28 ส.ค. 2020 เวลา 09:48 • ประวัติศาสตร์
***รีวิวอาหารมองโกเลีย ***
พูดถึงอาหารมองโกล สิ่งแรกสุดที่ผมคิดคือ "เถื่อนๆ แมนๆ" สิ่งต่อมาที่คิดคือ "เรียบง่าย แต่พิสดาร แหกกฎทุกตำราอาหาร" และสิ่งสุดท้ายที่ต้องอุทานออกมาคือ "อร่อยมาก อร่อยจริงๆ ไม่คิดว่าประเทศที่ทุรกันดารขนาดนี้ จะมีอาหารอร่อยขนาดนี้!" มันจะอร่อยพิสดารถึงเพียงไหน เดี๋ยวเราไปดูกันครับ
1
อาหารมองโกลนั้นก็เหมือนอาหารชาติอื่นที่ปรุงแต่งไปตามสภาพชีวิตของคนท้องถิ่น การเข้าใจพื้นฐานของอาหารชนิดนี้ เราจึงควรเข้าใจลักษณะของประเทศมองโกเลียก่อน
ประเทศมองโกเลียมีสัณฐานเป็นทุ่งหญ้าเวิ้งว้าง สลับทะเลทราย ต้นไม้ ผักหญ้า และทรัพยากรน้ำนั้นหาได้ยากยิ่ง ผู้คนที่นี่ดำรงชีวิตโดยการเลี้ยงปศุสัตว์ แพะ แกะ วัว ม้า อูฐ
ดังนั้นอาหารมองโกลแต่โบราณจึงแบ่งเป็นสองประเภท ได้แก่ "อาหารแดง" หมายถึงเนื้อสัตว์ที่เอามาปรุงในแบบต่างๆ
กับ "อาหารขาว" หมายถึงผลิตภัณฑ์จากนม ที่สำหรับชาวมองโกลแล้วเป็นเหมือนของวิเศษที่พระเจ้าประทานให้ (ภาพลูกสาวกระโจมที่ไปพัก)
1
ชาวมองโกลมีความเชี่ยวชาญในการแปรรูปนม พวกเขานำนมมาผลิต เนย ชีส โยเกิร์ต ไอรัก (เหล้านมม้า) และสิ่งพิสดารนานาประการ
1
สำหรับ "แป้ง" นั้นเป็นของที่เข้ามาทีหลังเกิดขึ้นเมื่อมองโกลไปตีดินแดนที่พอปลูกข้าวได้
และ "ผัก" เป็นของที่มาทีหลังสุด เกิดจากการค้าขายแลกเปลี่ยนนำเข้า
ที่นี่เนื้อแกะ เนื้อแพะ เนื้อม้าเป็นของหาง่ายราคาถูก เนื้อหมู เนื้อไก่เป็นของหายาก และพอออกจากเขตเมืองแล้ว "สลัดผัก" นั้นเป็นของประหลาด หายากไม่ค่อยมี
ผมจะขอพูดถึง "อาหารขาว" ก่อน นี่คือ "อะรูล" เป็นโยเกิร์ตแข็ง รสเปรี้ยวมัน กินเป็นเครื่องเคียงอาหารคาว
นี่คือ "เคลแมก" เกิดจากการเอาเนยและไขมันไปผสมกับแป้งและน้ำตาล ลักษณะคล้ายครีมพุดดิ้ง อร่อยกว่าที่คิดมาก
นี่คือ "ชาไขกระดูก" เกิดจากการเอานมจืดไปใส่ไขกระดูกสัตว์ รับประทานร้อนๆ ไขกระดูกจะอารมณ์ประมาณเยลลี่เหลว ดื่มรวมกันแล้วรสชาติแปลกนัก ค่อนทางเค็ม
นี่คือ "นมน้ำผึ้ง" เกิดจากการเอานมจืดไปใส่น้ำผึ้ง มีความร้อนหวาน รับประทานแล้วใจสงบ
1
นี่คือ "แกงสูตรคุณยาย" เกิดจากการเอาเครื่องในสัตว์ไปใส่นมต้มรสชาติกลมกล่อมกว่าที่คิด
อาหารเช้าที่เสิร์ฟมาในเกอ (กระโจม) ที่ผมพัก เป็น "ข้าวต้มนม" รับประทานกับชีส และอะรูลนานาชนิด ชีสส่วนใหญ่แข็งมากเป็นอันตรายต่อฟัน
โคลสอัพข้าวต้มนม และขนมปังที่กินแกล้ม
นี่คือ "ไอรัก" หรือเหล้านมม้า เกิดจากนำนมม้ามาหมัก มีแอลกอฮอล์ประมาณ 0.7-2.5% ดื่มยังไงก็ไม่เมา
รสชาติเปรี้ยวเหมือนโยเกิร์ต แต่ไม่หวาน อร่อยกลมกล่อมกว่าที่คิด
ถัดจากอาหารขาวขอสลับด้วย "อาหารแป้ง" ซึ่งเป็นสิ่งที่มองโกลรับมาภายหลัง นี่คือ "โบร์ทซอก" หรือโดนัทมองโกล รสชาติคล้ายปาท่องโก๋ผสมโดนัท
นี่คือ "อูล บูฟ" แปลตรงตัวว่า "ขนมปังพื้นรองเท้า" เป็นขนมปังแข็งที่พระลามะในวัดประดิษฐ์ขึ้น
ในงานเทศกาลปีใหม่ ชาวมองโกลจะจัดงานรื่นเริง นำอาหารแป้งมารับประทานแบบไม่อั้น พวกเขาจะเรียงอูลบูฟต่อสูงขึ้นหลายชั้น แล้วโรยด้วยอะรูล กับครีมเคลแมก ให้ทุกคนในครอบครัวแบ่งปันกันกินจนอิ่มหมีพีมัน อนึ่งการเรียงอูลบูฟสูงเป็นภูเขาเช่นนี้ มาจากคติพุทธ เปรียบกับการสร้าง "เขาพระสุเมรุ" อันศักดิ์สิทธิ์มงคลขึ้นในบ้าน
ชาวมองโกลยังถนัดในการทำแป้งทอด ในภาพนี้คือ "คูชูร์" หรือแป้งทอดไส้เนื้อ กินกับซอสมะเขือเทศ หรือซีอิ้ว รสชาติอร่อยมากๆ
นี่คือถาดแป้งทอดไส้เนื้อ และเกี้ยว ซึ่งน่าจะรับมาจากจีน
ในคืนที่ผมไปนอนกระโจม เจ้าบ้านทำผัดหมี่เนื้อมา กินกับอะรูล และชีสแข็งนานาชนิด (อีกแล้ว) ผัดหมี่เนื้อนั้นอร่อย ส่วนชีสแข็งมันกัดยาก เลยเฉยๆ
ชาวมองโกลยังชอบทำแกงมันฝรั่งใส่เนื้อ จานนี้เฉยๆ คิดว่าเราท่านคงพอเดารสชาติได้
เอาละ ...และแล้วเราก็มาถึง "อาหารแดง"
ภายใต้ทรัพยากรจำกัด ชาวมองโกลพัฒนาเทคนิคการกินเนื้อหลากหลายแบบ เช่นเมนูนี้คือไขกระดูกที่ให้เอามาทาขนมปังกิน
1
พวกเขามีวิธีปรุงเนื้อที่ทำให้อร่อยมาก ยากที่จะหาที่อื่นเสมอเหมือน มาที่นี่แล้วเหมือนได้มาเยี่ยมสวรรค์ของคนกินเนื้อ! ภาพนี้คือ "คอร์คอก" หรือเนื้อแพะที่ย่างโดยใส่ไว้กับหินร้อนในกระเพาะแพะ (ภาพตัดกระเพาะนี่เซฟมาจากที่อื่นนะครับ ไม่ได้ถ่ายเองเพราะไม่มีโอกาสเห็น)
ออกมาเป็นจานแล้วรสชาติอร่อยสุดบรรยาย!
นอกจากเนื้อแล้ว ชาวมองโกลยังชอบรับประทานเครื่องในอย่างมาก
อันนี้ลิ้นวัว นี่ก็อร่อยมากๆๆ
อันนี้เนื้อวัวเผ็ด อร่อยมาก เช่นกัน
ภัตตาคารนอกเมืองมักมีป้ายใหญ่ๆ เป็นเมนูแสดงว่าขายอะไรบ้าง เมนูก็มักจะคล้ายๆ กัน เป็นแป้งทอดไส้เนื้อ เนื้อวัว เนื้อแกะกับเครื่องใน
อันนี้เป็นไส้ ...มันก็จะมันๆ หน่อย
อันนี้กระดูกหางวัว เห็นหน้าตาบ้านๆ แบบนี้ โคตรซุปเปอร์อร่อยครับ!
อันนี้คือเนื้อแกะ และเนื้อหางแกะ (คืออันที่เห็นเป็นสีขาวๆ) เนื้อหางนี้เมื่อลงหม้อไฟมักจะแตกเป็นชิ้นเล็กๆ กินค่อนข้างยาก
...แต่พระเอกที่ผมพบในทริปนี้น่ะเหรอ... นั่นก็คือ แต่น แต้น ...เนื้อม้า!
...แต่พระเอกที่ผมพบในทริปนี้น่ะเหรอ... นั่นก็คือ แต่น แต้น ...เนื้อม้า!
อร่อยจนกลับไทย คนในทัวร์ต้องซื้อเนื้อม้ากลับไปด้วยคนละหลายกระป๋อง (ในภาพเป็นจานรวมเนื้อ ไก่-วัว-ม้า แต่ม้าอร่อยสุด)
อันนี้ซี่โครงแกะ กินกับแป้งนานาชนิด อร่อยสุดพรรณนาเช่นกัน!
พวกซุปเนื้อต่างๆ ก็ไม่น้อยหน้า!
...และแล้วเราก็มาถึงพระเอกที่สอง..
นี่เลยครับหัวแกะย่าง! อร่อยไปทุกส่วนที่มันมีอยู่ ทั้งเนื้อแก้ม เนื้อคาง เนื้อหู เนื้อลูกตา (รสชาติประมาณวุ้นๆ ที่มีเนื้อตรงกลาง)
และที่เด็ดที่สุดคือสมอง! เป็นมูสๆ เอามาทากินกับแป้ง
อร่อยร้องไห้... ไม่รู้ชาตินี้จะได้มีโอกาสกลับมากินอีกหรือเปล่านะเจ้าแกะ...
กินเสร็จแล้วเราก็ต้องตบด้วยเบียร์เจงกิสข่านนะครับ รสชาตินุ่มลึกกว่าที่คิด
และนี่คือวอดก้าเจงกิสข่าน ของในประเทศนี้อะไรก็ยี่ห้อเจงกิสข่านไปหมด! รสอร่อย ร้อนแรงครับ กรึ๊บๆ ^^
ขอปิดท้ายด้วยภาพแมวมองโกล อันนี้ผมไม่ได้จับกินนะครับ แต่มันมาขออาหาร เราก็โยนๆ เนื้อให้ไป ประเทศนี้หมาแมวตัวพอง เพราะเนื้อนมอุดมสมบูรณ์มาก ...ขอขอบคุณทุกท่าน จำไว้นะครับว่าชีวิตนี้ให้หาทางกินเนื้อม้ากับหัวแกะมองโกล แล้วท่านจะทราบว่าความอร่อยแบบทุ่งหญ้านั้นพีคเพียงใด!
:: ::: :::
สนใจอ่านเรื่องประวัติศาสตร์ สงคราม เรื่องต่างประเทศ กดติดตาม เพจ The Wild Chronicles ได้เลยนะครับ https://facebook.com/pongsorn.bhumiwat
โฆษณา