5 มิ.ย. 2020 เวลา 02:03 • ประวัติศาสตร์
##บัลแกเรียกับความห้าวจนหมดตัว#
ในปัจจุบันบัลแกเรียคือชาติเล็กๆที่ยากจนในบอลข่าน เศรษฐกิจส่วนใหญ่พึ่งพาแต่การเกษตร และอุตสาหกรรมเล็กๆน้อยๆ ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากอียูเป็นส่วนใหญ่ แต่ในอดีต บัลแกเรียคือชาตินึงที่ want สงครามมากๆ เป็นรัฐทหารแห่งบอลข่าน จนได้ชื่อว่าเป็น ปรัสเซียแห่งบอลข่านเลยทีเดียว (เพราะปรัสเซียมีนโยบายเลือดและเหล็กในการรวมเยอรมัน และบัลแกเรียก็จะทำเช่นกันในการรวมบอลข่าน)
เมื่อบัลแกเรียได้รับเอกราชอย่างแท้จริงจาก ออตโตมันในปี 1908 เลื่อนสถานะจากราชรัฐในอารักขาจักรวรรดิออตโตมัน พร้อมทั้งรวมเข้ากับแคว้นรูเมเลียตะวันออก เป็นราชอาณาจักรบัลแกเรีย ที่มีระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ ซึ่งกษัตริย์องค์แรกก็คือ ซาร์เฟอร์ดินานด์ที่ 1 แห่งราชวงศ์ซัคเซิน-โคบูร์กและโกทา เชื้อพระวงศ์เยอรมันที่ได้รับเลือกมาเป็นกษัตริย์ของบัลแกเรีย ซึ่งมีสถานะเป็นหลานชายคนหนึ่งของควีนวิคตอเรีย(ควีนได้บันทึกในไดอารี่ส่วนตัวว่าเขาไม่เหมาะที่จะเป็นกษัตริย์ เป็นคนที่อ่อนแอและถูกชักจูงได้ง่าย) ในตอนนั้นบรรยากาศการจัดตั้งบัลแกเรียเต็มไปด้วยความรุนแรงทางชาตินิยม โดยที่แนวคิดของบัลแกเรียในตอนนั้นคือ ต้องการเป็นผู้นำในคาบสมุทรบอลข่านเพียงผู้เดียว รื้อฟื้นจักรวรรดิไบแซนไทน์ยุคใหม่ขึ้นมา ขับไล่เติร์กออกจากยุโรป ซึ่ง Ideology ของบัลแกเรียก็ไปขัดขากับเซอร์เบียที่ต้องการรวมกลุ่มสลาฟใต้(แผนยูโกสลาเวีย) จนกลายเป็นคู่ปรับกันตลอดกาล โดยในสเต็ปแรกของบัลแกเรียคือต้องสร้างพันธมิตรแห่งบอลข่านขึ้นมาที่เรียกว่าสันนิบาตบอลข่าน(รัสเซียเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง โดยต้องการที่จะคานอำนาจกับออสเตรีย-ฮังการี ในบอลข่าน) โดยนายกบัลแกเรียคือ นายเกอร์ชอฟ ได้ไปฟอร์มทีม กรีซกับเซอร์เบียมา ซึ่งทั้งสองชาติก็ต้องการดินแดนเติร์กในบอลข่านเหมือนกันจากนั้นมอนเตรเนโกรกับโรมาเนียก็ตามมา และทำสงครามขับไล่เติร์กออกไปจากยุโรปให้ได้ จนเกิดเป็นสงครามบอลข่านครั้งที่ 1 เหล่าประชาชาติบอลข่านจับมือกันรุมยำเติร์ก เติร์กเสียดินแดนในยุโรปเกือบหมด จนชายแดนบัลแกเรียห่างจากกรุงอิสตันบูลแค่ 40 ไมล์
ทุกอย่างดูเหมือนจะแฮปปี้เอนดิ้งดี ชาติต่างๆได้รับดินแดนที่ต้องการ แต่ปัญหามันเกิดที่ดินแดนนอร์ทเทิร์นมาซิโดเนีย ที่เซอร์เบียก็อยากได้เหมือนกัน บัลแกเรียเลยส่งทหารไปโจมตีเซอร์เบียก่อน แต่หลังจากนั้นบัลแกเรียก็โดนสหบาทาจากทั้งบอลข่านรวมถึงเติร์ก ศัตรูเก่าด้วย ทำให้ดินแดนที่เคยได้มาจากสงครามครั้งก่อนนั้นลดหายไปเกือบหมด
ตั้งแต่นั้นบัลแกเรียจึงผูกใจเจ็บ และตัดสินใจเข้าร่วมฝ่ายมหาอำนาจกลางใน ww1 ปี 1915 ทั้งๆที่จะต้องไปจับมือคืนดีกับตุรกีและออสเตรีย-ฮังการีศัตรูเก่า เพียงเพราะเยอรมันสัญญาว่าจะให้ดินแดนที่เคยเสียไปคืนแก่บัลแกเรียและเซอร์เบียจะต้องแพ้แน่นอน ซึ่งบัลแกเรียได้ระดมพลเข้าสู้สงครามกว่า 1 ล้านคน!! จากประชากรทั้งประเทศแค่ 4 ล้านกว่าคน (ผู้ชายเกือบทั้งประเทศเลยทีเดียว) โดยบัลแกเรียก็ทำหน้าที่ได้ดีในสงครามไม่ได้เป็นตัวถ่วงแบบที่ใครคิด โดยเป็นตัวแทงค์รองในการรบกับเซอร์เบีย ตัวแทงค์หลักในการรบกับกรีซ และตัวซัพในการรบกับโรมาเนียและควบคุมบอลข่าน ทหารบัลแกเรียนั้นทรงประสิทธิภาพและชาญสมร สามารถยันข้าศึกกว่าครึ่งล้านที่ยกพลขึ้นบกที่เมืองซาโลนิก้า ในกรีซ ไว้ได้ยาวนาน ช่วยยืดอายุมหาอำนาจกลางในบอลข่านไว้ได้นานพอตัว แต่สุดท้ายด้วยภัยการเมืองในประเทศตัวเองและการเปิดแนวรบหลายด้านทำให้บัลแกเรียต้องยอมแพ้และเสียดินแดนไปในที่สุดในปี 1918 และในสงครามโลกครั้งที่ 2 บัลแกเรียได้เข้าร่วมสงครามกับฝ่ายนาซีเยอรมันอีกครั้งเช่นเดิม
จะเห็นได้ว่าภายในเวลาแค่ 40 ปีตั้งแต่ก่อตั้งประเทศ บัลแกเรียเข้าร่วมสงครามในยุโรปบ่อยมากและชอบเกณฑ์คนเข้าสู่สนามรบทีละมากๆ (สงครามบอลข่านทั้งสองครั้งกดไปล้านกว่า ในww1 ก็ล้านกว่า)เป็นประเทศที่บอบช้ำจากสงครามสูง ระบบสาธารณูปโภคถูกทำลายไปเยอะ ทำให้ปัจจุบันนั้นบัลแกเรียจึงเป๋ไปไม่น้อยเลย ดังนั้นการจะตัดสินใจอยากเป็นใหญ่ด้วยกำลังทหารจึงไม่ได้เหมาะไปกับทุกประเทศซะทีเดียว ถ้าคุณทุ่มสุดตัวและอับโชคเลือกข้างผิดตลอดแบบบัลแกเรีย
โฆษณา