13 ก.ค. 2020 เวลา 19:06 • บันเทิง
เรื่อง เจ้าหญิงที่ต้องคำสาป
ตอนที่ 1
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีปราสาทสูงใหญ่ที่ถูกสร้างไว้อยู่กลางป่า ปราสาทแห่งนี้ถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ที่ไม่มีแม้แต่ผู้ใดที่จะกล้าย่างกายเข้ามาในดินแดนแห่งนี้ เนื่องจากมันถูกขนานนามว่า "ปราสาทอาถรรพ์"
ซึ่งก่อนหน้านั้นเอง ณ ที่แห่งนี้เคยเป็นเมืองที่มีแต่ความเจริญรุ่งเรื่อง เป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพันธุ์และผู้คนก็ต่างอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข โดยมีราชาและราชินีที่ปกครองเมืองด้วยความความรักและเอื้ออาทรต่อประชาชนของพระองค์ แต่แล้ววันหนึ่งเมืองแห่งนี้ก็กลับกลายเป็นเมืองร้างที่ต้องคำสาปในพริบตา
ก่อนที่เรื่องราวทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้น ทั้งสองพระองค์ก็ได้ให้กำเนิดเจ้าหญิงองค์น้อยที่มีชื่อว่า เจ้าหญิงเมอร์นิซ่า เจ้าหญิงเมอร์นิซ่าเป็นเด็กน้อยที่มีหน้าตาน่ารัก มีพระเนตรสีฟ้า พระเกสาสีบรอนทอง ซึ่งเจ้าหญิงเป็นที่รักและเป็นหัวแก้วหัวแหวนของราชาและราชินีเป็นอย่างมาก เนื่องจากทั้งสองพระองค์เฝ้าคอยที่จะมีบุตรตลอดมา
แต่แล้ววันหนึ่งฝันร้ายก็กลายเป็นจริง เมื่อแม่มดร้ายนามว่า เคอร์ร่าห์ ได้ปรากฎกายท่ามกลางงานเลี้ยงต้อนรับเจ้าหญิงองค์น้อยที่เพิ่งประสูติ เธอได้ร่ายคำสาปให้ทุกคนกลายเป็นหิน ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีผู้ใดที่จะรอดพ้นคำสาปนี้ไปได้ และก็ไม่มีใครรู้ว่าคำสาปนี้จะสามารถลบล้างได้ด้วยวิธีใด เว้นแต่ตัวแม่มดผู้ร่ายคำสาปนี้เท่านั้น
ทันใดนั้นเองทั่วทั้งปราสาทก็ตกอยู่ในความมืดมน
ทั่วทุกหนแห่งเต็มไปด้วยเงียบงันและความเศร้าหมองก็ได้มาเยือน เหลือทิ้งไว้แค่เพียงหัวใจที่ถูกแช่เเข็งรอวันที่คำสาปจะถูกลบล้างไป
เว้นแต่เจ้าหญิงองค์น้อยและคนรับใช้
เเม่มดเคอรร่าได้ร่ายคำสาปให้เจ้าหญิงกลายเป็นเด็กน้อยที่มีหน้าตาอัปลักษณ์และร่ายคำสาปให้คนรับใช้กลายเป็นหญิงชรา
นางเกลียดที่เจ้าหญิงมีหน้าตาที่น่ารัก น่าเอ็นดูและเป็นผู้ที่ใคร ๆ ต่างก็รัก และนางยังรู้ชะตาของเจ้าหญิงอีกด้วยว่าสักวันหนึ่ง เจ้าหญิงเมอร์นิซ่าจะได้พบรักแท้ซึ่งเป็นเจ้าชายผู้เพรียบพร้อมและรักเจ้าหญิงอย่างสุดหัวใจ
ซึ่งแม่มดเคอร์ร่าเกลียดความรักเป็นอย่างมาก
เพราะนางถูกสร้างมาให้มีแต่ความเกลียดชัง
หลายปีผ่านไปเจ้าหญิงเมอร์นิซ่าก็ได้เติบใหญ่ เป็นหญิงสาวที่มีหน้าตาอัปลักษณ์แต่มีจิตใจที่งดงามดั่งอันญมณี
โดยเจ้าหญิงยังคงอาศัยอยู่ในปราสาทแห่งนี้กับคนรับใช้ที่กลายเป็นหญิงชราในป่าใหญ่ ซึ่งเจ้าหญิงไม่เคยเเบ่งแยกชนชั้นกับนางแม้แต่น้อย ทั้งๆที่คนรับใช้ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเจ้าหญิงได้เลย กลับกันนางยิ่งเป็นภาระให้เจ้าหญิงด้วยซ้ำ
ส่วนเรื่องราวของแม่มดเคอร์ราเองก็ได้หายไปตามกาลเวลา ซึ่งไม่มีใครรู้ว่านางไปอยู่แห่งหนใด
แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่งก็ได้มีชายรูปงามควบม้าเข้ามาในป่า ทันใดนั้นเองเขาก็งุนงงกับสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ตรงหน้าเป็นอย่างมาก เพราะไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีปราสาทใหญ่แบบนี้อยู่ในป่าได้
ซึ่งเป็นเวลาพลบค่ำแล้วทำให้เขาต้องหยุดพักและหาที่พักพิงในยามราตรีนี้ และเขาเองก็ไม่มีหนทางใดจึงจำเป็นที่จะต้องพักในปราสาทนี่ในคืนนี้
สักพักเขาก็ได้ย่างกายเข้ามายังปราสาท แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจเพราะในปราสาทเต็มไปด้วยรูปปั้นเต็มไปหมด และมีเถาวัลเลื้อยไปทั่วทั้งปราสาท
ทันใดนั้นเองเขาก็ลองกะโกนเรียกเผื่อจะมีใครอยู่
"สวัสดี!! มีใครอยู่มั้ย?!! "
แต่แล้วก็ไม่มีเสียงใครตอบกลับมา เว้นแต่เสียงของเขาที่สะท้อนดังก้องไปทั่วทั้งปราสาท
ในคืนนั้นเองฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก เขาจึงเดินขึ้นไปชั้นบนซึ่งเต็มไปด้วยห้องมากมาย และเขาก็มาหยุดอยู่หน้าห้องหนึ่งพลางเปิดประตูเข้าไป ซึ่งภายในห้องก็มิได้รกร้างแต่อย่างใด กลับกันมันสะอาดมากด้วยซ้ำ เหมือนมีใครที่คอยทำความสะอาดอยู่เสมอ
ซึ่งนั่นไม่ใช่ใครอื่นใด คือเจ้าหญิงเมอร์นิซ่านั่นเอง เจ้าหญิงเมอร์นิซ่ารู้ว่าคืนนี้มีแขกมาเยือน เจ้าหญิงทำได้แค่เพียงแอบมองในตอนที่เขาหลับตาลงนอน ทันใดนั้นเองเจ้าหญิงก็รู้สึกว่าหัวใจของตนเองเต้นผิดปกติ มันรู้สึกหัวใจพองโตเหมือนได้เจอรักแรกพบ ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนด้วยซ้ำ
แต่เจ้าหญิงคิดเสมอ ว่าไม่มีใครที่จะยอมรับเจ้าหญิงได้ เพราะด้วยหน้าตาที่อัปลักษณ์เฉกเช่นนี้ ทำให้เจ้าหญิงต้องปิดกั้นตนเอง
ในคืนนั้นเองชายผู้รูปงามคนนั้นก็ได้หลับไหลไปเพราะด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง เจ้าหญิงจึงนำเสื้อผ้าของพระบิดา มาตั้งไว้ที่ปลายเตียง
เพื่อที่เขาตื่นมาจะได้จะได้สวมใส่มัน...
cr : Pinterest
ปล.เทพนิยายเรื่องนี้ที่ผู้เขียนได้แต่งขึ้น มิได้คัดลอกจากผู้เขียนท่านอื่นแต่อย่างใด โดยเจตนานั้นผู้เขียนคิดเพียงว่า อยากเขียนมันขึ้นมาเพื่อสร้างความบันเทิงเท่านั้น
.
.
.
♡ 👸🤴🏰 ♡

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา