Blockdit Logo (Mobile)
เค้กจะรีวิว
•
31 พ.ค. 2020 เวลา 14:23 • บันเทิง
𝗿𝗲𝘃𝗶𝗲𝘄 𝗯𝘆 𝗰𝗮𝗸𝗲. 𝗘𝗣.𝟲𝟭
released date: 29 May 2020
𝗚𝗼𝗹𝗱𝗲𝗻 𝗛𝗼𝘂𝗿 (album) - 𝗞𝘆𝗴𝗼
Kygo ปล่อยอัลบัมที่ 3 ที่มีชื่อว่า ‘Golden Hour’ อัลบัมนี้ได้แขกรับเชิญมาร้องด้วยมากมายไม่ว่าจะเป็น OneRepublic, Zara Larsson, Oh Wonder, หรือแม้กระทั่งนักร้องในตำนานผู้ล่วงลับอย่าง Whitney Houston เฮียแกก็ยังสามารถไปเอาเดโม่เก่ามามิกซ์เป็นเพลงใหม่ได้ ถ้าพูดถึงดีเจชื่อดังอย่าง Kygo แล้วคงหนีไม่พ้นดนตรีแนว tropical house ที่เป็นเอกลักษณ์มากๆ เรามาดูกันว่าอัลบัมนี้จะมีอะไรน่าสนใจรอเราอยู่บ้าง
ก่อนอื่น ไปดู MV ของซิงเกิลแรก ‘Higher Love’ กันก่อน ⇩
เพลงแรก ‘The Truth’ ที่ได้ Valerie Broussard มาร้องให้ เพลงนี้เป็นซิงเกิลล่าสุดของอัลบัม ทั้งสองคนเคยร่วมงานกันมาแล้วในเพลง Thinking About You ซึ่งเราก็ชอบเสียงร้องของ Valerie มาตั้งเเต่เพลงนั้นละ มีความเสียงเหมือน Kesha ในบางมุม สำหรับเพลงนี้ท่อนร้องคือดีงามมาก แต่พาร์ทดนตรีที่เป็นท่อน beat drop คือไม่ค่อยว้าวเท่าไหร่
เพลงที่ 2 ‘Love Somebody’ ซิงเกิลที่ 4 ของอัลบัม เพลงนี้คือลงตัวนะ ดนตรีเสริมท่อนร้องดี ส่วนท่อนร้องก็คือปังอยู่แล้ว ระดับ Ryan Tedder แห่ง OneRepublic มาเองขนาดนี้
เพลงที่ 3 ‘Feels Like Forever’ ที่ได้ Jamie N Commons มาร้องให้ ชอบบีทเพลงนี้นะ ดนตรีคือดีงามมาก เเต่ส่วนของท่อนร้องเรายังเฉยๆ อยู่ เป็นโทนเสียงที่ไม่ค่อยเข้ากับดนตรีแนวนี้เท่าไหร่อ่ะ
เพลงที่ 4 ‘Freedom’ promotional single ของอัลบัม ที่ได้ Zac Abel มาร้องให้ เพลงนี้เปิดเพลงมาดีนะ ชอบท่อน verse มาก แต่พอเข้า hook คือเฉยแรงทั้งบีทและท่อนร้อง โดยเฉพาะการทำเสียงร้องแบบกระตุกที่ดู Kygo จะชอบมากแต่เราคือไม่ชอบเลย
เพลงที่ 5 ‘Beautiful’ ที่ได้ Sandro Cavazza มาร้องให้ ทั้งสองคนเคยร่วมงานกันมาแล้วในเพลง Happy Now สำหรับเพลงนี้เป็นเพลงที่ฟังได้เพลินๆ ดี เสียงร้องของ Sandro เข้ากับเพลงแนวนี้จริง ส่วนพาร์ทดนตรี เพลงนี้เหมือนได้ความเป็น EDM มากกว่าเพลงก่อนๆ ซึ่งก็เปลี่ยนฟีลได้ดี
เพลงที่ 6 ‘To Die For’ ที่ได้ St. Lundi มาร้องให้ เพลงนี้เปิดมาเหมือนดี ชอบโทนเสียงของ St. Lundi มากกกก แต่พอเข้าท่อนฮุคแล้วทุกอย่างโดนทำลายด้วยการทำเสียงกระตุกของ Kygo
เพลงที่ 7 ‘Broken Glass’ ที่ได้ Kim Petras มาร้องให้ เพลงนี้ติดหูมากกกกก ฟังครั้งเเรกคือชอบเลย แถมดนตรีท่อนที่เป็น beat drop คือแปลกใหม่นะ แถม hook 2 มีการ switch up ของบีทด้วย ว้าวนะ สรุปเพลงนี้ปังอยู่
เพลงที่ 8 ‘How Would I Know’ ที่ได้ Oh Wonder มาร้องให้ เสียงคือเป็นเอกลักษณ์มาก ไม่ดูชื่อยังรู้ว่าใครร้อง ท่อน beat drop แอบแย่งซีนเสียงร้องไปหน่อย แต่รวมๆ คือฟังเพลินๆ
เพลงที่ 9 ‘Could You Love Me’ ที่ได้ Dreamlab มาร้องให้ เพลงนี้ดนตรีสดใสดีนะ เหมือนเพลงที่เปิดตอนปิดเทอมฤดูร้อนอ่ะ feel good ดี 55555
เพลงที่ 10 ‘Higher Love’ lead single ของอัลบัม ที่ได้ Whitney Houston มาร้องให้ เพลงนี้มีความ old school vibe มาก ไม่แน่ใจว่า Whitney บันทึกเดโม่นี้ไว้ตั้งเเต่เมื่อไหร่ เเต่กราบ Kygo มากที่เอาเสียงมามิกซ์ให้แฟนๆ ได้ฟังกัน ใครจะคิดว่าเสียงของ Whitney จะเข้ากับดนตรี EDM เหมือนกันนะ 555 เพลงนี้ลงตัวดี เสียงกระตุกๆ ที่ Kygo ทำในเพลงนี้ไม่ค่อยน่ารำคาญเท่าไหร่ ให้ผ่าน
เพลงที่ 11 ‘I’ll Wait’ ซิงเกิลที่ 3 ของอัลบัม ที่ได้ Sasha Sloan มาร้องให้ เพลงนี้ดนตรีมีความ classic Kygo นะ ได้ฟีลอัลบัมแรกๆ ส่วนเสียงร้องคือเข้ากับดนตรีดี ฟังได้เพลินๆ ชอบท่อนร้องตรง pre-hook ฟังละอิน
เพลงที่ 12 ‘Don’t Give Up On Love’ ที่ได้ Sam Tinnesz มาร้องให้ เราว่าเพลงนี้ไม่ได้โชว์เสียงร้องของ Sam เลยอ่ะ ปกติเสียงแซมไม่ได้เป็นงี้ด้วยซ้ำ เหมือนโดนจูนเสียงใหม่ให้เข้ากับดนตรี ซึ่งเราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ตอนแรกที่เห็นชื่อคนร้องก็คือคิดอยู่ว่าจะเข้ากันมั้ย เพราะเพลงของ Sam จะเป็นแนว folk rock หน่อยๆ แต่เพลงนี้คือไม่มีความเป็น Sam เลย
เพลงที่ 13 ‘Say You Will’ ที่ได้ Patrick Droney และ Petey มาร้องให้ เพลงนี้ดนตรีคล้ายๆ กับเพลงก่อนๆ ไม่ค่อยแปลกใหม่เท่าไหร่ ชอบท่อนร้องตอนต้นเพลง เเต่พอฟังไปเรื่อยๆ แล้วอินน้อยลง
เพลงที่ 14 ‘Follow’ ที่ได้ Joe Joniak มาร้องให้ เพลงนี้ไม่เด่นอะไรเลยเหมือนกัน ทั้งเสียงร้องและดนตรี ฟังผ่านๆ ไป
เพลงที่ 15 ‘Like It Is’ ซิงเกิลที่ 2 ของอัลบัม ที่ได้ Zara Larsson และ Tyga มาร้องให้ เพลงนี้เหมือนทำมาเพื่อตีตลาด US นะ เเต่เหมือนจะไม่เป็นตามแผน เพราะมันไม่ปังเท่าไหร่เลย ทั้งใน US และ UK อาจเป็นเพราะว่าดนตรีของเพลงนี้คล้ายๆ กับเพลง Higher Love เลยไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าไหร่นัก ชอบท่อนร้องของ Zara เข้ากับบีทดี เเต่เสียงร้องของ Tyga คือดีนะ เเต่มันไม่เข้ากับดนตรีอ่ะ
เพลงที่ 16 ‘Someday’ ที่ได้ Zac Brown มาร้องให้ เพลงนี้เป็น country-EDM ที่ Zac ถนัดมาก เป็นนักร้องสายคันทรีคนเเรกๆ เลยมั้งที่กล้าข้ามฝั่งมาทำเพลงแนว EDM ซึ่งเพลงนี้เสียงร้องเข้ากับดนตรีดี แต่ beat drop เพลงนี้คือเฉยนะ เป็น typical Kygo ที่เราไม่ชอบอีกเพลง
เพลงที่ 17 ‘Hurting’ ที่ได้ Rhys Lewis มาร้องให้ เพลงนี้มาแปลกนะ ไม่ค่อยมีความเป็น Kygo เท่าไหร่ เพราะดนตรีเป็นกึ่งๆ acoustic เน้นโชว์เสียงร้องสุด ซึ่งก็คือทำได้ดีนะ
เพลงสุดท้าย ‘Only Us’ ที่ได้ Haux มาร้องให้ เพลงนี้แนวดนตรีคล้ายๆ กับเพลงก่อนหน้า พาร์ทที่เด่นที่สุดคือท่อนฮุคที่ดนตรีบิ้วส่งท่อนร้องมาก เเต่เราว่าเสียงร้องยังไม่พีคเท่าไหร่ สิ่งที่ชอบในเพลงนี้สุดคือดนตรีช่วง outro ของเพลง ปังมากกกก เป็นการปิดอัลบัมที่สวยสุด
โดยสรุปแล้ว อัลบัมนี้มีดนตรีเเนวใหม่ๆ ที่ไม่ค่อยได้ยินจาก Kygo อยู่หลายเพลงอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ดี ชอบการสรรหานักร้องมาร้องในทุกเพลงได้ ถึงเเม้บางคนจะเสียงเข้ากับดนตรีดี บางคนร้องเเล้วเฉยๆ ก็เถอะ 😂 ข้อเสียของอัลบัมคือช่วงครึ่งหลังของอัลบัมไม่ค่อยมีไรแปลกใหม่ให้ว้าว ส่วนใหญ่เคยได้ยินมาหมดแล้ว แค่เปลี่ยนเสียงร้องเฉยๆ โดยรวมอัลบัมนี้ฟังได้เพลินๆ เป็น EDM แนวที่ไม่น่ารำคาญ แต่ก็ไม่ใช่อัลบัม EDM ที่ดีที่สุดที่เคยฟัง
Golden Hour (album): 7.5/10
decent.
top tracks: the truth, love somebody, broken glass, could you love me, higher love

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา