6 มิ.ย. 2020 เวลา 12:49 • หุ้น & เศรษฐกิจ
CAN SLIM วันละบท - บทที่ 3
C = current big or accelerating quarterly earnings and sales per share
กำไรและยอดขายต่อหุ้นไตรมาสปัจจุบันที่สูงหรือมีการเติบโตที่มากขึ้น
ตำราของนักลงทุนสาย Run trend - ซื้อแล้วถือให้สุดเทรนด์
มาถึงบทที่กล่าวถึงตัวอักษรตัวแรกของ CAN SLIM กันครับ นั่นคือ C
หลักการข้อแรก หุ้นที่คุณเลือกควรจะมีตัวเลขกำไรต่อหุ้นในไตรมาสปัจจุบัน (ไตรมาสล่าสุดที่มีการประกาศออกมา) ที่คิดเป็น % ที่สูงขึ้นอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับกำไรในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ซื้อหุ้นที่ “กำไรปัจจุบันสูงขึ้นอย่างมาก” นอกจากนี้ได้กล่าวถึงตัวเลขกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่คุณต้องการจะให้ความสนใจนั้นคำนวณออกมาด้วยการหารกำไรทั้งหมดของบริษัทหลังหักภาษีด้วยจำนวนของหุ้นสามัญ การเปลี่ยนแปลงเป็น% ของ EPS คือ องค์ประกอบที่สำคัญมากที่สุดในการเลือกหุ้นในทุกวันนี้ ยิ่ง%ที่เพิ่งขึ้นสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น
ผู้เขียนได้แสดงความประหลาดใจว่าทำไมผู้จัดการกองทุนมืออาชีพบางคนหรือปม้กระทั่งรายย่อย ถึงได้ซื้อหุ้นที่ตัวเลขกำไรไตรมาสล่าสุดที่ประกาศออกมาไม่มีการเปลี่ยนหรือไม่ก็ลดลง
แม้แต่กำไรที่สูงขึ้น 5-10% ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้เกิดการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของราคาหุ้น
ระวังรายงานตัวเลขกำไรที่ชักนำไปในทางที่ผิด เช่น การอ่านเจอว่ายอดขายเพิ่มขึ้น 20% แต่ทำไมกำไรกลับเพิ่มขึ้นมาแค่ 5% หรือนี่มันจะบอกถึงอะไรบางอย่างเกี่ยวกับอัตรากำไรของบริษัทได้หรือเปล่า
คำถามสำคัญที่ต้องถาม คือ กำไรต่อหุ้นในไตรมาสปัจจุบันเติบโตขึ้น (เมื่อคิดเป็น%) เท่าไหร่จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ไม่ใช่กับไตรมาสก่อนหน้านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงความบิดเบือนใดๆซึ่งเป็นผลมาจากฤดูกาล พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ คุณจะต้องไม่เปรียบเทียบรายได้ต่อหุ้นของไตรมาสเดือนธันวาคมกับรายได้ต่อหุ้นของเดือนกันยายน แต่ให้เปรียบเทียบกำไรต่อหุ้นของเดือนธันวาคมปีนี้เทียบกับปีก่อนนั่นเอง
อย่าลืมเอาผลกำไรพิเศษของบริษัทที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวออกไป หมายถึง เวลาที่ดูกำไรสุทธิทุกครั้งอย่าลืมดูว่าบริษัทมีกำไรพิเศษหรือไม่ ถ้ามีให้ลบออกไปก่อน
ตั้งระดับที่ต่ำที่สุดของการเพิ่มขึ้นของกำไรในปัจจุบัน
ผู้เขียนได้แนะนำว่าไม่ควรซื้อหุ้นที่กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นน้อยกว่า 18-20% ในไตรมาสล่าสุดเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
โดยนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จหลายคนใช้ตัวเลข 25 หรือ 30%เป็นตัวเลขการเพิ่มขึ้นของกำไรที่น้อยที่สุดของพวกเขา
และเพื่อให้ปลอดภัยมากขึ้นไปอีก คุณควรใช้สองไตรมาสล่าสุดทั้งสองไตรมาสที่มีกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน และเพื่อให้ขบวนการคัดสรรหุ้นของคุณนั้นเฉียบคมมากขึ้นไปอีก ให้มองไปข้างหน้าที่หนึ่งหรือสองไตรมาสถัดไปและตรวจสอบกำไรที่รายงานออกมาในไตรมาสเดียวกันนั้นของปีก่อน แล้วคอยดูว่าบริษัทจะมีกำไรเปลี่ยนแปลงไปจากกำไรที่มากหรือน้อยผิดปกติในปีก่อนหรือไม่
นักลงทุนรายย่อยหลายคนและแม้แต่นักลงทุนสถาบันบางรายซื้อหุ้นที่กำไรลดลงในไตรมาสที่มีการประกาศออกมาล่าสุดเพราะว่าพวกเขาชอบตัวบริษัทและคิดว่าราคาหุ้นของมันนั้น “ถูก” และมักจะคิดว่ากำไรจะรีบาวน์กลับมาได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคตอันไกล้ ซึ่งอาจจะเป็นจริงในบางกรณีหรืออาจจะไม่เป็นจริงก็ได้ ซึ่งคุณมีทางเลือกที่จะลงทุนหุ้นอื่นๆที่ดีกว่านี้ก็ได้
หลีกเลี่ยงบริษัทยักษ์ใหญ่เก่าแก่ที่มีการบริหารงานแบบเดิมๆ ซึ่งอาจจะเร่งสร้างกำไรให้ได้แค่ 8-10% ซึ่งมันเป็นตัวเลขที่ดูน่าเบื่อ แต่ให้ลองดูว่าบริษัทได้มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่โดดเด่นหรือมีการปรับปรุงการบริหารจัดการที่ดีขึ้นหรือไม่
มองหาการเติบโตที่เพิ่มขึ้นของกำไรรายไตรมาส
ดูที่การเติบโตของยอดขายเช่นเดียวกับการเติบโตของกำไร
กำไรรายไตรมาสที่แข็งแกร่งและสูงขึ้นควรจะต้องมีการเติบโตของยอดขายในไตรมาสล่าสุดอย่างน้อย25% มารองรับด้วยเสมอ
จำเอาไว้เป็นพิเศษว่าถ้าการเติบโดของทั้งยอดขายและกำไรนั้นมีตัวเลขที่สูงขึ้นในช่วง 3 ไตรมาสล่าสุด คุณจะต้องอดทนถือไว้ก่อน อย่าเพิ่งรีบขายมันไป
การเติบโตของกไรที่ลดลงอย่างชัดเจนติดต่อกันสองไตรมาสสามารถที่จะสร้างปัญหาให้กับหุ้นของคุณได้ จงระวังและหมั่นตรวจสอบหุ้นที่คุณถือหรือกำลังซื้ออยู่ให้ดีๆ
บทสรุปของบทนี้ C ตัวแรกของ CAN SLIM ได้ให้กฎข้อแรกที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาการคัดสรรหุ้นของคุณ คือ การเลือกหุ้นที่กำไรต่อหุ้นในไตรมาสปัจจุบันควรที่จะเพิ่มขึ้นใน% ที่สูง คือ อย่างน้อย 25-50% มากกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน บริษัทที่ดีที่สุดสามารถแสดงผลกำไรที่สูงขึ้นถึง100-500% หรือมากกว่านั้นอีก
ตัวเลขธรรมดาพื้นๆอย่าง 10 หรือ 12% นั้นยังไม่พอเมื่อคุณกำลังเลือกหุ้นที่จะเป็นผู้ชนะ
ในบทต่อไปจะไปที่ตัวอักษรถัดไป คือ A ครับ
สามารถอ่านตอนอื่นๆได้จาก https://www.blockdit.com/series/5ed87a4be246c20cc9714e53

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา