12 มิ.ย. 2020 เวลา 11:00 • ประวัติศาสตร์
“วินสตัน เชอร์ชิลล์ (Winston Churchill)” รัฐบุรุษแห่งสหราชอาณาจักร ตอนที่ 6
1
หลังสงครามจบ
รูสเวลต์และวินสตันได้เป็นมิตรที่ดีตลอดช่วงสงคราม โดยรูสเวลต์นั้นชื่นชมในความเข้มแข็งและเอาจริงเอาจังของวินสตัน ถึงขนาดกล่าวว่า
“เขา (วินสตัน) น่าจะเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก อันที่จริง เขานี่แหละคือคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก”
สหภาพโซเวียต สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ได้ร่วมมือกันเป็นกลุ่มสัมพันธมิตร สู้กับฝ่ายอักษะซึ่งประกอบด้วย เยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่น
วินสตันนั้นทำงานวันละ 18 ชั่วโมง และได้ออกเดินทางพบปะกับผู้นำประเทศต่างๆ และยังออกเยี่ยมกองทัพ
หนังสือพิมพ์เรียกเขาว่า “หมาบูลด๊อกแห่งอังกฤษ (British Bulldog)” และวาดการ์ตูนล้อเลียนเขา เนื่องจากวินสตันนั้นดุและห้าวหาญ
เมื่อปรากฎตัวในที่สาธารณะ วินสตันมักจะชูสองนิ้วเป็นรูปตัว “V” ซึ่งหมายถึง “ชัยชนะ (Victory)”
ผู้คนต่างปรบมือต้อนรับเขาในทุกๆ ที่ๆ เขาไป
ในเวลานั้น ผลของสงครามเริ่มเปลี่ยน
ภายหลังจากที่สหรัฐอเมริกาเข้าร่วมสงคราม ผลการรบก็เปลี่ยนไปจากเดิมมาก และในเดือนมิถุนายน ค.ศ.1944 (พ.ศ.2487) ฝ่ายสัมพันธมิตรก็ได้บุกอ่าวทางเหนือของฝรั่งเศสและขับไล่กองทัพเยอรมันออกไปได้
การรบครั้งนี้เป็นที่รู้จักในชื่อของ “ดีเดย์ (D-Day)” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นความพ่ายแพ้ของฮิตเลอร์
ดีเดย์ (D-Day)
ต่อมา ฮิตเลอร์ได้ฆ่าตัวตาย เหลือเพียงญี่ปุ่นที่ยังคงสู้ต่อไป แต่ภายหลังจากถูกระเบิดปรมาณูโจมตีเมืองฮิโรชิม่าและนางาซากิ ญี่ปุ่นก็ได้ยอมแพ้ในเดือนสิงหาคม ค.ศ.1945 (พ.ศ.2488)
สงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงแล้ว โดยมีผู้เสียชีวิตกว่า 70 ล้านคน
ชัยชนะครั้งนี้ส่วนหนึ่งก็มาจากภาวะความเป็นผู้นำของวินสตัน
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงเพียงไม่กี่เดือน ก็ถึงเวลาการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีในอังกฤษ
ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก อังกฤษนั้นถังแตกเนื่องจากใช้เงินไปกับการทำสงคราม
ประชาชนต่างคิดว่าวินสตันจะโฟกัสไปที่ปัญหาของโลก มากกว่าจะโฟกัสที่ปัญหาในประเทศ ซึ่งตอนนี้ ประชาชนต้องการนายกรัฐมนตรีที่คิดจะแก้ปัญหาในประเทศมากกว่า
ถึงแม้ตอนนั้นวินสตันจะเป็นที่รักและเคารพของผู้คน แต่พรรคอนุรักษ์นิยมของเขาก็สอบตก
ค.ศ.1946 (พ.ศ.2489) วินสตันและภรรยาได้เดินทางไปสหรัฐอเมริกา โดยเขาได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่จากชาวอเมริกัน
5 มีนาคม ค.ศ.1946 (พ.ศ.2489) วินสตันได้กล่าวสปีชที่โด่งดังที่สุดครั้งหนึ่งของเขา โดยสปีชนี้ เขาได้กล่าวในวิทยาลัย Westminster ในมิสซูรี่
หนึ่งในผู้ฟังคือประธานาธิบดีคนใหม่ “แฮร์รี ทรูแมน (Harry Truman)”
แฮร์รี ทรูแมน (Harry Truman)
วินสตันได้พูดถึงความตึงเครียดระหว่างประเทศคอมมิวนิสต์อย่างสหภาพโซเวียต กับประเทศประชาธิปไตยอย่างสหรัฐอเมริกา
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เยอรมนีก็ถูกแบ่งออกเป็นสองประเทศ โดยสหภาพโซเวียตได้เข้าปกครองเยอรมนีตะวันออก ซึ่งมีโปแลนด์ และเชโกสโลวาเกีย โดยใช้ระบอบการปกครองคอมมิวนิสต์
ส่วนประเทศที่ได้รับการปลดปล่อยโดยอังกฤษและสหรัฐอเมริกา เช่น เยอรมนีตะวันตก และฝรั่งเศส ได้มีการจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย มีการเลือกผู้แทน
วินสตันไม่คิดว่าระบอบคอมมิวนิสต์เป็นระบอบที่ยุติธรรม โดยวินสตันกลัวว่าประเทศคอมมิวนิสต์จะก่อสงครามเพิ่มเพื่อขยายดินแดน
วินสตันได้กล่าวถึงการที่ยุโรปตะวันออกและยุโรปตะวันตกได้แยกจากกัน อาจจะทำให้เกิดสงครามใหม่
สปีชของวินสตันในครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของสงครามเย็นในเวลาต่อมา
นอกจากนั้น วินสตันยังได้พูดถึง “สหประชาชาติ (United Nations)” ซึ่งได้ก่อตั้งขึ้นภายหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีจุดประสงค์เพื่อรักษาสันติภาพ
เรื่องราวของวินสตันจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามได้ในตอนหน้านะครับ
โฆษณา