17 ก.ย. 2020 เวลา 09:28 • ครอบครัว & เด็ก
ตอนที่55 " อาการแพ้เหงื่อตัวเองของเด็กน้อย 😅"
🌟เตรียมลูกก่อน เข้าเรียนเตรียมอนุบาล โดยการ Home School ช่วงวิกฤติ Covid19 (ให้มีความพร้อมทางร่างกายและจิตใจก่อนไปโรงเรียนวันแรก) ได้อย่างไร?
แม่เมย์ตะโกนด้วยอาการตกใจตั้งแต่เช้า
"พ่อๆ ฟีนิกซ์เป็นผื่นแดงเต็มตัว ลามขึ้นไปถึงหน้าเลยพ่อ"
ผมรีบวิ่งมาดูด้วยอาการใจเต้นตึกๆ แต่เก็บอาการไว้เพราะอย่างให้ทุกๆคนในบ้านใจเย็นๆ
ผื่นแดงเกิดขึ้นตามตัวฟีนิกซ์เต็มไปหมดจริงๆ
ลูกรักดูมีอาการคัน แม้จะดูไม่ค่อยทรมาน แต่ฟีนิกซ์ก็ดูไม่ค่อยสบายตัวสักเท่าไหร่
"งั้นเดี๋ยววันนี้ให้ฟีนิกซ์หยุดเรียน แล้วไปพาลูกไปตรวจโรงพยาบาลกัน" แม่เมย์ตัดสินใจอย่างฉับไว
ส่วนพ่ออาร์ตก้มหน้าก้มตาทานข้าวต่อ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ความจริงแล้วในใจอุทานว่า....
😱 "ฉิบหายแล้ว ฟีนิกซ์จะเป็นอะไรมากหรือเปล่าเนี่ย?
ถ้าลูกป่วยต้องนอนโรงพยาบาล เดี๋ยวเราต้องทำ 1..... 2..... 3..... 4..... ต่อไป
ในหัวได้วางแผนขั้นตอนเอาไว้หมดแล้วโดยอัตโนมัติ
เพราะ ฟีนิกซ์ลูกรักกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการ Admit โรงพยาบาลแซงหน้าเพื่อนสนิททุกคนไปแล้วครับ "
ผื่นแดงขึ้นตามใบหน้าและลำตัวเต็มไปหมดเลยครับ
👩⚕️ผู้รู้ให้คำแนะนำ :
แพ้เหงื่อ คือ อาการแพ้ที่ทำให้เกิดผื่นบริเวณผิวหนังซึ่งหลายคนเชื่อว่าเกิดจากเหงื่อออก แท้จริงแล้วมีสาเหตุมาจากอะไร และมีวิธีรักษาอย่างไร รวมทั้งวิธีการป้องกันที่ผู้ป่วยควรทราบเพื่อไม่ให้อาการรุนแรงจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
🌼แพ้เหงื่อ
"แพ้เหงื่อ" คือลมพิษชนิดหนึ่งที่เกิดจากความร้อน
โดยความร้อนจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของต่อมเหงื่อ ทำให้เหงื่อถูกหลั่งออกมาร่วมกับการเกิดผื่น
หรือผู้ป่วยบางคนอาจเกิดอาการแพ้เหงื่อจากการที่ร่างกายสร้างแอนตีบอดีหรือภูมิต้านทานอย่าง
"สารอิมมิวโนโกลบูลิน (Immunoglobulin-G: IgG)" ต่อเหงื่อของตัวเองจึงทำให้เกิดเป็นผื่นลมพิษขึ้นมานั่นเอง
โรคแพ้เหงื่อจัดเป็นโรคภูมิแพ้หรือโรคแพ้ชนิดหนึ่ง
ที่มักจะเกิดกับผู้ที่มีความไวต่อสิ่งเร้ามาก
โดยเฉพาะความไวอย่างผิดปกติต่อผิวหนัง
ซึ่งสามารถก่อให้เกิดภาวะแพ้ได้ โดยอาการแพ้มักจะแสดงออกมาในรูปผื่นคัน หรืออาการแดงที่ผิวหนัง เป็นต้น
🍀อาการแพ้เหงื่อเป็นอย่างไร ?
อาการแพ้เหงื่อมักเกิดขึ้นค่อนข้างเฉียบพลัน
และเกิดขึ้นได้ทั่วร่างกาย แต่ส่วนใหญ่พบได้มากที่สุด คือ บริเวณหน้าอก ใบหน้า แผ่นหลังส่วนบน และแขน
ในเบื้องต้นผื่นลมพิษจะขึ้นหลังจากเริ่มมีเหงื่อออกไม่นานนัก ผื่นที่ขึ้นมีลักษณะเป็นปื้นแดง หรือหนานูนเป็นวงกลม อาจมีอาการคัน หรือมีอาการเจ็บแปลบ ๆ
หากสัมผัสตรงผื่นจะรู้สึกอุ่น ๆ บางครั้งอาจคล้ายกับอาการผิวหนังบวม หากผื่นเกิดบริเวณใกล้ ๆ กัน
ทั้งนี้อาการแพ้เหงื่อจะกินเวลาครั้งละประมาณ 30 นาที ไปจนถึง 1 ชั่วโมง นับตั้งแต่เริ่มเกิดอาการจนผื่นลมพิษยุบ
ทว่าในผู้ป่วยบางรายอาจเกิดอาการแพ้ที่รุนแรงจนเป็นอันตรายได้ ดังนั้นหากเกิดอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ท้องเสีย ปวดศีรษะ วิงเวียนศีรษะ หายใจตื้น หรือหายใจมีเสียงหวีด น้ำลายในปากเยอะขึ้นกว่าปกติ ความดันโลหิตลดต่ำลง และปวดบีบท้อง ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัย
🍁แพ้เหงื่อเกิดจากอะไร ?
สาเหตุหลักของอาการแพ้เหงื่อคือ "ความร้อน"
เมื่อผู้ป่วยอยู่ในบริเวณที่มีความร้อนสูง หรือทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความร้อนในร่างกาย
เช่น ออกกำลังกาย อาบน้ำอุ่น หรือเข้าห้องอบซาวน่า เป็นไข้ สวมใส่เสื้อผ้าที่คับแน่นหรือไม่ระบายอากาศ
รับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดจัด
กิจกรรมเหล่านี้ทำให้ต่อมเหงื่อสร้างเหงื่อออกมาเพื่อระบายความร้อน และเมื่อผิวหนังมีปฏิกิริยากับเหงื่อและความร้อน ก็จะกระตุ้นให้เกิดลมพิษขึ้นมานั่นเอง ในบางกรณีอาการแพ้เหงื่ออาจกำเริบจากภาวะความเครียด และความวิตกกังวลได้อีกด้วย
🌸ปัจจัยที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้เหงื่อได้ก็มีดังนี้
1. โรคผิวหนังที่เป็นอยู่
ซึ่งอาจทำให้มีรอยโรคอยู่บนผิวหนัง พร้อมจะก่อปฏิกิริยาบางอย่างกับเหงื่อได้ทันที
การอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ถูกสุขลักษณะอนามัย
การอยู่ในที่ที่มีละอองฝุ่นเยอะ มีเชื้อโรค เชื้อรา หรือแบคทีเรียเยอะ เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่ายขึ้น เพราะเมื่อมีน้ำจากเหงื่อ ประจุไฟฟ้าจะเกิด และเข้าไปจับกับฝุ่นละอองที่ก็มีประจุไฟฟ้าด้วยเช่นเดียวกัน ฉะนั้นฝุ่นและเหงื่อจึงจับตัวอยู่บนผิวหนังเราแน่นมาก และอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ฝุ่นได้
2.ผิวบอบบาง ง่ายต่อการแพ้
โดยเฉพาะเด็กเล็กหรือผู้ที่มีปัญหาผิวหนังติดสเตียรอยด์ ที่อาจมีผิวบอบบางง่ายต่อการแพ้ และเมื่อมีเหงื่อออก เหงื่อและเชื้อโรคที่รายล้อมอยู่รอบตัวอาจทำให้เกิดผื่นคันขึ้นได้เช่นกัน
3.ปฏิกิริยาต้านเหงื่อของร่างกาย
สำหรับบางคนอาจมีอาการภูมิแพ้ชนิดที่ร่างกายต่อต้านเหงื่อของตัวเอง ซึ่งจัดเป็นการตอบสนองของเซลล์ภูมิแพ้ที่ผิดปกติ หรือเกิดจากการที่ระบบภูมิคุ้มกันทำงานมากจนเกินไป ทำให้มีความไวต่อเหงื่อมากเป็นพิเศษ
🌲อาการแพ้เหงื่อ เช็กเลยเราเป็นไหม
โดยส่วนมากแล้วอาการแพ้เหงื่อจะเกิดขึ้น ณ บริเวณที่มีเหงื่อออกมาก
เช่น ข้อพับ ขาหนีบ ลำคอ รอบดวงตา และบริเวณใบหน้า เป็นต้น
ซึ่งหากมีอาการดังต่อไปนี้ คุณอาจต้องลองปรึกษาแพทย์ผิวหนังอีกที เพราะนี่มันอาการผิดปกติทางผิวหนังชัด ๆ
* มักจะมีอาการคันมากยามเหงื่อออก โดยเฉพาะจุดที่มีเหงื่อออกมากเป็นพิเศษ เช่น ลำคอ ใบหน้า ขาหนีบ แขน ขา ข้อพับ
* เหงื่อออกทีไรมักจะตามมาด้วยผื่นแดงหรือตุ่มใสเป็นประจำ ไม่วาจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สะอาดแค่ไหนก็ตาม
* ตุ่มคันหรือผื่นแพ้ที่เกิดบนผิวหนังจะอยู่เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง และสามารถหายไปเองได้ แต่หากเหงื่อออกอีกครั้ง อาการคันก็จะกลับมา
🌺ใครเสี่ยงต่ออาการแพ้เหงื่อบ้าง ?
แม้อาการแพ้เหงื่อจะสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดขึ้นในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง และจะเริ่มแสดงอาการให้เห็นครั้งแรกในช่วงอายุ 10 ปี และ 30 ปี
โดยคนที่มีแนวโน้มเสี่ยงต่ออาการนี้ ได้แก่ ผู้ที่มีอาการลมพิษเรื้อรัง และผู้ป่วยโรคที่เกี่ยวข้องกับอาการภูมิแพ้ อาทิ โรคหอบหืด โรคจมูกอักเสบ หรือผื่นผิวหนังอักเสบ เป็นต้น
🏵แพ้เหงื่อรักษาได้อย่างไร ?
โรคแพ้เหงื่อไม่ใช่โรคที่มีความรุนแรงถึงชีวิต
เบื้องต้น การรักษาอาการแพ้เหงื่อจะมุ่งเน้นไปที่วิธีลดอาการแพ้ และควบคุมไม่ให้อาการกำเริบ
🧒โดยสามารถดูแลตัวเองได้ดังนี้
1.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เช่น ว่านหางจระเข้ หากเกิดอาการผื่นคันแล้ว สามารถใช้ว่านหางจระเข้จากธรรมชาติ หรือเจลว่านหางจระเข้ที่ไม่ผสมสี น้ำหอม และสารเคมี เพื่อป้องกันการระคายเคืองของผิวที่อาจเพิ่มมากขึ้น
อีกทั้งยังอาจใช้สเปรย์ว่านหางจระเข้ที่มีมาตรฐาน
ฉีดพ่นบริเวณที่เกิดอาการเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวโดยตรง
อย่างไรก็ตาม หากมีหนอง ผื่นแดง คันมากขึ้นหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ ควรหยุดใช้และปรึกษาแพทย์
2.หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น การออกกำลังกาย หากเป็นไปได้ควรออกกำลังกายในบริเวณที่มีอากาศไม่ร้อนจนเกินไป หรือหลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นและการอบซาวน่า
3.อาบน้ำ ล้างคราบเหงื่อ
ในเบื้องต้นเราอาจรักษาโรคแพ้เหงื่อได้ด้วยการชำระล้างคราบเหงื่อ อาบน้ำ หรือพยายามไม่ให้เหงื่อแห้งติดอยู่บนผิวหนังนานเกินไป ซึ่งก็จะช่วยลดอาการคันลงได้พอสมควร
4.รักษาด้วยสารต้านฮิสตามีน
ในรายที่มีอาการแพ้มาก ๆ แพทย์อาจฉีดสารต้านฮีสตามีนให้ หรือให้ยาจำพวกนี้ไปรับประทานเมื่อมีอาการแพ้
ทั้งนี้หากอาการแพ้เหงื่อกำเริบ แพทย์มักสั่งยา เช่น ยายับยั้งลิวโคทรีน หรือยากดภูมิคุ้มกัน และยาชนิดอื่น ๆ เช่น
⚡ยาแก้แพ้ เช่น ยาเซทิริซีนที่ช่วยออกฤทธิ์ในการขัดขวางสารฮีสตามีนซึ่งส่งผลให้เกิดอาการแพ้
ทำให้อาการแพ้ค่อย ๆ ลดลงอย่างได้ผล
⚡ยาคีโตไตเฟน เป็นยาที่ช่วยบรรเทาอาการแพ้เหงื่อได้เป็นอย่างดี โดยสามารถช่วยลดปริมาณผื่น และอาการคันได้ ทว่าก็เป็นยาที่อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจได้เช่นกัน จึงควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์อย่างระมัดระวัง
1
⚡ยาเบต้าบล็อกเกอร์ เช่น ยาโพรพราโนลอล เป็นยาที่มักใช้รักษาโรคความดันโลหิตสูง และทำให้ปัจจัยในการกระตุ้นอาการแพ้เหงื่อลดลง
นอกจากนี้ ผู้ป่วยอาจต้องดูแลตัวเองควบคู่ไปกับการใช้ยา ซึ่งนอกจากจะช่วยให้อาการแพ้ลดลงแล้ว ก็ยังอาจทำให้ความถี่ในการเกิดอาการลดลงด้วย
5.ฝึกร่างกายให้ชินต่ออาการแพ้
แพทย์หญิงสุราศี อิ่มใจ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง โรงพยาบาลผิวหนัง อโศก แนะนำว่า การรักษาโรคแพ้เหงื่ออาจทำได้ด้วยวิธี Desensitization หรือการทำให้ร่างกายค่อย ๆ ชินต่ออาการแพ้จนไม่มีปฏิกิริยากับอาการแพ้อีกต่อไป โดยอาจลองฝึกให้ร่างกายอยู่ภายใต้สภาพอากาศที่ร้อน หรือปรับอุณหภูมิให้ค่อย ๆ รู้สึกอุ่นขึ้นทีละหน่อย จนร่างกายไม่มีอาการแพ้เกิดขึ้นอีก
อาการแพ้เหงื่อแม้จะไม่ใช่โรคที่ร้ายแรง
แต่ต้นตอและสาเหตุของโรคสามารถแตกแขนงออกได้หลายทางเลย
ฉะนั้นหากพบว่าตัวเองมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นกับผิวหนัง โดยเฉพาะเวลาที่เหงื่อออก
ทางที่ดีควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาอย่างละเอียดดีกว่าว่าเราแค่แพ้เหงื่อธรรมดา หรือมีรอยโรคผิวหนังอื่น ๆ แอบซ่อนอยู่ด้วย
*ขอขอบคุณข้อมูลจาก
⚡Cholinergic Urticaria
Huffington Post
⚡https://www.pobpad.com/%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%87%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD-%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9C
👨คุณพ่อขอเล่า :
เช้าวันนี้ฟีนิกซ์จำเป็นต้องหยุดเรียน
เนื่องจากมีผื่นแดงขึ้นตามตัวเต็มไปหมด
แม่เมย์ผู้เป็นคุณหมอประจำบ้าน ได้ทำการวิเคราะห์แล้วว่า... สมควรให้เจ้าลูกชายไปตรวจที่โรงพยาบาลโดยด่วน เพื่อป้องกันลูกรักเผื่อมีอะไรร้ายแรงที่คาดไม่ถึง
พ่ออาร์ต แม่เมย์ ยายเบญ พาฟีนิกซ์มาตรวจที่โรงพยาบาลกับทางคุณหมอตู๋ ซึ่งเป็นหมอแผนกเด็กที่ดูแลฟีนิกซ์มาโดยตลอด
พอทางคุณหมอตู๋สอบประวัติแล้วทำการตรวจปรากฏว่า
ฟีนิกซ์มีแนวโน้มอาการแพ้เหงื่อตัวเอง
เพราะจากการสอบถามข้อมูล เมื่อวานเย็นทางพ่อกับแม่ได้พาฟีนิกซ์ไปออกกำลังกายไถสกู๊ตเตอร์และปั่นจักรยานอย่างหนักหน่วง
พอออกกำลังกายเหงื่อไหลไคลย้อยแล้ว ก็กลับบ้านไปทานข้าวเย็นต่ออย่างเอร็ดอร่อย
พอทานข้าวเสร็จก็มาเล่นกันต่ออย่างสนุกสนาน
กว่าจะได้อาบน้ำก็เกือบๆสามทุ่มแล้ว....
นี่คือสาเหตุที่ฟีนิกซ์ตื่นเช้ามาเกิดผื่นแดงที่ผิวหน้าและตามตัว
ฟีนิกซ์มารอพบคุณหมอตั้งแต่เช้าเลยครับ 🧒
พอทุกคนทราบสาเหตุของอาการผื่นแพ้ของฟีนิกซ์ว่ามาจากอาการแพ้เหงื่อของตัวเองแล้ว
หลังจากนี้ทุกๆคนก็จะได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันของลูกรักเสียใหม่
หลังออกกำลังกายเสร็จคงต้องอาบน้ำทันที
วันไหนที่แดดร้อนจัดๆก็ต้องให้ลูกเล่นในตัวอาคารหรือในร่มไปก่อน เพื่อไม่ให้อาการของโรคผิวหนังเกิดขึ้นมาอีก
สู้ๆไปด้วยกันนะครับฟีนิกซ์
ถ้าเราพยายามต่อไปเรื่อยๆ ฝึกฝนดูแลตัวเอง
สักวันอาการของโรคแพ้เหงื่อต้องหายไปจากฟีนิกซ์แน่นอนครับ
อนาคตนักกีฬาทีมชาติจะมาจบตอนอายุสามขวบไม่ได้ !
อันนี้พ่ออาร์ตก็ฝันไกลไปหน่อยนะ
อย่าเพิ่งว่ากันนะครับฟีนิกซ์
เผื่อฝันของพ่อจะกลายเป็นฝันเดียวกับลูกได้สักวัน
555 🤣
👨👩👦👦❤
ช่องทางติดตามดูคลิปวีดีโอเพิ่มเติมทางเพจ FB. " Daddy Survivor "
ขอกำลังใจ ฝากติดตามด้วยนะครับ
ขอบคุณมากครับ 😀👪❤

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา