9 มิ.ย. 2020 เวลา 05:38 • หุ้น & เศรษฐกิจ
CAN SLIM วันละบท - บทที่ 4
A = annual earnings increases: Look for big growth
กำไรประจำที่เพิ่มขึ้น: มองหาการเติบโตที่สูงขึ้น
ตำราของนักลงทุนสาย Run trend - ซื้อแล้วถือให้สุดเทรนด์
ถ้าคุณเห็นว่ากำไรไตรมาสปัจจุบันนั้นดีทีเดียว จงระวังอย่าเพิ่งรีบตัดสินว่าหุ้นตัวนั้นจะเป็นหุ้นที่ประสบความสำเร็จเพราะอาจเป็นแค่ความสำเร็จที่เกิดขึ้นมาเพียงชั่วคราวก็ได้ จึงนำมาซึ่งตัวอักษรที่สองของ CAN SLIM
เลือกหุ้นที่มีอัตราการเติบโตของกำไรประจำปีที่ 25-50% หรือสูงกว่านั้น
ซึ่งการศึกษาพบว่าหุ้นที่โดดเด่นทุกตัวในการศึกษา สามในสี่ของผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่แสดงให้เห็นว่าอย่างน้อยที่สุดพวกมันก็ต้องมีการเติบโตประจำปีที่สูงขึ้นในสามปีก่อนหน้าและในบางกรณีอาจจะถึงห้าปี
มองหาอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของเจ้าของ (ROE) ที่สูง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการใช้เงินของบริษัทที่ดีกับบริษัทที่แย่ออกจากกัน
โดยจากการศึกษา แสดงให้เห็นว่าหุ้นกลุ่มเติบโตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมนรอบ50ปีที่ผานมามี ROE อย่างน้อย17%
ตรวจสอบความมีเสถียรภาพของกำไรของบริษัทในสามปีหลังสุด ซึ่งตัวเลขที่ยิ่งน้อยลงเท่าไรก็ยิ่งหมายถึงความมีเสถียรภาพที่สูงขึ้น ซึ่งหุ้นเหล่านี้จะมีแนวโน้มที่จะมีตัวเลขความเสถียรภาพที่ต่ำกว่า 20 หรือ 25
โดยถ้าค่าเสถียรภาพของกำไรสูงกว่า 30 จะมีลักษณะเป็นหุ้นวัฏจักรมากกว่า(หุ้นวัฎจักร เช่น เหล็กกล้า เคมี กระดาษ ยางรถยนต์และเครื่องจักรกล) และมีความน่าไว้วางใจน้อยกว่าในแง่การเติบโต โดยที่การวิ่งขึ้นของราคาของหุ้นวัฏจักรมีแนวโน้มที่จะสั้นกว่าและมีโอกาสที่จะสะดุุดลงตั้งแต่มีร่องรอยของการถดถอยหรือการชะลอตัวของกำไร
ถ้าจะซื้อหุ้น turnaround ให้ดูที่การเติบโตของกำไรประจำปีอย่างน้อย 5-10% และการฟื้นตัวของกำไรรายไตรมาสอย่างชัดเจนสองไตรมาสติดต่อกัน
หุ้นของบริษัทที่มีประวัติการเติบโตของกำไรในสามปีหลังสุดอย่างโดดเด่นที่ 30% แต่อัตราารเติบโตชะลอลงเหลือ 10% หรือ 15% ในไตรมาสหลังหลังๆแสดงให้เห็นว่าเป็นหุ้นที่อิ่มตัวเต็มที่แล้ว
การจัดอันดับ EPS จะวัดการเติบโตของกำไรในสองไตรมาสล่าสุดของบริษัทเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้า และอัตราการเติบโตของมันในช่วงสามปีหลังสุด แล้วนำมาจัดอันดับเปรียบเทียบกับหุ้นทั้งหมดที่เทรดกันอยู่ ซึ่งถ้าค่ามากสุดแสดงว่าบริษัทนั้นมีผลงานที่เหนือกว่าบริษัทอื่นๆ
ผู้เขียนได้ให้ข้อสังเกตการใช้ P/E ว่า อัตราส่วน P/E ไม่ได้เป็นปัจจัยที่มีความเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของราคาและมีส่วนเกี่ยวข้องน้อยมากกับเรื่องที่ว่าหุ้นควรที่จะถูกซื้อหรือว่าควรถูกขายออกไป
แต่ให้พิจาณาอัตราการเปลี่ยนแปลงของกำไรนั้นกำลังเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างชัดเจนหรือไม่มากกว่า
ในภาวะตลาดกระทิงอย่างรุนแรง อย่ามองข้ามหุ้นตัวใดเพียงเพราะแค่ว่ามัน P/E สูง ซึ่งมันอาจจะเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ตัวถัดไปก็ได้ อย่าต่อรองราคาโดยใช้ค่า P/E และหุ้นที่มี P/E ที่ต่ำก็ไม่ได้การันตีว่าราคาจะไม่ลงไปจากเดิมอีก
หุ้นที่มี P/E ที่ต่ำที่สุดมักจะเป็นบริษัทที่มีประวัติของกำไรที่ย่ำแย่ที่สุด
ซึ่งข้อเท็จจริงง่ายๆ ก็คือไม่ว่าในเวลาใดๆก็ตาม หุ้นจะขายกันที่ราคาไกล้เคียงกับมูลค่าปัจจุบันของมัน เช่น หุ้นที่ขายราคาที่ P/E 20 เท่าของกำไรอยู่ที่ในระดับราคานั้นเพราะเหตุผลบางอย่าง เช่นเดียวกับหุ้นที่ขายราคาที่ P/E 7เท่า
ผู้เขียนได้ยกตัวอย่างเรื่อง P/E เพิ่มว่า คุณไม่สามารถที่จะซื้อรถเบนซ์ด้วยราคาของเชฟโรเล็ต ทุกๆอย่างขายกันในราคาที่พอๆกับมูลค่าของมันในเวลานั้นโดยขึ้นอยู่กับกฏของอุปสงค์และอุปทาน
พอได้แล้วกับความคิดเห็นเกี่ยวกับ P/E ที่สูงเกินไปแล้วจะขายหุ้นทิ้ง ซึ่งความคิดเห็นส่วนตัวของนักลงทุนโดยส่วนใหญ่จะผิด ตลาดจะเป็นฝ่ายถูกเสมอในเกือบทุกครั้ง ดังนั้นหยุดต่อสู้และโต้เถียงกับตลาดได้แล้ว
บทสรุปสำหรับบทนี้ ตัวอักษร A ใน CAN SLIM กล่าวถึงอัตราการเติบโตของกำไรและยอดขายที่สูงขึ้นอย่างชัดเจนในแต่ละปีของสามปีหลังสุดบวกกับกำไรในไตรมาสหลังๆที่สูงขึ้น
ค่าอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของเจ้าของ (ROE) ที่สูง
ในบทต่อไปจะเป็นตัวอักษร N ใน CAN SLIM ครับ
สามารถอ่านตอนอื่นๆได้จาก https://www.blockdit.com/series/5ed87a4be246c20cc9714e53

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา