8 มิ.ย. 2020 เวลา 11:32 • ประวัติศาสตร์
*** งาน Comic Con ซาอุดิอาระเบีย ***
ซาอุดิอาระเบียเป็นประเทศที่มีการตีความหลักอิสลามอย่างสุดโต่งกว่าชาติอื่นๆ เช่นก่อนหน้านี้ไม่นานมีการห้ามผู้หญิงขับรถ (เพราะผู้หญิงเปรียบเสมือนดอกไม้อันเปราะบางที่ต้องมีผู้ชายดูแลอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องขับรถเอง) และห้ามสร้างโรงหนัง (เพราะมันอาจเป็นแหล่งมั่วสุมอารยธรรมตะวันตกอันผิดผี)
1
แต่เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา ซาอุดิอาระเบียกลับมี "งาน Comic Con" ซึ่งหลายๆ อย่างในงานมัน Advance จากประเพณีโบราณไปมาก
งาน Comic Con ของซาอุฯ เป็นอย่างไร? ทำไมถึงเกิดขึ้น? เดี๋ยวเราไปดูกันครับ...
นี่คือโลโก้งาน Saudi Comic Con ประจำปี 2017 แสดงภาพซุปเปอร์ฮีโร่แดนอาระเบีย ปัจจุบันงานนี้จัดติดต่อกันมาเป็นปีที่ 2 แล้ว
ในงานนี้ท่านอาจได้พบแบทแมน
งานนี้ท่านอาจได้พบเดธโน๊ต
และสตรอมทรูปเปอร์
เราท่านในเมืองไทย อาจคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่อย่าลืมว่านี่คือ "ประเทศซาอุดิอาระเบีย" ที่ซึ่งคนอาจถูกลงโทษเฆี่ยนในที่สาธารณะ ไปจนถึงตัดหัว ด้วยโทษทำผิดหลักศาสนา
ที่นี่มีการแบ่งแยกผู้หญิงกับผู้ชายอย่างเด็ดขาด ผู้หญิงยากที่จะเดินทางถ้าไม่มีผู้ชายที่เป็นสามีหรือญาติคุ้มครองไป แม้สถานที่สาธารณะต่างๆ ก็มักแบ่งเขต หรือช่วงเวลาบริการไม่ให้ผู้ชายกับผู้หญิงปะปนกัน เพราะอาจนำไปสู่การทำร้าย ข่มขืน หรือมีความสัมพันธ์ก่อนแต่งอันผิดผี
ความรุนแรงนั้นถึงขั้นที่หากผู้หญิงคนหนึ่งได้คุยกับผู้ชายที่ไม่ใช่ญาติหรือสามีในที่สาธารณะ เธออาจถูกตำรวจศาสนาลากคอไปลงโทษได้
แต่งาน Comic Con กลับเป็นที่ที่ผู้หญิงสามารถปะปนกับผู้ชายโดยอิสระ ...นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นจากคนๆ นี้
มงกุฎราชกุมารบินซัลมานซึ่งพึ่งยึดอำนาจการปกครองได้หมาดๆ เป็นคนหัวก้าวหน้า เขาสวามิภักดิ์ทรัมป์อย่างเหนี่ยวแน่น และกำลังเดินหน้าปฏิรูปประเทศให้เป็นไปตามแบบตะวันตก
ภายใต้การปกครองของเขา ผู้หญิงได้รับอนุญาตให้ขับรถ, โรงหนังได้รับอนุญาตให้สร้าง, ตำรวจศาสนาถูกจำกัดสิทธิในการจับกุมคน หลายฝ่ายมองว่านี่คือการพยายามจำกัดอำนาจของขั้วการเมืองฝ่ายศาสนาซึ่งเคยคานกับฝ่ายราชวงศ์มาก่อน
บินซัลมานเชื่อว่าซาอุฯ ไม่สามารถพึ่งพาน้ำมันได้ตลอดไป จึงประกาศนโยบาย Vision 2030 พัฒนาประเทศซาอุฯ ให้ผู้นำในด้านต่างๆ หนึ่งในนั้นคือวงการบันเทิง
3
และนั่นแหละครับ คือที่มาของงาน Comic Con ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความทะเยอทะยานดังกล่าว
มีเรื่องที่คนมักเข้าใจผิด คือ "ชาวซาอุนั้นอยู่ในประเทศปิด ไม่รู้ว่าโลกภายนอกเป็นอย่างไร"
ความจริงซาอุฯ เป็นประเทศที่มั่งคั่งจากน้ำมัน ชาวซาอุฯ รวยกว่าพวกเรามาก แม้นอกบ้านจะต้องอยู่แบบเกร็งๆ แต่ในบ้านนั้นพวกเขาเข้าถึงสื่อบันเทิงทุกประเภท
1
และเมื่อพวกเขาเบื่อหน่ายกับกฎระเบียบ ก็มักบินไปผิดผีที่ต่างประเทศกันบ่อยๆ
กลุ่มโอตาคุซาอุฯ ให้สัมภาษณ์ว่า "พวกเรามีอยู่มานานแล้ว ...มีอยู่มาตลอด ...เราแค่ถูกจำกัดพื้นที่การแสดงออก ...แต่ตอนนี้ทุกอย่างกำลังเปลี่ยนไป..."
"และมันเป็นเรื่องน่ายินดีมาก!" กลุ่มโอตาคุประกาศ
1
งานนี้มีคนเข้าร่วมกว่า 20,000 คน แค่ในตอนเปิดตัว
ด้วยพลังทรัพย์อันล้นเหลือ ซาอุฯ ย่อมไม่มีปัญหาในการดึงอเวนเจอร์ทั้งทีมมาโชว์ตัว
หรือแม้แต่รถยนต์ที่แปลงร่างเป็นหุ่นยนต์ได้!
ในงานมีเดอะบีสต์
สตาวอร์
กัปปะ
ดร.เอ็กแมน
นีแกน
และเหล่าเกรียน
แน่นอนว่ามีการออกร้านสินค้าการ์ตูนอย่างคับคั่ง
พวกเขาอยากทำสิ่งที่รักมานานแล้ว
แม้ทางเข้างานนี้จะยังแบ่งแยกชายหญิง
แต่พอเข้าไปข้างในแล้วก็เต็มที่
ซาอุฯ มีประชากรโอตาคุหญิงหลบซ่อนอยู่มากมาย
พวกเธอมีส่วนสำคัญในการออกร้าน
การแสดงออก...
แม้พวกเธอจะคลุมผ้าอย่างเคร่งครัด
แต่พวกเธอก็ยังแต่งคอสเพลย์!
กลุ่มเคร่งศาสนาบางคนรู้สึกกังวลกับสิ่งนี้ บางคนกล่าวหาว่าเหล่าเนิร์ดโอตาคุเป็นพวกนอกรีตบูชาซาตาน
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากให้ดู คือการ์ตูนซุปเปอร์ฮีโร่หญิงสัญชาติซาอุฯ ชื่อ "ลาติฟา"
ลาติฟาเกิดในโลกอนาคตที่อารยธรรมล่มสลายไปแล้ว เธอหยาบกร้าน ขาดการศึกษา อ่านหนังสือไม่ออก แต่มีใจกล้าหาญรักความยุติธรรมเป็นอย่างยิ่ง
เธอตั้งคำถามกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวอยู่เสมอ ในโลกของเธอมีคุกที่จะจับผู้หญิงที่กบฎต่อสังคมไปคุมขัง
ลาติฟาขี่มอเตอร์ไซค์ ควงดาบวิเศษคู่ใจ บุกเข้าทำลายคุกนั้นด้วยความเด็ดเดี่ยว
...และนั่นคือเรื่องราวในงาน Comic Con ของราชอาณาจักรแห่งนี้...
::: ::: :::
สนใจเรื่องประวัติศาสตร์ สงคราม เรื่องต่างประเทศ กดติดตามเพจ The Wild Chronicles - เชษฐา https://www.facebook.com/pongsorn.bhumiwat ได้เลยจ้า
โฆษณา