18 มิ.ย. 2020 เวลา 22:30 • ไลฟ์สไตล์
Effective Listening คืออะไร ?
เพื่อนๆเคยรู้สึกว่าเราพูดเยอะมากกว่าฟังไม๊เอ่ย ?
หรือบางทีเราฟังอย่างเดียว แต่ไม่สามารถพูดหรือตอบต่อได้ ?
ถ้า เพื่อนๆตอบว่า "ใช่ ใช่" ในคำถามด้านบน เราแนะนำให้อ่านทความนี้ อิอิ
ในบทความก่อนหน้านี้เรามีพูดถึงเรื่อง Empathy และแอบมีเข้ามาถึงเรื่อง Active Listening
5 สกิล ที่จะช่วยทำให้เพื่อนๆ เป็นผู้ฟังที่ยอดเยี่ยม ! (ที่ไม่ใช่แค่ฟังน้า)
1. Recall Detail
- เอาง่ายๆก็คือเป็นการจดจำในสิ่งสำคัญต่างๆที่คู่สนทนาได้พูดมา (listening focus) และสามารถที่จะหยิบมันมาใช้ในการพูดคุยต่อได้
- เราจำเป็นต้องรู้ด้วยว่าสิ่งที่ผู้พูดนั้นพูดมา เค้าต้องการให้เรามี action เลยตอนนี้ หรือในภายหลัง ?
- เพื่อที่เราจะสามารถมองภาพกว้างๆในเรื่องที่สนมนาได้ชัดเจน
1
2. Understand Big Picture
- เจ้าข้อนี้จะมีความต่างจากข้อแรกอยู่คือ แทนที่เราจะโฟกัสจัดที่เป็น detail เล็กกๆๆ เรากลับต้องมองภาพใหญ่ให้ออกด้วย
- ถ้าเราจะ recall detail โดยการถามคำถามแทรก หรือมีการดึงการสนทนาไปๆมาๆ ก็คงต้องดูความเหมาะสมด้วยนะ โดยการมอง Big Picture จะทำให้เรารู้ได้ว่า ในขณะนั้นผู้สนทนากำลังกล่าวถึงอะไร
- วิธีที่ทำให้ตัวราเองเห็นภาพได้ดีที่สุดคือ การที่เราถามตัวเราเองว่า เราจะสามารถเล่าเรื่องที่เราฟังมานี่ ให้คนอื่นๆ เข้าใจได้อย่างไรบ้าง ?
3. Evaluating Content
- คือการฟังที่ดีไม่ใช่แค่เราฟังงๆให้มันจบๆหรือผ่านๆนะ (สำหรับเรื่องที่สำคัญนะ)
- แต่เราต้องมีการตั้งคำถามในใจเราด้วยเช่นกัน ว่า สิ่งที่ผู้พูดกล่าวถึงเนี่ย มันมี credit ไม๊ ? น่าเชื่อถือ ? ข้อดีข้อเสีย ? ผู้พูดได้มีการชักนำไปในทางที่ไม่ถูกหรือปล่า ? หรือถ้ามีสิ่งที่เราสามารถโต้แย้ง เราอาจจะจดไว้ก็ได้ เพื่อหาเวลาที่เหมาะสม
4. การอ่านท่าทางและสีหน้า ของผู้พูด
- ถ้าเราสนทนาแบบเจอหน้าต่อหน้า ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ในการสังเกตถึงบริบทท่าทาง
- ถ้าเป็นการโทรศัพท์ แนะนำให้เราสังเกตน้ำเสียง
- ข้อดีคือในกรณีที่ ผู้พูดดันมีการประชดเนี่ย เราจะได้เข้าใจสถานการณ์นั้นๆ เอาง่ายๆคือ ถ้าคนพูดว่าอะไรก็ได้ แต่ตามองบนเนี่ย...........เอ่ออออ
1
5. Listen with Empathy
- ไม่ได้หมายความว่า เราต้องไปใส่ใจ จดจ้องง หรือสงสารผู้พูดนาา
- เราหมายความว่า การที่เรามีอารมณ์ร่วมไปกับบสนทนานั้นๆ นั้นรวมถึงความเห็นอกเห็นใจ
- การที่เราเข้าใจ Emotion ของผู้พูด
อะไรคือ Challenge ของการที่เราจะเป็นผู้ฟังที่ยอดเยี่ยมน้า ?
หรือสิ่งที่ทำให้ผู้พูด ไม่อยากพูดต่อน้ะ แงง ?
แน่นอนว่าถ้ามันง่ายๆขนาดนั้น เราเองคงไม่มีปัญหาแบบที่กล่าวมาาา ไปดูกันเลยว่าเรามีปัญหาเหล่านี้ไม๊น้าา
1. Mental Filter
- ชื่อดูเหมือนยาก แต่จริงๆแล้ว ให้นึกถึงภาพเสียงในหัว หรือภาพในหัวที่แทรกเข้ามาตลอดเวลา และทำให้เราสมาธิหลุด
- หรือบางทีเราฟังเรื่องราวอันนี้ แต่เราไม่เห็นด้วยในใจ เพื่อนๆเชื่อไม๊ว่า สมองเราจะยังคงยึดติดกับคำว่า ไม่จริง ไม่ใช่ ไม่เห็นด้วย..... จนกว่าเราจะได้พูดออกไป (สารภาพเราก็เป็น จนบางทีหลุดเลย Blackout หูดับซะงั้น)
2. Multitask
- จริงๆเป็นสกิลที่ทุกคนอยากมี และทุกบริษัทต้องการ
แต่เพื่อนๆเชื่อไม๊ว่า สกิลนี้มันต้องฝึกนะอันที่จริงแล้ว เพราะมันยากนะ เราสามารถทำ 2-3 สิ่งได้ แต่ ถ้า 1 ในสิ่งนั้นมีการฟังร่วมอยู่ด้วยเนี่ย บอกเลยว่า สมองเราจะไปเพ่งกับสิ่งที่เราทำ มากกว่าฟัง
- หรือเราฟังเค้าพูดไปด้วย แต่พิมพ์ Chat ไปด้วย อ่าาา! เราคุยกับทั้ง 2 คนอยู่เลยหรอ โอยย ยากมากนะ เราก็ทำไม่ได้ 555
1
3. เรามัวแต่ไปจับผิดผู้สนทนา
- เอาตรงๆ ถ้าเราได้ยินคนพูดโดยใช้คำศัพท์ไม่เหมาะสม, หรือพูดติดขัดไปมา แน่นอนว่า เพื่อนๆหลายๆคนอาจจะไปโฟกัส กับสิ่งนั้น จนเราโดน distract
- ถ้าเราจะฟังจริงๆ เราไม่จำเป็นต้องสนใจในจุดด้อยที่เกี่ยวข้องกับการพูดของผู้พูด แต่พยายามมองข้ามและเข้าใจในสิ่งที่เค้าต้องการจะสื่อ จะดีกว่า
4. Overwhelming with information
- โดยเฉพาะเวลาที่เราไปฟัง Lecture เนี่ย พวกคอร์สเรียน หรือ สัมมนา ส่วนใหญ่พวกเราจะจด เนื้อหาสำคัญ
- บางทีเราก็จดจ่อแต่กับการจดเกินไป จนทำให้เราพลาดส่วนสำคัญไปหลายๆอย่าง
- ถ้าผู้พูดเป็นผู้พูดที่ดีเนี่ย เค้าจะมีช่วงเวลาที่ให้เพื่อนๆได้ย่อยในสิ่งที่ฟังกันอยู่แล้วแน่นอน
- เลือกจดแต่สิ่งที่สำคัญ
1
5. การโต้ตอบที่ผิดเวลา
- บางที ที่เราตั้งใจฟังมากๆ แน่นอน การมีส่วนร่วมก็จะออกมา
- จนบางครั้งเรามีการโต้แย้ง criticize หรือแม้กระทั่งถามคำถามที่ขัดต่อการพูดของผู้พูดมา
- เข้าใจแหละ ว่าบางทีกลัวลืม หรือ ไปต่อไม่ได้ถ้าชั้นไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่านี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ? แต่ๆ เชื่อเถอะว่า การเป็นผู้ฟังที่ยอดเยี่ยม เราต้องเคารพผู้พูดก่อนน้าาาา
- หรือการที่คิดแล้วพูดเลยเนี่ย ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความน่ารำคาญไม่น้อยเลย
1
Tips ดีๆ ที่ทำให้เราเป็นผู้ฟังที่ดีขึ้นนน :)
1. Clarify your role รู้บทบาทของผู้ฟัง
- การที่เราเป็นผู้ฟังที่ดีคือ เราต้องไม่เข้าใจในสิ่งที่ผู้พูดจะสื่อผิดน้าา
โดยการที่เราอาจเลือกจังหวะที่เหมาะสม ในการถามแบบทบทวนเช่น
ชั้นควรจะแชร์ไหมว่าถ้าชั้นอยู่สถานการณ์อย่างงี้ ชั้นจะทำอย่างไร ?
คุณต้องการความเห็นจากชั้นไหมน้า ?
ขอทบทวนนิดนึงน้า ว่าชั้นเข้าใจถูกรึเปล่าเอ่ย ?
อย่าลืมว่า การที่เราปล่อยให้ตัวเองเข้าใจผิดจนจบการสนทนาเนี่ย....มันคือเหตุการณ์ที่เลวร้ายมากๆๆเลยละ T^T
2. การตอบรับ ด้วยท่าทาง หรือคำอุทาน
- เราไม่ได้อากจะบอกว่า ให้ทุกคนเฟคด้วยการอุทานแบบ อ้ออ ! อ๊าาาาา ! อะไรอย่างนี้นะ 555
- การที่เราเอ่ยคำเหล่านี้มา เพื่อให้ผู้พูดรู้สึกว่าเราตามเค้าทันอยู่ เราไม่ได้หลุดนั้นเอง
- ท่าทางก็สามารถช่วยได้น้ะ เช่น เรามีการจับคางเมื่อสนใจมากๆ เรามีการโน้มตัวเข้ามา เมื่อถึงช่วงไฮไลท์ หรือการเอียงหัวเล็กน้อยเพื่อแสดงถึงความงง และ ประหลาดใจ (อันนี้ยกตัวอย่าง)
1
3. Allow Silence
- ไม่จำเป็นต้องตอบหมดทุกคำถาม หรือขานรับหมดทุกช่วง
- บางทีการที่เราแค่ผายมือทั้งสองออกมา เพราะเราไม่ทราบจริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องแย่นะ
- หลังจากจบเรื่องราวบางเรื่อง บางทีความเงียบก็เป็นจุดสำคัญในการเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
- หรือการจดโน้ตด้วยความเงียบ ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้พูดสามารถ pause ได้เหมือนกัน
4. Paraphrase
 - จะบอกว่าเราชอบวิธีนี้มาก เอาตรงๆ บางทีเราอาจจะไม่เข้าใจ หรือบางทีต้องการเช็คความเข้าใจของเราต่อเรื่องที่ผู้พูด พูด
- การที่เราทบทวนความเข้าใจ และขอเวลาผู้พูด ทวนสั้นๆ ในเรื่องจุดนี้
- หรือเราอาจจะเป็นการแชร์ความเห็นที่คล้ายๆกันของเราไปก้อได้น้ะ
5. Match Emotion
- เพื่อนๆรู้ไม๊ว่าการ แมทช์ท่าทาง และความรู้สึก กับผู้สนทนาเนี่ย จะทำให้เราเข้าถึงเค้าได้ง่ายขึ้น และมุมกลับกัน นั้นเป็นการที่สื่อให้ผู้พูดเห็นว่าเราตั้งใจฟังมากๆ
- เช่น หลังจากที่ผู้พูด พูดเรื่องซีเรียสจบลง ก็ได้มีการเอนตัวกลับไปที่พนักพิงเก้าอี้ .......... ลองคิดดูว่า ถ้าเกิดเพื่อนๆยังคงมีท่าทางที่เอาแขนวางไว้บนโต๊ะ พร้อมกับเขม่นตาเนี่ย .... ไม่ Match กันมากๆๆ 55 นั้นคือบางทีอาจทำให้การสนทนาแบบติดขัดเลยละ
- หรืออีกมุมคือการสังเกตท่าทางของผู้ฟัง ในกรณีที่เราเป็นผู้พูด ถ้าผู้ฟังตาเริ่มเหม่อลอย หรือมองไปทางด้านบน เราก็ควรจะต้อง มีการหยุด เว้นระยะห่างการพูด เพื่อให้เค้าคิดได้มากขึ้น
จบแล้ววเพื่อนๆ
คิดว่าบทความนี้น่าจะทำให้เพื่อนๆลองไปฝึก การฟังได้ดีมากขึ้นน้า
และเพื่อนๆอาจจะลองถาม feedback จากคู่สนทนาได้ด้วยเหมือนกันนะ ^^
โฆษณา