14 พ.ค. 2020 เวลา 06:24 • การศึกษา
ทำร้ายผู้เสียหายและเอาจักรยานไปซ่อนไว้ข้างทาง จะเป็นความผิดฐานลักทรัพย์หรือไม่?
การที่คนคนหนึ่งเอาทรัพย์ของคนอีกคนหนึ่งไป.. เราจะสรุปว่าเป็นการลักทรัพย์เสียทีเดียวคงไม่ได้
เพราะนอกจากการกระทำที่มองเห็นจากภายนอกแล้ว ยังต้องพิจารณาจาก เจตนาของคนที่เอาไปด้วยว่ามี "เจตนา ทุจริต" หรือไม่
(เจตนาทุจริต หมายถึง การแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น)
ขอให้ดูจากตัวอย่างนี้แล้วจะเข้าใจมากขึ้นว่า เจตนาทุจริตนั้นสำคัญต่อการพิจารณาความผิดฐานลักทรัพย์มากน้อยเพียงใด
เย็นวันหนึ่ง ขณะที่ผู้เสียหายกำลังปั่นจักรยานกลับบ้าน คนร้ายกับพวกได้โผล่มาจากข้างทางพร้อมกับท่อนไม้และไล่ตีผู้เสียหายจนตกจากรถ
ผู้เสียหายเห็นท่าไม่ดีจึงได้วิ่งหนีไป หลังจากนั้นคนร้ายได้ลากรถจักรยานของผู้เสียหายลงไปที่ป่าข้างทางและนำเศษหญ้ามาคลุมไว้...
ซึ่งคดีนี้ศาลเห็นว่าพฤติกรรมของคนร้ายยังไม่ถึงกับเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ เนื่องจาก
1
1. รถจักรยานถูกทิ้งไว้ห่างจากถนนเพียง 5 เมตร ซึ่งสามารถพบเห็นได้โดยง่าย
2. นับจากวันที่เกิดเหตุจนถึงวันที่พบรถจักรยานก็เป็นเวลาถึง 9 วัน ถ้าคนร้ายมีเจตนาจะเอารถจักรยานไปเพื่อประโยชน์ส่วนตน ย่อมต้องนำรถจักรยานไปจากที่เกิดเหตุแล้ว ไม่ใช่ทิ้งไว้ริมถนนถึง 9 วัน
3. จุดที่พบรถจักรยานห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 20 เมตร
จึงเชื่อได้ว่าคนร้ายมีเจตนาที่จะไม่ให้ผู้เสียหายใช้รถจักรยานเพื่อหลบหนีหรือขี่กลับบ้านเท่านั้น
ไม่ได้ประสงค์จะเอารถจักรยานไปโดยมีเจตนาประทุษร้ายต่อกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ของผู้เสียหาย
จึงไม่เป็นการแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบในทรัพย์ดังกล่าวแต่อย่างใด
เมื่อการกระทำของคนร้ายไม่มีเจตนาทุจริต จึงไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์
อ้างอิงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9393/2557
Reference:
- กฎหมายอาญามาตรา 334 "ผู้ใดเอาทรัพย์ของผู้อื่นหรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานลักทรัพย์.."
ยังมีช่องทางอื่น ๆ ให้ติดตามกัน 😉
- สำหรับเอาไว้อ่านบทความดีๆ facebook.com/Nataratlaw
- สำหรับเอาไว้ดูรูปสวย ๆ กับอินโฟกราฟิก
- สำหรับสายย่อ เอาไว้รับข่าวหรือข้อกฎหมายแบบกระชับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา