The Fifth Phase of Bitcoin in the 4th epoch
PART 1
สถานะที่ 5 ในศักราชที่ 4 ของบิตคอยน์
ตอนที่ 1
#cryptosneak
Welcome to Bitcoin 4th epoch. What next...?
แล้วไงต่อล่ะ แนวโน้มจะเป็นอย่างไร และเราจะเตรียมตัวอย่างไร ในศักราชที่ 4 นี้...?
เนื้อหา ตอนที่1
- ทำไมต้องทุก 4 ปี
- การ Halving และผลของมัน
- วัฏจักรของตลาดคริปโท
- การเกิดขึ้น หมุนเวียน และเติบโต
- เราอยู่ช่วงไหนของวัฏจักรนี้กันแล้ว
Artwork: cryptoart.com and crypto-tower
สวัสดีทุกคนน.. มาช้าดีกว่าไม่มา :3
นั่งทำข้อมูลมาหลายวันเลยตั้งแต่ halving พยายามให้สั้น แต่ยิ่งทำยิ่งเยอะตลอด :P เลยจะขอแบ่งเป็น 3 ตอนนะ คอยติดตามกัน :D
ก็ขอให้ข้อมูลนี้ ได้ใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับใครที่อยากจะเริ่มต้นอะไรในศักราชใหม่ หรือ ใครก็ตามที่เข้ามาใหม่ในโลกของ “บิตคอยน์” หรือ “โลกคริปโท” ได้โน้ตเก็บไว้ใช้ประโยชน์กัน...ไม่มากก็น้อยแหล่ะ เนอะ
— เนื้อหา ทั้ง 3 ตอน —
ตอนที่ 1..วัฏจักรของบิตคอยน์
- ทำไมต้องทุก 4 ปี
- การ Halving และผลของมัน
- วัฏจักรของตลาดคริปโท
- การเกิดขึ้น หมุนเวียน และเติบโต
- เราอยู่ช่วงไหนของวัฏจักรนี้กันแล้ว
ตอนที่ 2..สถานะที่ 5 ในศักราชที่ 4
- สถานะของบิตคอยน์ คืออะไร
- สถานะที่ 5 ของบิตคอยน์ จะทำให้บิตคอยน์ มีมูลค่าเท่าไร
- Stock-to-Flow model คือ อะไร มันทำนายมูลค่าของบิตคอยน์ได้อย่างไร
- Stock-to-Flow Cross Asset model (S2FX) โมเดลใหม่ แตกต่างอย่างไร
- สัญญาณสถานะที่ 5 ของบิตคอยน์ หลังการ Halving เริ่มมาแล้ว ไปดูกัน..
ตอนที่ 3...เตรียมตัวอย่างไรในศักราชบิตคอยน์ใหม่
- ข้อมูลจากรายงานของ Delphi Digital ชี้ให้เห็นกระแสสถานะที่ 5
- การเคลื่อนไหวของนักลงทุนอาชีพ เขามีทัศนคติอย่างไร และทำอะไรกันกับบิตคอยน์
- ข้อมูลทางสถิติที่ชี้ให้เห็นถึงการมาของ สถานะที่ 5 ที่ชัดเจนขึ้นเรื่อย
- 7 แนวทางสำหรับการเริ่มลงทุนในโลกคริปโท ปี 2020
.. มาเริ่มกันเล้ย :D
— ทำไมต้องทุก 4 ปี —
• ผลจากการ Halving
บิตคอยน์ ถูกกำหนดตั้งแต่กำเนิด ให้มีจำนวน BTC สูงสุดทั้งหมดอยู่ที่ 21ล้านเหรียญบิตคอยน์ แต่ไม่ได้ให้มาครบตั้งแต่ต้น จะต้องทยอยผลิตออกมา
การผลิตบิตคอยน์เราเรียกว่า “การขุด” ซึ่งจะทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “บล็อก” และ บล็อก คือกล่องเก็บข้อมูลว่า ตอนนี้จำนวนบิตคอยน์ที่ผลิตออกมาแล้ว “มีจำนวนเท่าไร” “ไม่เกิน 21 ล้านใช่ไหม” และ “อยู่ที่ใครตอนไหนจำนวนเท่าไร” บล็อกจะถูกสร้างขึ้น >>ข้อมูลจะถูกตรวจสอบและจัดเก็บ >> บล็อกจะถูกปิดผนึกและประกาศ บล็อกจะมีลักษณะคล้องกันไปเรื่อยๆ ย้อนมาแก้ไขไม่ได้ “เหมือนโซ่” เราจึงเรียกมันว่า “บล็อกเชน”
โดยอัตราการเกิดของบล็อกจะเปรียบเสมือนนาฬิกาจับเวลา หากนำไปเทียบเวลาโลกจริง การเกิด 1 บล็อกจะใช้เวลาเฉลี่ย 10 นาที
coingecko
เมื่อบล็อกถูกสร้างขึ้นโดย “นักขุด” ที่ทำการตรวจสอบข้อมูล, ยัดลงไป ,ปิดบล็อก และประกาศให้ทราบ เมื่อนักขุดทำงานเสร็จจะได้ค่าตอบแทน 2 ทาง คือ ค่าทิปจากผู้ใช้บริการ (Fee) และ “รางวัลการขุด”
ยุคเริ่มต้น รางวัลการขุดเท่ากับ 50 BTC ต่อ 1บล็อก และถูกกำหนดให้ลดลงไปเรื่อยๆ เมื่อบล็อกถูกสร้างขึ้นไปแล้วทุกๆ 210,000 บล็อก โดยรางวัลจะลดลง “ครึ่งนึง”
หากนำอัตราการเกิดบล็อกทุก 210,000 บล็อก คูณด้วย 10นาที เพื่อแปลงเป็นเวลาโลกจริง การลดรางวัล จึงเกิดขึ้นทุก 4ปี โดยเฉลี่ย ซึ่งเหตุการณ์ ลดรางวัลครึ่งหนึ่งนี้ เรียกว่า “Halving”
เหตุการณ์นี้จะดำเนินไปเรื่อยจนกว่า บิตคอยน์จะถูกขุดจนครบทั้งหมดในปี 2140.. ผลของเหตุการณ์นี้ ถ้าอ้างอิงจากสถิติเดิม บิตคอยน์จะมี “ราคาสูงขึ้น” สร้างความ “น่าสนใจ” และดึงดูดให้ผู้คนเข้ามามีส่วนร่วม ในการสร้าง และใช้งานเครือข่าย
“ ทุกครั้งหลัง Halving ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า มันเป็นจุดเริ่มต้นของ ตลาดกระทิงใหม่
modified from coindiligent
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
• What is bitcoin halving by อ.พิริยะ cdc live:
— มันเป็นวัฏจักร
อะไรที่ไปเกี่ยวข้องกับ “ความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์” มักเป็นวัฏจักรเสมอ.. เศรษฐกิจ, ชีวิต, ความรัก และคริปโท... :D
The Pattern in every cycle.. รูปแบบที่มักเกิดขึ้นในแต่ล่ะรอบ
(Ivanontech live, May 19, 2020)
1. พวก Hardcore crypto enthusiasts ที่ตื่นตัวก่อน คนกลุ่มนี้ยืนหยัด ไม่ได้ไปไหน แม้ในช่วง “ตลาดหมี” คนพวกนี้จะเป็นคนกลุ่มแรก ที่เริ่มเห็นสัญญาณกระทิงก่อน และเริ่ม “จุดประกาย” คนกลุ่มใหม่
2. เริ่มมีการกลับมา “เล่าเรื่อง” เกี่ยวกับ บิตคอยน์, บล็อกเชน และคริปโทเคอร์เรนซี่ ตั้งแต่พื้นฐาน.. ไปถึงการใช้งานจริง (Use cases) และการแทนที่เทคโนโลยีเก่า (Adoption) กลุ่มคนใหม่สนใจและเริ่มศึกษาอย่างจริงจัง
3. การเติบโตจะเริ่มขึ้น จากนั้นพุ่งเร็วเป็นจรวด มีความ Fomo (Fear of missing out) เป็นเชื้อเพลิง
4. สุดท้ายจบรอบที่การร่วงอย่างรุนแรง คนพูดถึง “ฟองสบู่แตก” “ดอกทิวลิป” เริ่มมา “นิทานลิง” เริ่มแชร์ บิตคอยน์ เริ่มตาย กูรูออกมาชี้เป้าหมี ที่ต่ำมาก พร้อมกับการโดนด่า
5. กลับไปข้อ 1 ก็ยังคงมีพวก Hardcore crypto enthusiasts อยู่.. เพิ่มขึ้นจากรอบก่อนด้วย ยังคงยืนหยัดในช่วงตลาดหมี คอยพูดเกี่ยวกับ บิตคอยน์ และคริปโท ต่อไป
ยกตัวอย่าง คุณท้อป จิรายุส, อ.พิริยะ, พี่บิท bit investment, blockchainreview, bitcoinaddict, siambitcoin, siamblockchain, cryptotica(อิอิ) เป็นต้น และอีกหลายท่านที่ไม่ได้เอ่ยถึง ผู้คนเหล่านี้ เปรียบเสมือน “เชื้อไฟ” ที่รอการจุด และพร้อมระเบิดในรอบถัดไป :D
เติมเชื้อ-จุดไฟ-ระเบิด-มอดดับสู่ยุคน้ำแข็ง
“Tinder, Spark, Explosion, The Ice
เติมเชื้อ, จุดประกาย, ระเบิดมอดไหม้, สู่ยุคน้ำแข็ง
Andreessen, Price innovation cycle 2020.
— เราอยู่ช่วงไหนกันแล้ว —
investpedia.com
การ Halving หากนับปี เราผ่านไปแล้ว 2 ครั้ง และในปี 2020 นี้ นับเป็นครั้งที่ 3
• ครั้งแรก เกิดขึ้นในปี 2012 วันที่ 28 เดือน พ.ย., รางวัลลดลงจาก 50 เหลือ 25 บิตคอยน์, ราคา ณ วันนั้นอยู่ที่ 12.35ดอลล์ หลังจากนั้น 371วัน ราคาทำ ATH (All Time High) ที่ราว 1,147ดอลล์ (4.ธค.2013) จากนั้นทำราคาต่ำสุดจาก ATH ในอีก 406วัน ที่ราคา 177ดอลล์ (14.มค.2015)
• ครั้งที่สอง เกิดขึ้นในปี 2016 วันที่ 9 ก.ค., รางวัลลดลงจาก 25 เหลือ 12.5 บิตคอยน์, ราคา ณ วันนั้นอยู่ที่ 650ดอลล์ หลังจากนั้น 526วัน ราคาทำ ATH ที่ราว 19,800 ดอลล์ (17.ธค.2017) จากนั้นทำราคาต่ำสุดจาก ATH ในอีก 363วัน ที่ราคา 3200ดอลล์ (15.ธค.2018)
•ครั้งที่สาม เกิดขึ้นปี 2020 วันที่ 12 พ.ค. ที่ผ่านมา, รางวัลลดลงจาก 12.5 หลือ 6.5 บิตคอยน์, ราคา ณ วันนั้นอยู่ที่ 8810ดอลล์ หลังจากนี้ จะเป็นอย่างไร ก็คงต้องร่วมเดินทางลุ้นไปด้วยกัน.. :D
— กำเนิดวัฏจักรของตลาด “คริปโทเคอร์เรนซี่”
Andreessen, Price innovation cycle 2020.
มันเริ่มมาจาก “ราคา” (Price) เมื่อราคาของ บิตคอยน์ และเหรียญอื่นเริ่มยกตัวขึ้น ยัง “ความสนใจ” (Interest) ไปที่ผู้คน เกิดการพูดถึงในสังคมมากมาย นำไปสู่ “ไอเดียใหม่” (New Ideas) ว่าเราจะทำอะไรได้บ้างในเทคโนโลยีใหม่ และตลาดใหม่นี้
เกิดการแชร์ไอเดีย และโค้ดมากมาย นำไปสู่การสร้าง “โปรเจคใหม่” (Startups) มากมาย และก็ย้อนไปที่ “ราคา” เช่นเดิม
ตรงกันข้าม เมื่อราคาลง สำหรับตลาดใหม่แล้ว จะรุนแรงกว่าตลาดดั้งเดิม โปรเจคที่ไม่ได้คำนึงถึงจุดนี้ ก็ต้องปิดตัวไป โปรเจคที่อยู่รอดก็พัฒนาต่อไป และโปรเจคที่หลอกลวง เมื่อนักลงทุนเริ่มฉลาดขึ้น ก็ถูกเปิดโปง ปิดหนีกันไป..
“ราคา” เป็นเหมือนกับ ชนวนจุดระเบิดให้มันวิ่งไปได้ไกลขึ้นในแต่ละรอบ...
ว่าแต่..ตอนนี้ เราไปไกลแค่ไหนกันแล้วนะ
จากงานศึกษาของ Andreessen, Price innovation cycle 2020.
เราจะแบ่งวงรอบ หรือ “วัฏจักร” ได้ดังนี้
— วัฏจักรแรก ช่วงปี 2009-2012
cycleone, Andreessen, Price innovation cycle 2020.
เราจะใช้จุดที่ราคาดีดขึ้นมาแรง หรือ ทำ ATH เป็นจุดเริ่มต้นวัฏจักร ในช่วงนี้ บิตคอยน์ ถือกำเนิดในปี 2009 และราคาได้พีคในปี 2011 แต่ก่อนหน้านั้นล่ะ การเริ่มต้นจากไม่มีอะไรเลย, ไม่เป็นที่รู้จัก และไม่มีประวัติศาสตร์ มันจะต้องมีแรงกระตุ้นแรกก่อน ก็มีกลุ่ม cypherpunk และนักพัฒนากลุ่มแรกเป็นตัวผลัก
กลุ่มนี้ไม่ใช่ dev no name ธรรมดา มีนักลงทุน Venture คอยติดตามผลงานอยู่ตลอด เมื่อมีไอเดียใหม่ ก็เริ่มคิดถึงการสร้าง ธุรกิจใหม่.. นักลงทุนกลุ่มแรกนี้ทำให้เกิด บริษัทเวปเทรด, บริษัทขุดบิตคอยน์ และกระเป๋าเก็บบิตคอยน์..
ข้อสังเกต...จะเห็นว่า แม้ราคาจะร่วงลงและเข้าสู่ตลาดหมี แต่กิจกรรมการพัฒนาโค้ด และโปรเจคสตาร์ทอัพ ไม่ได้ลดลง กลับค่อยๆเพิ่มขึ้น ยกเว้นด้าน social media ที่ลดลงไปตามตลาดที่คลายตัว
— วัฏจักรที่สอง ช่วงปี 2012-2016
cycletwo, Andreessen, Price innovation cycle 2020.
ในรอบนี้ ราคาทำ ATH ช่วงปลายปี 2013 ในวัฏจักรนี้เป็นครั้งแรกที่คนนอกวงการเทคโนโลยี ได้ยินเกี่ยวกับ บิตคอยน์
ในรอบนี้ มีนักพัฒนา และสตาร์ทอัพ เพิ่มจำนวนขึ้นราว 10 เท่าทีเดียว โปรเจคที่สำคัญในปัจจุบัน ก็ได้กำเนิดขึ้นในวงรอบนี้ อาทิ “Ethereum” ที่จะมีบทบาทสำคัญในปี 2017
จะสังเกตได้ว่า แต่ละวัฏจักรนั้น จะให้กำเนิดคลื่นลูกใหม่ ที่จะไปสร้างแรงกระเพื่อมใน วัฏจักร ถัดไป
— วัฏจักรที่สาม ช่วงปี 2016-2019
cyclethree, Andreessen, Price innovation cycle 2020.
ในวงรอบนี้ ราคาทำ ATH ช่วงปลายปี 2017 ในวัฏจักรนี้นับเป็นช่วงเวลา “ประวัติศาสตร์” ของวงการ เนื่องจากมันสร้างแรงกระเพื่อมอย่างมาก ผู้คนเริ่มตระหนักถึง การแทนที่กระแสหลัก (mainstream) ของโลกการเงิน และระบบธนาคาร
มีการตื่นตัวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นักพัฒนา และสตาร์ทอัพ เพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่าตัวเช่นกัน เงินทุนหลังไหลเข้ามาอย่างรวดเร็วผ่าน การระดมทุน ICO ที่เป็นกระแสหลักในวงรอบนี้
แม้ราคาจะเข้าสู่ตลาดหมี ในปี 2018-2019 แต่การพัฒนา และโปรเจคสตาร์ทอัพ ยังคงมีกิจกรรมอยู่ตลอด
all cycle, Andreessen, Price innovation cycle 2020.
เมื่อเรานำทั้ง 3 วัฏจักรมาเปรียบเทียบกันจะเห็นภาพชัดเจน ของการเติบโตอย่างต่อเนื่องของวงการคริปโท
โดยปี 2017 มีโปรเจคศักยภาพเกิดใหม่ เป็นจำนวนมาก และหลากหลาย ไม่เพียงแต่เน้นทางด้านการเงิน การธนาคารเพียงอย่างเดียว แทบจะแทรกซึมไปทุก สาขา อาทิ Power, games, infrastructure, and web apps.. เป็นต้น
Andreessen, Price innovation cycle 2020.
เมื่อนำข้อมูลมาเทียบกันแบบ รายปี
เราจะเห็นการเติบโตต่อเนื่องในทุก เมทริก ของข้อมูล.. ข้อสังเกต ในปี 2018 แม้จะเป็นตลาดหมีที่ยาวนาน แต่กลับมีกิจกรรมการพัฒนามากที่สุด นั่นแสดงให้เห็นว่า “ราคา” นั้นไม่ได้มีผลโดยตรงต่อ กิจกรรมการพัฒนาโปรเจค และสตาร์ทอัพ มากนัก
แต่เราก็เป็นสิ่ง “สำคัญ” ที่ขาดไปไม่ได้เช่นกัน เพราะ “ราคา” เนี่ยล่ะ คือ ตัวกระตุ้นให้เกิด “ความคาดหวัง” และ “การพัฒนาต่อ” ชั้นดี..
“ ไอเดียใหม่, โค้ดโปรแกรม, โปรเจค และสตาร์ทอัพ เป็นพื้นฐานในการขับเคลื่อน นวัตกรรมคริปโทฯ ใหม่ๆ
ผู้ประกอบการ และนักเทคโนโลยี เป็นผู้ผลักดัน วงการคริปโท ให้ก้าวต่อไป
ในปีนี้หลายโปรเจค ทำตามแผนโร้ดแมฟเสร็จ ก็รอดูผลของมันในปีหน้า
วงการคริปโท ช่างน่าตื่นเต้นเสมอ :D
Andreessen, 2020
จบตอน..
@cryptotica
รอติดตามตอนสองกันต่อน๊า
• สถานะที่ 5 คืออะไร และแนวโน้มจะเป็นอย่างไร (S2FX model)
- 13
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
