ย ประเทศไทย ตอนนั้นผมรวบรวมข้อมูลต่างๆ เพื่อวิเคราะห์ คำนวณ และประกาศแผนธุรกิจ Mid-to-Long term อันประกอบด้วย การคาดการณ์ เป้าการขาย เป้าส่วนแบ่งการตลาด การเลือกช่องทางการขายที่จะเน้นในแต่ละปี แผนขยายการสนับสนุนช่องทางการจัดจำหน่าย อาทิ จำนวน แบรนด์ช็อป จำนวนพนักงานขาย ที่จะขยายในแต่ละปี ล่วงหน้าเป็นเวลา 5 ปี จากแบรนด์อันดับ 8 ของประเทศ ก็ค่อยๆ ไต่อันดับ จนขึ้นมาเป็นแบรนด์อันดับ 2 แบบหายใจรดต้นคอเบอร์ 1 เมื่อผ่านไป 3 ปี ตามที่ได้ประกาศแผนงานไว้ ในที่สุดเมื่อเราทำได้จริงๆ หรือ Walk-the-talk ทั้งทีมงาน คู่ค้า พันธมิตร สื่อมวลชน รวมถึงสำนักงานใหญ่ที่จีนก็ให้ความไว้วางใจและเชื่อมั่นในเรื่องที่เราพูดและรับปากในเวลาต่อๆมา
• ลุ่มหลงในสิ่งที่ทำและมีความมุมานะบากบั่น — Passion & Perseverance ที่ปัจจุบันมีหลายคนเรียกมันว่า “Grit” เป็นพื้นฐานที่ทำให้ผู้นำทุกคนประสบความสำเร็จ ผมเคยบอกไว้ในบทนำของ Series ว่า หากผมต้องเลือกหลักในการทำงานและการใช้ชีวิตให้ประสบความสำเร็จได้เพียง 1 ข้อ ผมจะเลือก “Grit” อย่างไม่ลังเล เพราะทั้งคู่ชีวิตผมพิสูจน์มาแล้วว่ามันคือสิ่งที่สำคัญที่สุด เวลาเราได้คุยกับคนที่มี Passion ในการทำงาน มันจะมีพลังมากมายมหาศาลพุ่งออกมาจากตัวเขา และล้วนเป็น Positive Energy หรือ พลังบวก ที่จะสามารถทำลายทุกอุปสรรคขวากหนาม ทุกความกลัว ทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ คนที่มี Grit มักที่จะอีกคุณลักษณะหนึ่งพ่วงมาด้วย นั่นคือ Charisma เป็นคนที่มี Charm หรือเสน่ห์ มีบุคลิกที่น่าหลงใหลเป็นที่เชื่อถือของคนที่ได้พบ ผมเองทำงานสไตล์ทุ่มสุดตัวแบบทั้ง Work Hard บวก Work Smart เพราะเชื่อว่า หาเราเป็นปลาตัวเล็ก จะชนะปลาตัวใหญ่ได้ นอกจากต้องทำงานอย่างฉลาดแล้ว ต้องใช้ความเร็ว ความอึดกว่า ทำงานเป็น 2 ถึง 3 เท่า ของปลาใหญ่ ในเวลาที่เขาพัก เราต้องรีบวิ่ง จึงจะมีโอกาสชนะได้ การจะทำแบบนี้ได้คุณต้องมีความรักจนถึงระดับลุ่มหลง งาน องค์กร หรือแบรนด์ที่คุณทำ เหมือนกับเป็นธุรกิจของตัวเอง หรือมี Entrepreneur Mindset เมื่อคิดได้เช่นนี้ เราจะมีความสุขกับการทำงานทุกวัน ทุกนาที แบบไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย มีพลังบวก มองหาโอกาสในทุกอุปสรรคอยู่ตลอดเวลา ทีมงาน หรือคนใกล้ชิดที่ได้ทำงานด้วยก็จะได้รับพลังบวกไปผลักดันตัวให้พิชิตทุกปัญหาที่เข้ามาได้เสมอ
• จริงใจและมีน้ำใจ — สิ่งที่ทำให้ Leader (ผู้นำ) ต่างจาก Boss (เจ้านาย) คือ Leader จะลงไปร่วมรบที่แนวหน้า ขณะที่ Boss จะนั่งสั่งการจากหน่วยเหนือ Leader ไม่ได้ใช้อำนาจเพื่อทำให้คนทำตาม แต่ใช้ความสำเร็จที่สร้างขึ้นเพื่อทำให้คนเชื่อใจและทำตาม แบบสำนวนฝรั่งที่ว่า “Roll up your sleeves and get your hands dirty!” ทำได้แบบนี้รับรองได้ใจลูกน้องทุกคน ในสมัยที่ผมร่วมงานกับ หัวเว่ยใหม่ๆ มีงานมหกรรมขายโทรศัพท์มือถือชื่อ Thailand Mobile Expo (TME) จัดขึ้นปีละ 3 ครั้ง ก่อนหน้าที่ผมจะเข้าไป งานแบบนี้เป็นหน้าที่ของ ทีม Event Marketing 2–3 คน กับ Agency ไปเซ็ทอัพบู๊ท จัดพนักงานขาย ไปขาย จบงาน 4 วัน ขายได้หลักร้อยเครื่อง จึงไม่มีผู้บริหารและพนักงานคนไหนสนใจแม้แต่ไปร่วมงานยังไม่เคย ผมเองเห็นว่า TME น่าจะเป็นงานอีเวนท์สำคัญในการสร้างแบรนด์หัวเว่ย ให้เป็นที่รู้จักได้ดี จึงเริ่มของบประมาณเพิ่มเพื่อขยายพื้นที่ทำบู๊ท จากขนาดเล็กที่สุด ขยายจนเป็นขนาดใหญ่ที่สุด ทั้งผม, ผู้บริหาร, และผู้จัดการฝ่ายขายทุกคนต้องไปช่วยงานทั้ง 4 วัน ตั้งแต่เช้าเปิดงานจนดึกทุกวัน ไปใช้เวลาอยู่กับลูกค้า และพนักงานขายเกือบร้อยชีวิต ผลที่ได้คือยอดขายจากหลักร้อยกลายเป็นหลักหมื่นเครื่องในเวลาต่อมา เพราะเราไล่ตัวเลขและปรับเปลี่ยนโปรฯกันแบบวันต่อวัน แก้ปัญหาทุกชั่วโมง เพราะผมเชื่อว่าผู้นำต้องอยู่ในเวลาที่ลูกน้องต้องการความช่วยเหลือหรือต้องการคำปรึกษา เอาใจใส่ทุกข์สุขของทีมงาน รวมไปถึงการให้ความยุติธรรมกับทุกคน แต่ต้องไม่ประนีประนอมเมื่อลูกน้องทำความผิดร้ายแรง เช่นการทุจริต คดโกงต่างๆ (อันนี้ผู้นำทุกคนต้องยึดเป็นกฏเหล็กในใจ) ตัวเราเอาก็ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีของความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส่ ยึดมั่นในคำสอน “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน”
• มีทักษะการสื่อสารสูง — การรู้ว่าเวลาใดควรฟัง เวลาใดควรพูด เพื่อบอกเจตนารมณ์ หรือ Intent ของงานที่มอบหมาย (ไม่ใช่สั่งงาน) เวลาใดควรถามคำถามให้ทีมงานได้คิด ให้อำนาจหรือ Authority แบบ “Give Control” ให้คนที่ถูกต้องได้ทำงานที่เหมาะสม และผลักดัน Empower ให้เขาทำงานได้สำเร็จ อันหมายรวมถึงการสร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมการใช้ความคิดสร้างสรรค์ด้วย คนที่เคยทำงานกับผมจะคุ้นเคยกับคำว่า Drumbeat meeting เวลาทำโปรเจ็คร่วมกันกับคนทั้งภายในและภายนอกองค์กร ตั้งแต่ระดับ Daily Morning Brief, Weekly Progress Report, Monthly Townhall Meeting, Quarterly Business Review, ไปจนถึง Annual Joint Business Plan ตลอดจนการทำ On-the-job training ทั้งแบบ Mentor & Mentee หรือ การฝึกใกล้ชิดแบบ “ถือกระเป๋า CEO” สอนวิธีจับปลาให้เครื่องมือ แต่จะไม่หาปลามาป้อนให้ การสอนคนเป็นเรื่องยาก บางครั้งเราสอนตรงๆ อาจไม่ได้ผล ต้องจำลองให้ไปทำ ไปเจอกับตัวเอง กิจกรรมหนึ่งที่ผมใช้มาหลายบริษัท เมื่อเจอปัญหาที่พบแทบทุกที่คือ เมื่อองค์ใหญ่ขึ้น คนก็ทำงานกันแบบ Silo แบ่งพรรคแบ่งพวก แตกแยกไม่ช่วยเหลือกัน แบบไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ ผมแก้ไขโดย เมื่อมีสินค้าใหม่เปิดตัวและเริ่มขายวันแรก ให้เกณฑ์พนักงานและผู้บริหารทุกคน ทั้งทีมหน้าบ้าน หลังบ้าน โดยแบ่งเป็นทีมผสม ออกไปทำ Merchandising/Sales Blitz ตามห้างหลักๆ เพื่อแข่งขันกันหาทีมที่ดีที่สุดในการช่วยแนะนำเปิดตัวสินค้าใหม่ให้ดีลเลอร์และลูกค้าในห้าง ทั้งติดอุปกรณ์ POP อบรมหน้าร้าน ประกาศกิจกรรมค่าคอมฯช่วยส่งเสริมการขาย ขอย้ายสินค้ามาโชว์หน้าร้านหรือตรงทำเลทองของร้าน เป็นต้น กิจกรรมเช่นนี้เป็นกุศโลบายสร้างมิตรภาพข้ามแผนกอันได้ผลดีเยี่ยม
• มีตรรกะการตัดสินใจที่ดี — เรื่องนี้สำคัญที่สุด เพราะคงไม่มีลูกน้องคนไหนอยากทำตามผู้นำที่ตรรกะที่ผิดเพี้ยน ไม่เป็นสากล ไม่มีมาตรฐาน ผมเองใช้วิธีฝึกฝนการคิดอย่างมีตรรกะ หรือ Logical Thinking มาจากการที่ได้ทำงานใกล้ชิดกับผู้บริหารระดับสูง คอยสังเกตว่า Director คนนี้ตัดสินใจอย่างไร MD ท่านนั้นตัดสินใจอย่างไร CEO ท่านโน้นตัดสินใจอย่างไร สั่งการอย่างไร ในการแก้ปัญหาที่พวกเขาพบเจอทุกวัน ในวันที่ผมอยู่ในระดับผู้จัดการ ผมตั้งปณิธานว่าวันหนึ่ง ผมต้องตัดสินใจได้เหมือนกับ CEO ที่ผมนับถือให้จงได้ ในสมัยที่ผมทำงานอยู่ Regional Head Quarter ของซัมซุง ที่สิงคโปร์ ผมมีโอกาสได้อยู่ในคณะผู้บริหารติดตาม CEO ไปทุกที่ ได้ร่วมประชุมกับ 12 ประเทศ subsidiaries ทำให้ผมได้ฟัง การประชุมหัวข้อและรูปแบบซ้ำๆ กัน 12 รอบ จนเดาได้ว่า CEO จะถามคำถามอะไรถัดไป จะสอนอะไรบ้าง จะให้คำแนะนำอย่างไร ทำแบบนี้อยู่หลายรอบ จนรู้ใจ รู้ตรรกะ รู้ความต้องการ CEO จนเป็นที่เลื่องลือ ถึงขั้น MD แต่ละประเทศจะเชิญผมให้บินไปตรวจ Presentation และซักซ้อมทีมผู้บริหารที่ต้องเข้าประชุมล่วงหน้าก่อน CEO Visit อยู่หลายต่อหลายครั้ง และเมื่อผมมีโอกาสได้เป็นผู้นำองค์กรและต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญในเวลาต่อมา ผมก็มักสวมหมวก สวมวิญญาณ CEO หรือ “คนต้นแบบ” อื่นๆที่ผมนับถือ นำตรรกะของพวกเขามาใช้ในการตัดสินใจ จนทำให้องค์กรที่รับผิดชอบประสบความสำเร็จด้วยดีเสมอมา นอกเหนือจากการมี Logical Thinking แล้ว ผู้นำที่ดียังต้องมี Principles และ Frameworks ในการทำงานที่เป็นสากล มีมาตรฐาน และเป็นความรู้อย่างมีระบบที่แข็งแรง เป็นที่พึ่งพาได้ของคนทั้งองค์กรอีกด้วย
• รู้จักบริหารจัดการวิกฤตและความเสี่ยง — ปัญหา และอุปสรรคทำให้คนเราแข็งแกร่งขึ้นเสมอ ผู้นำจึงควรมีประสบการณ์ในการแก้ปัญหานำพาองค์กรให้ผ่านพ้นวิกฤตให้ได้ มีสติเมื่อประสบปัญหาแบบเฉพาะหน้า มีแผนป้องกันเตรียมรับมือก่อนที่เรื่องร้ายๆจะเกิด มีแผนสำรอง Plan A-B-C รู้จักประเมินกำลัง รู้ SWOT (จุดแข็ง, จุดอ่อน, โอกาส, และอุปสรรค) ขององค์กร รู้ข้อจำกัดและวิธีบริหารทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด ทั้งในแง่ P&L และ Balance Sheet สามารถลด Fixed cost โดยการ LEAN Organization ปรับ Process การทำงาน และ ใช้เทคโนโลยี Automation, AI, Bot, หรือ Big data มาทดแทนขั้นตอนการทำงานที่ต้องทำซ้ำๆ หรือ Outsourcing เพื่อป้องกันความเสี่ยง (อ่านเพิ่มเติมที่นี่ Beyond Coronavirus) ในชีวิตการทำงาน บริษัทที่ผมทำงานด้วยเคยถูกฟ้องร้องหลายครั้ง แล้วผมต้องเป็นตัวแทนไปต่อสู้ที่ศาล และเพราะนิสัยการเก็บเอกสารข้อมูลที่ครบถ้วนสมบูรณ์ไม่มีตกหล่นทำให้ผมช่วยให้บริษัทชนะคดีทุกครั้ง มีอยู่อีกหนที่ผู้บริโภคจะมาทุบผลิตภัณฑ์ที่ซื้อไปออกสื่อเพราะคุณภาพสินค้าไม่เป็นไปตามความคาดหวัง ผมเป็นตัวแทนเจรจาในครั้งนั้น โดยใช้เทคนิค “ขอ-คิด-ตาม-ให้-ทัน” ที่เรียนมาในการแก้ปัญหาลูกค้า Complaints ขั้นรุนแรง 5 ขั้นตอน คือ “ขอโทษ-หากเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับผม ผมก็คิดแบบพี่เหมือนกัน-ผมจะติดตาม-แก้ปัญหาให้-อย่างทันที” พูดแบบนี้ลูกค้าก็เย็นลงและยอมเจรจาในที่สุด จากวันนั้นมาผมยังต้องแก้ปัญหาที่เกิดจากปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้อีกหลายต่อหลายครั้ง จนเชี่ยวชาญ สามารถรับมือกับความกดดันได้ดีขึ้นตามลำดับ
• มีเครือข่ายคู่ค้าพันธมิตรที่เข้มแข็ง — ผมพยายามใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในตลาด มากกว่าการนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศ เพราะเชื่อว่าคำตอบของทุกปัญหา และโอกาสทางธุรกิจอยู่ข้างนอก ทุกครั้งที่ได้พบลูกค้าก็จะมีโอกาสต่อยอดทางธุรกิจ มีโอกาสร่วมมือ Collaboration ที่เป็นความสัมพันธ์ หรือ Relationship ที่ลึกซึ้งกว่าคู่ค้าทั่วๆไป บวกกับตลอดยี่สิบปีของการทำงาน ผมเชื่อในการสร้าง Win-win situation ไม่เชื่อในความร่วมมือแบบ Zero-sum game คือมีฝ่ายหนึ่งได้ผลประโยชน์และอีกฝ่ายหนึ่งเสียผลประโยชน์ ผมไม่เคยทำร้ายใคร มีความรับผิดชอบในคำพูดที่รับปาก รู้คุณคนที่เคยช่วยเหลือและให้โอกาสในวันที่บริษัทยังเล็ก และจะช่วยเหลือลูกค้าแบบไม่เคยทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งนอกเหนือจากการประชุมทางธุรกิจโดยปกติแล้ว ผมพยายามจะไปร่วมงานทุกงานที่ลูกค้าเอ่ยปากเชิญ ทั้งขึ้นบ้านใหม่ ทำบุญบริษัท วันเกิด งานแต่ง งานวิ่ง งานกีฬาสี งานปีใหม่ ทุกๆงานสำคัญ แม้น้องๆบางคนบอกผมว่าบางงานผมไม่ต้องไปเองก็ได้เพราะผู้บริหารที่อยู่ในระดับเดียวกันกับผมของบริษัทอื่นไม่เคยไปเลย แต่ผมคิดว่าทุกครั้งที่มีโอกาสอยู่ได้แชร์ moments สำคัญๆ กับคู่ค้านั้นมันมีค่าที่สุด และยิ่งบริษัทคู่แข่งไม่ไปผมยิ่งต้องไป ผมยึดถึงธรรมเนียมปฏิบัติเช่นนี้มาตั้งแต่อยู่ตำแหน่งเล็กจนเติบโตเป็นผู้บริหารระดับสูงก็ไม่เคยเปลี่ยน ดังนั้นเวลาจำเป็นที่ต้องการความช่วยเหลือ ลูกค้าทุกคนก็จะยินดีช่วยเหลือในฐานะพี่น้องเหมือนคนในครอบครัวมากกว่าคู่ค้าทางธุรกิจ
ทั้งหมดนี้คือทั้ง 7 อัตลักษณ์ของผู้นำที่ดี ที่ผมยึดถือปฏิบัติมาตลอดชีวิตการทำงานแบบมืออาชีพ และหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับรุ่นน้อง ที่มีโอกาสได้ร่วมงานกันทั้งทางตรงและทางอ้อม ให้ได้นำไปปฏิบัติสืบทอด เป็นผู้นำน้ำดี สืบสานสร้างความดีให้กับตนเอง องค์กร สังคม และประเทศชาติต่อไป ให้คนจดจำพูดถึงอีกนานเท่านาน ดังคำสอนแต่โบราณเขียนไว้ในโคลงโลกนิติบทหนึ่งว่า
“โคควายวายชีพได้ เขาหนัง
เป็นสิ่งเป็นอันยัง อยู่ไซร้
คนเด็ดดับสูญสัง ขารร่าง
เป็นชื่อเป็นเสียงได้ แต่ร้ายกับดี”
Rule of Thumb ตลอดบทความนี้ประกอบด้วย:
Leadership
youtube.com
What is leadership? - With David Marquet
Be a better leader in less than 1 min a week - enroll for your weekly leadership nudge here: https://intentbasedleadership.com/enroll-for-the-nudge/
Grit
youtube.com
GRIT by Angela Duckworth | Animated CORE Message
1-Page PDF Summary: http://productivitygame.com/upgrade-grit/Book Link: http://amzn.to/1UF7Xn8FREE Audiobook Trial: http://amzn.to/2ypaVsPAnimated core messa...
Boss vs. Leader
youtube.com
Lean Management - Boss vs Leader
In this video, you will learn the differences between being a Boss or a Leader. Lean Leadership is based on these basic aspects.👉 Learn Lean Manufacturing F...
วันๆเขาทำอะไรถึงได้เป็นประธานบริษัท
podbean.com
EP 172 Book Review วัน ๆ เขาทำอะไรถึงได้เป็นประธานบริษัท
EP 172 Book Review วัน ๆ เขาทำอะไรถึงได้เป็นประธานบริษัท Podcast Episode นี้ ผมมา Review หนังสือแปลญี่ปุ่น ที่มีประธานบริษัทท่านหนึ่งเปิดหลักสูตรให้คนที่สนใจถือกระเป๋าตามเขา แล้วเขาจะให้ดูวิธีคิด วิธีการทำงานของเขา น่าสนใจดีครับ
Logical Thinking
youtube.com
Improve Your Logical Reasoning Skills 7 Hacks For Critical Thinking
Improve Your Logical Reasoning Skills 7 Hacks For Critical Thinking. Former BBC Dragon from Online Dragons Den, Serial Entrepreneur and Scottish Sun Column...
3 บันทึก
11
2
5
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Rule of Thumb
3
11
2
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย