23 พ.ค. 2020 เวลา 05:00 • ประวัติศาสตร์
รู้จัก 'มูฮัมหมัด อาลี จินนาห์' บิดาแห่งปากีสถาน ผู้แยกฮินดูและมุสลิมออกจากกัน
WIKIPEDIA PD
‘มูฮัมหมัด อาลี จินนาห์’ (MUHAMMAD ALI JINNAH) บิดาแห่งชาติของชาวปากีสถานผู้นี้ เกิดเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ. 1876 ในยุคที่อังกฤษเป็นเจ้าอาณานิคมของอินเดีย ที่เมืองการาจี บริติชอินเดีย (ประเทศปากีสถานในปัจจุบัน) บิดามารดามีอาชีพเป็นนักธุรกิจที่มีฐานะมั่งคั่ง จินนาห์มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน เขาเป็นลูกคนที่สอง ทุกคนในครอบครัวนับถือศาสนาอิสลาม
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
ชีวิตในวัยเด็กของ ‘มูฮัมหมัด อาลี จินนาห์’ เขาพักอาศัยอยู่กับป้าที่เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย เนื่องจากต้องเรียนชั้นประถมศึกษาที่นั่น ก่อนจะย้ายกลับไปที่เมืองการาจีเพื่อเรียนต่อในระดับมัธยมศึกษา จินนาห์สนใจเรื่องกฎหมายเป็นอย่างมาก เขาจึงตั้งใจแน่วแน่ว่าจะเลือกเรียนต่อในด้านกฏหมายเพื่อที่จบมาจะได้เป็นทนายความตามที่หวังไว้
WIKIPEDIA PD
ต่อมาในปี ค.ศ. 1892 จินนาห์ได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนกฎหมาย Lincoln’s Inn กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ หลังเรียนจบก็เดินทางกลับอินเดียทันที โดยจินนาห์ได้เป็นทนายฝึกหัดที่ศาลสูงแห่งเมืองมุมไบอยู่ 3 ปี หลังจากนั้นเขาก็ได้รับโอกาสจาก ‘จอห์น โมลส์เวิร์ธ แมคเพอร์สัน’ (John Molesworth MacPherson) เจ้ากรมรัฐธรรมนูญแห่งศาลสูงมุมไบ ให้เข้ารับตำแหน่งทนายในสภาสูง และด้วยความรู้ความสามารถที่มี ทำให้ในที่สุดจินนาห์ก็ได้เลื่อนขั้นมาเป็นผู้พิพากษาแห่งศาลสูงมุมไบ
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
3
หลังจากนั้นอาชีพการงานของจินนาห์ก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ เขาได้รับเลือกให้เป็นประธานของสหภาพไปรษณีย์อินเดีย นอกจากนั้นเขายังมีบทบาทสำคัญในการร่างกฎหมายให้กับสหภาพแรงงาน โดยยึดหลักแนวคิดที่ว่า ‘ค่าครองชีพต้องสัมพันธ์กับรายได้’ ซึ่งทางสหภาพแรงงานอินเดียเองก็ได้ใช้กฎหมายนี้เรื่อยมา และเขายังเป็นประธานพรรคสันนิบาตมุสลิมอีกด้วย
WIKIPEDIA PD
ต่อมาในปี ค.ศ. 1904 จินนาห์ได้เริ่มชิมลางการเมือง เขาได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคคองเกรสแห่งอินเดีย และเขาคือหนึ่งในผู้นำที่ร่วมมือกับ ‘มหาตมะ คานธี’ และ ‘ชวาหะร์ลาล เนห์รู’ นายกรัฐมนตรีคนแรกของอินเดีย ต่อสู้กับเจ้าอาณานิคมอังกฤษจนอินเดียได้รับเอกราชในปี ค.ศ. 1947
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
หลังจากอินเดียได้รับเอกราช จินนาห์ต้องการแยกผู้นับถือศาสนาอิสลามและผู้นับถือศาสนาฮินดูออกจากกัน เนื่องจากในอดีตผู้คนที่นับถือศาสนาทั้งสองนี้ มีเรื่องให้ขัดแย้งถึงขั้นมีเหตุนองเลือดกันบ่อยครั้ง จินนาห์เกรงว่าชาวมุสลิมจะไม่สามารถอยู่ร่วมกับชาวฮินดูซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศได้อย่างสันติสุข เขาจึงต้องการให้ชาวมุสลิมแยกประเทศกับชาวฮินดู ซึ่งแนวคิดนี้ ‘มหาตมะ คานธี’ ไม่เห็นด้วย ทำให้ทั้งคู่ต้องมีเรื่องถกเถียงกันอยู่บ่อยครั้ง แต่ในท้ายที่สุด ก่อนที่เจ้าอาณานิคมอังกฤษจะถอนกำลังและคืนอำนาจแบบเบ็ดเสร็จให้กับอินเดีย ‘ลอร์ด หลุยส์ เมานต์แบ็ตเทน’ (Lord Louis Mountbatten) ข้าหลวงใหญ่อังกฤษประจำอินเดียในขณะนั้น ตัดสินใจให้ชาวมุสลิมแยกประเทศกับชาวฮินดู และให้ตั้งชื่อประเทศใหม่นี้ว่า ‘ประเทศปากีสถาน’
2
WIKIPEDIA PD
ปากีสถานแยกออกจากอินเดียในปี ค.ศ. 1947 ปีเดียวกับที่อินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษ มีการแต่งตั้งให้ ‘มูฮัมหมัด อาลี จินนาห์’ เป็นผู้นำประเทศคนแรก โดยประเทศปากีสถานยังถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกันคือ ‘ปากีสถานตะวันตก’ และ ‘ปากีสถานตะวันออก’ โดยมีอินเดียคั่นกลาง ปากีสถานทั้งสองส่วนนี้มีระยะทางห่างกันถึง 1,600 กิโลเมตร และในเวลาต่อมาปากีสถานตะวันออกก็ประกาศเอกราช แยกตัวเองไปเป็นประเทศใหม่ เรียกชื่อประเทศนั้นว่า ‘ประเทศบังกลาเทศ’ นั่นเอง
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
‘มูฮัมหมัด อาลี จินนาห์’ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1948 ด้วยวัย 71 ปี ผู้คนต่างขนานนามให้ว่าเขาคือ ‘บิดาแห่งปากีสถาน’ ผู้แยกดินแดนระหว่างสองศาสนาที่มิอาจลืม
โฆษณา