Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Culture Butterfly by Nina
•
ติดตาม
4 มิ.ย. 2020 เวลา 10:41 • สุขภาพ
CoVID 19 กับความคิดของคนอเมริกัน …
เห็นข้อความเกี่ยวกับ CoVID19 เยอะมากในช่วงเวลา 4-5 เดือนที่ผ่านมา นีน่าเองก็รู้สึกว่าไม่ค่อยจะถูกกาละเทศะเท่าไหร่ถ้าจะมาเขียนบทความที่เกี่ยวกับความแตกต่างของวัฒนธรรมเหมือนในเวลาปกติ เพราะทุกคนก็กำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งเป็นสิ่งใหม่ มีหลายอย่างที่เราไม่รู้และยังต้องเรียนรู้อีกมาก เพื่อการป้องกันและการปรับตัว ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถดำรงอยู่ได้ในโลกใบเดิมภายใต้กฏหรือเงื่อนไขที่เปลี่ยนแปลงและอาจจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
อเมริกาในขณะนี้มีคนติดเชื้อมากที่สุดในโลกเป็นเวลา 2-3 เดือนแล้ว ขณะที่เขียนอยู่อเมริกามีคนติดเชื้อถึง 1 ล้าน 8 แสนกว่าคน และมีคนตายแสนกว่าคนแล้ว รวมทั้งเศรษฐกิจที่ตกต่ำลง ปัจจุบันมีคนอเมริกันตกงานกันถึงประมาณ 15% และคาดว่าอาจจะถึง 20% ในเร็วๆนี้
มาถึงจุดประสงค์ที่อยากจะเขียนบทความนี้ ก็คือเรื่องของมุมมองและความคิดของคนอเมริกันต่อโรคระบาด CoVID19 ที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศอเมริกาขณะนี้ ซึ่งคิดว่าหลายๆคนคงงงเหมือนกันตอนที่เห็นคนอเมริกันออกมาประท้วงต่อต้านการ lock down ของ CoVID19 ในหลายๆรัฐ บอกว่า ยอมตายดีกว่าโดนริดรอนสิทธิหรืออิสรภาพ ซึ่งจะแตกต่างจากคนไทยส่วนใหญ่ นีน่าเห็นตอนแรกก็ตกใจ คิดในใจว่า โรคระบาดขนาดนี้ยังออกมาประท้วงอะไรกัน ซึ่งคิดว่าคนไทยหลายๆคนก็คงตกใจและไม่เข้าใจเหมือนกันว่าคนอเมริกันทำไมถึงต้องออกมาประท้วงกันด้วย คนอเมริกันบ้าไปหรือเปล่า … ???
ซึ่งต้องขอออกตัวไว้ก่อนว่า บทความนี้เป็นมุมมองของนีน่าแต่เพียงผู้เดียว ถือว่าเป็นการมาพูดคุยและแบ่งปันความคิดกันเท่านั้น ...
(Cr. picture news.cgtn.com)
เรื่องนี้มีต้นตอมาจากความเชื่อพื้นฐาน (Fundamental Beliefs) ของคนอเมริกันที่เขาเชื่อว่า ตัวของเขาเองทุกคนมีสิทธิในการตัดสินใจว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเขา คนอเมริกันจะทำอะไรอยู่ที่การตัดสินใจของตัวเขาเอง นีน่าเคยเขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้อ่านสามารถอ่านดูได้ที่บทความก่อนหน้านี้ (กด links ข้างล่าง) ถ้าต้องโดนบังคับให้ทำโน่นทำนี่ หรือไม่ทำโน่นทำนี่ ขอตายดีกว่า พ่อแม่คนอเมริกันจะไม่สามารถ"บอกหรือสั่ง"ให้ลูกทำอะไรได้ นอกจากต้องบอกเหตุผล พูดดีๆให้ทำ ถ้าไม่เชื่อก็ต้องปล่อยให้เด็กเรียนรู้ผิดถูกด้วยตัวเอง ยิ่งถ้าอายุเกิน 18 ปีแล้ว ลืมไปได้เลย ตอนนี้ชีวิตเป็นของตัวเองเต็มที่ เพราะฉะนั้นเรื่องที่เห็นคนอเมริกันออกมาประท้วง ไม่ยอมใส่หน้ากากอนามัยหรือไม่ยอมถูก lock down อยู่ในบ้าน ก็พอจะเข้าใจว่าความคิดอ่านอย่างนี้มาจากไหนและมาได้อย่างไร
(Cr. picture vnexplorer.net)
ตรงข้ามกับคนไทยที่อาจจะไม่ได้ถูกเลี้ยงดูมาให้มีอิสรภาพทางความคิดหรือการกระทำเท่าคนอเมริกันขนาดนั้น จากเหตุการณ์ CoVID19 จะทำให้เห็นได้เลยว่า คนไทยเป็นเด็กดี เชื่อฟัง ถ้ามีผู้นำที่ออกมาบอกข้อความอย่างชัดเจนว่าต้องทำอะไร อย่างไรบ้าง ทำทำไม เพราะอะไร เราทุกคนจะให้ความร่วมมืออย่างดี ขอพูดตรงๆว่าคนไทยเป็นผู้ตามที่ดีกว่า
การที่พูดอย่างนี้ ไม่ได้บอกว่าอะไรแบบไหนดีกว่ากัน เพราะต้องดูสถานการณ์ อย่างสถานการณ์นี้ คนไทยทำได้ดีมาก ให้ความร่วมมือ ในขณะที่คนอเมริกันที่ถูกเลี้ยงมาและมีความคิดอีกแบบหนึ่งก็จะทำได้ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่าไหร่ ทั้งสองอย่างมีทั้งผลดีและผลเสีย แบบไทย ดูแล้วเรามีความสามัคคีกันดี แต่เราต้องมีผู้นำที่ดีด้วยและต้องมีความชัดเจนว่าต้องทำอะไร อย่างไร ในขณะที่คนอเมริกันดูจะไม่ให้ความร่วมมือ ทำให้การป้องกันหรือการจำกัดการระบาดของ CoVID19 ทำได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพนัก
แต่ถ้าเป็นเรื่องทั่วไปหรือในการทำงาน ส่วนตัวชอบแบบอเมริกามากกว่า เพราะถ้าผู้นำไม่ดีหรือไม่มีความรู้ คนอื่นๆจะสามารถออกมาแสดงความเห็นที่แตกต่างได้ ทำให้ทุกคนสามารถแก้ปัญหาและผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆไปได้ ทุกคนมีอิสระทางความคิด คนที่มีอายุน้อยกว่าหรือตำแหน่งต่ำกว่าก็สามารถพูด กระทำ และแสดงออกทางความคิดเห็นที่แตกต่างได้ ทำให้ไม่มีการจำกัดความคิดสร้างสรรค์ และจะทำให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี ครั้งนี้เมืองไทยทำได้ดีมากๆ และคิดว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกที่ประเทศไทยเน้นในเรื่องความปลอดภัยของ"คน"ก่อนเศรษฐกิจ ในขณะที่อเมริกาอาจจะเน้นไปทางฟื้นเศรษฐกิจมากกว่า เพราะอย่างไรเสีย ถ้าคนติดเชื้อกันมากๆ ใครจะมากู้เศรษฐกิจ เพราะเศรษฐกิจจะขับเคลื่อนไปได้ ก็อยู่ที่คน
(Cr. picture BBC.com)
อีกอย่าง เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เกิดความภูมิใจเกี่ยวกับสาธารณสุขของประเทศไทยที่มีรากฐานและมีระบบที่มีความแข็งแรง อย่างเช่นพี่ๆ อสม คุณหมอที่เก่งไม่แพ้ใครในโลก และนางพยาบาลที่ให้ความใส่ใจและดูแลคนไข้เป็นอย่างดี รวมทั้งสังคมไทยที่เต็มไปด้วยคนที่มีน้ำใจ ช่วยเหลือกันและกัน ถึงแม้เราจะเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา ในขณะที่ประเทศที่พัฒนาแล้วหลายๆประเทศ กลับไม่มีความพร้อมและไม่สามารถรับมือได้อย่างที่ทุกคนคาดหวังไว้
ต่อไปก็คงต้องรอดูว่าอเมริการจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร และได้เรียนรู้อะไรบ้างจากเหตุการณ์ครั้งนี้
นีน่าขอเป็นกำลังใจให้คนไทยและเพื่อนร่วมโลกทุกคนปลอดภัยและผ่านช่วงเวลานี้ไปได้อย่างปลอดภัย ตลอดรอดฝั่ง รวมทั้งเรื่องของฐานะทางเศรษฐกิจและการปรับตัวกับ new normal ที่คงไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้
(Cr. picture Thai Post)
Until next time … :)
สนใจอ่านบทความก่อนหน้านี้ กดที่ links ข้างล่างนี้เลยคะ
1. ทำไมควรต้องเรียนรู้คำด่าหรือคำสบถเวลาใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ Ep. 1
https://www.blockdit.com/articles/5d7ca38eb352790fa6a95472
2. ทำไมควรต้องเรียนรู้คำด่าหรือคำสบถเวลาใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ Ep. 2
https://www.blockdit.com/articles/5d7f3aa9494e230e3f4a669c
3. ทำไมควรต้องเรียนรู้คำด่าหรือคำสบถเวลาใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ Ep. 3
https://www.blockdit.com/articles/5d89cd8ada9589133f549e00
4. Culture Shocks เมื่อนีน่าอยู่อเมริกา Ep. 1
https://www.blockdit.com/articles/5d8c419a4b1ade063b4555ed
5. Culture Shocks เมื่อนีน่าอยู่อเมริกา Ep. 2
https://www.blockdit.com/articles/5da5a63df5f84f5ec19f625a
6. คนไทยกับภาษาอังกฤษ ... ปัญหาแห่งชาติที่แก้ไม่ตก Ep. 1
https://www.blockdit.com/articles/5e1591302f13090e8322147c
7. คนไทยกับภาษาอังกฤษ ... ปัญหาแห่งชาติที่แก้ไม่ตก Ep. 2
https://www.blockdit.com/articles/5e60d4f37de6fb04c8e1a505
2 บันทึก
23
7
13
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Nina's Life @ America
2
23
7
13
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย