8 มิ.ย. 2020 เวลา 06:27 • ประวัติศาสตร์
ยานพาหนะของสยาม
Siamese Conveyance
พี่ท่านทั้งหลายเคยเจอเพื่อนชาวต่างชาติถามกันหรือไม่เจ้าค่ะว่า “ที่ประเทศไทยของคุณยังขี้ช้างเป็นพาหนะในการเดินทางอยู่หรือเปล่า”
สำหรับตัวฉันเองมีเพื่อนชาวต่างชาติพอสมควร เพราะเนื่องด้วยเป็นคนชอบแชทฝึกภาษากับพวกเขา ซึ่งบางคนก็ยังไม่เคยมาประเทศไทยเลย ส่วนใหญ่รับข้อมูลทางสื่อหนังสือ ทีวีโทรทัศน์กัน ซึ่งก็มักจะฉายการท่องเที่ยวของไทยเรา ในแบบที่ฝรั่งนั้นเขานั้นไม่มี อย่าง ตลาดน้ำ ขี่ช้างเที่ยวป่า ฯลฯ ซึ่งนั้นจึงทำให้พวกเขารับรู้กันโดยปริยายว่า ประเทศไทยในปัจจุบันของเรานั้น ยังมีวิถีชีวิตในแบบนั้นอยู่
แต่พี่ท่านทั้งหลายเชื่อหรือไม่เจ้าค่ะว่า สิ่งเหล่านั้นแหละคือจุดขายของประเทศไทย ที่ทำให้ไทยนั้นแตกต่างไปจากชนชาติตะวันตกหรือชนชาติอื่นๆ แม้โลกของเราจะพัฒนาไปไกลแค่ใหนแล้ว แม้ต่างชาติจะมีรถไฟฟ้าที่วิ่งเร็วที่สุดมากเท่าไรแล้วก็ตาม แต่เชื่อเถอะเจ้าค่ะ!ว่า สิ่งเหล่านั้นหาใช่สิ่งที่ใครๆก็ไม่สามารถมีได้ไม่
สยามประเทศ ในสมัยก่อนนั้นมักจะใช้สัตว์ในการเป็นพาหนะอยู่เป็นธรรมดาแล้ว เพื่อใช้สำหรับการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆไม่ว่าจะใกล้หรือไกล โดยสัตว์ที่ชาวสยามมักใช้คือ สัตว์จำพวก โคผู้ กระบือ และช้าง ซึ่งสัตว์เหล่านี้หลวงอนุญาติให้ใช้เป็นพาหนะได้ถูกต้องตามกฎหมายกันเจ้าค่ะ
ช้าง
ในสมัยก่อนนั้นเวลาที่ชาวสยามพูดถึงช้างมักจะพูดราวกับว่า กำลังพูดถึงคนๆหนึ่ง เหตุด้วยว่าชาวสยามนั้นเชื่อกันว่าช้างรู้ภาษาเหมือนกับมนุษย์ ขาดก็แต่ว่ามันไม่สามาารถพูดได้เท่านั้นเอง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชาวสยามนั้นมีความผูกพันกับช้างเป็นอย่างมาก
ช้างนั้นหากจะนำมาใช้งานหรือนำมาใช้เป็นพาหนะทางหลวงนั้นมิถือ เพราะด้วยมีพระบรมราชานุญาตกำหนดกฎหมายไว้ว่า ผู้ใดปราถนาที่จะจับช้างนั้นก็สามารถจับได้ไม่มีการห้าม แต่ให้การจับนั้นเพียงแต่เพื่อคล้องมาใช้งานเท่านั้น ไม่สามารถที่จะไล่ฆ่า หรือนำเอางาของมันมาครอบครองได้ ดังนั้นแล้วชาวสยามจึงสามารถนำช้างมาใช้เป็นพาหนะเพื่อนเดินทางไปไหนมาไหนก็ได้สุดแล้วแต่ตามตัวบทกฎหมายเจ้าค่ะ
ส่วนช้างที่นำมาเป็นใช้กันนั้นส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นช้างพัง (เพศเมีย) ส่วนช้างพลาย (เพศผู้) นั้นจะตั้งไว้ใช้สำหรับการศึกสงครามเสียมากกว่า
เอ้ๆๆ มาถึงตรงนี้อยากถามพี่ท่านทั้งหลายจังเลยเจ้าค่ะว่า มีผู้ใดเคยขี้ช้างบ้างกันบ้างน๊า ? แล้วถ้าเคยมีความรู้สึกยังไงกันบ้างเจ้าค่ะ ... ยังไงก็มาลองมาพูดคุยถึงประสบการณ์กันได้ที่ใต้โพสต์นี้นะเจ้าค่ะ
โค
โค หรือ วัว ก็เป็นสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน โดยชาวสยามมักเลี้ยงโคตัวผู้เพื่อนำมาใช้งานหรือใช้เทียมเกวียนเป็นพาหนะ มากกว่าที่จะเลี้ยงเพื่อนำเนื้อมาเป็นอาหาร เพราะชาวสยามสมัยนั้นไม่ใคร่พอใจที่จะทานเนื้อสัตว์กันสักเท่าไรนั้นเองเจ้าค่ะ
ดังความในบันทึกจดหมายเหตุของลาลูแบร์ ความตอนหนึ่งว่า
“การพอใจกินเนื้อสัตว์นี้จีนตรงข้ามกับชาวสยาม ชาวสยามไม่ใคร่พอใจกินเนื้อสัตว์ แม้จะมีผู้เอามาให้ … พวกฝรั่งที่เข้ามาอยู่ในกรุงสยามก็เว้นกินเนื้อสัตว์ด้วยมากบ้างน้อยบ้าง...” อ้างอิง “ลาลูแบร์ เปนจดหมายเหตุ พงศาวดารสยาม ครั้งกรุงศรี เล่ม2”, จำหน่ายที่ปรีดาลัย,น.128,134
ก็นั้นแหละนะเจ้าค่ะ พอพูดถึงน้องโค ก็คิดถึงการได้นั่งสวยๆเอาผ้าคลุมหัวเดินทางไปบนเกวียนไปค้าขายยังเมืองต่างๆเนอะ (55+ พูดเหมือนเคยนั่ง) แต่นั้นแหละเจ้าค่ะคนมันไม่เคยนั่งก็ได้เพียงแต่มโนไป ถ้าอย่างยังไงแล้ว ใครเคยนั่งก็อย่าลืมมาพูดคุยกันได้ในใต้โพสต์นี้นะเจ้าค่ะ
กระบือ
กระบือถือได้ว่าเป็นสัตว์พื้นบ้านของไทยที่มีคุณมากต่อการเกษตรกรรม โดยชาวสยามใช้กระบือทั้งเพื่อการไถ่นาปลูกข้าว และใช้เป็นพาหนะเพื่อเดินทางไปยังที่ต่างๆในระยะใกล้
กระบือถือได้ว่าเป็นสัตว์ที่มีความอดทนสูงมาก แม้เราจะใช้งานมันทำงานหนักสักเพียงใดมันก็ยังคงช่วยเราในการทำคุณเหล่านั้นอยู่เสมอเจ้าค่ะ
ซึ่งแน่นอนว่าใครที่เป็นหนุ่มเป็นสาวลูกทุ่งๆหน่อย ก็อาจจะเคยขี้เจ้าทุยนี้เลาะเที่ยวเล่นไปตามทุ่งนากันบ้างใช่มั้ยละเจ้าคร่าาา … เอ้! ว่าแต่ในพระมหานครบล็อกดิสนี้มีใครเคยขึ้นขี้หลังเจ้าทุยกันบ้างน๊าาา แวะมาพูดคุยกันได้นะเจ้าค่ะที่ใต้โพสต์นี้นี้เจ้าค่ะ
และนี้แหละเจ้าค่ะเป็นอีกอย่างของความเป็นสยาม ที่ต่างชาติรู้ โลกเขาก็รู้กัน ... มันไม่ใช่ว่าใครๆ หรือชาติไหนๆ ก็จะมีความสามารถในการบังคับหรือ control ยานพาหนะที่มีชีวิตได้แบบของสยามเราหรอกนะเจ้าค่ะ เพราะการที่ต้อง control สิ่งมีชีิวิตไม่ใช่เพียงแค่การป้อนความคิดหรือโปรแกรม แต่มันคือการป้อนใจของผู้ control และผู้ถูก control เข้าไว้ด้วยกันนั้นเองเจ้าค่ะ
ช้าง โค กระบือ คือหนึ่งในตัวตนของความเป็นชาวสยาม
Le Siam
“สยาม … ที่คุณต้องรู้”
เขียนและเรียบเรียงโดย : Le Siam

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา