19 มิ.ย. 2020 เวลา 01:51 • ท่องเที่ยว
ป้าอยากเล่า : เป็นบ้าชอบถ่ายรูปกับป้าย ใครเป็นบ้างยกมือขึ้น ตอนที่ 1 : ป้ายรัฐในสหรัฐอเมริกา มาพร้อมความรู้เล็ก ๆ
ตัวอย่างภาพถ่ายรูปกับป้ายรัฐในสหรัฐอเมริกา
ยุคสมัยที่เซลฟี่ฮิต ตอนแรกก็ไม่รู้เรื่องกับเขาหรอก เพราะตัวเองไม่ได้ใช้โทรศัพท์ที่เน้นกล้องถ่ายรูปแต่อย่างใด คือ โทรศัพท์สำหรับตัวเองเป็นอุปกรณ์ที่เอาไว้โทรเท่านั้น แถมใช้โทรศัพท์แบบถูก ๆ ง่าย ๆ ได้ใจความ ที่สำคัญคือ ไม่ค่อยรับโทรศัพท์ ไม่ได้โทรถ้าไม่จำเป็น ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นต้องซื้อของดี ของแพง ...นั่นคือความคิดตอนนั้น
ที่เห็นส่วนใหญ่เป็นป้ายรัฐ ยกเว้นอย่าง New York หาป้ายไม่เจอ เลยถ่ายกับเสรีเสรีภาพ เพราะส่วนใหญ่คนก็รู้ว่าคือ นิวยอร์ก
การไปเที่ยวแต่ละทริป แต่ละที่ ป้าเป็นโรคจิตอย่าง คือ ชอบถ่ายรูปกับป้าย การถ่ายรูปส่วนใหญ่จะต้องถ่ายด้วยตัวเอง การเซลฟี่ด้วยกล้องอัตโนมัติจึงเกิดขึ้น ที่จริงจุดประสงค์หลัก ๆ ก็แค่ให้ตัวเองจำได้ว่าไปไหนมาบ้าง เพราะเวลาแก่เฒ่าเอามานั่งดูจะได้พอจำความได้บ้าง หากไม่มีป้ายรัฐให้ถ่ายก็ถือดอกาสถ่ายกับสัญลักษณืดัง ๆ ของรัฐนั้น ๆ ถ่ายแล้วก็ก็ลงในไทม์ไลน์ของตัวเองในเฟซบุ๊กเนือง ๆ บางคนเห็นก็อาจไม่ชอบ หาว่าเราชอบโชว์ แต่ก็ไม่ว่าเขาหรอก เพราะเราลงในพื้นที่ของเราเอง แถมดีใจเสียอีกที่การลงรูปเที่ยว รูปที่ถ่ายกับป้ายว่าไปไหนมาช่วยให้บางคนคิด ไม่ว่าคิดอย่างไร ก็เป็นการคิด ดีกว่าปล่อยให้เขาไม่คิด แล้วเป็นอัลไซเมอร์เร็วอ่ะนะ ...
สหรัฐฯ มี 50 รัฐ แต่มีแค่ 48 รัฐเท่านั้นที่อยู่บนแผ่นดินใหญ่แล้ติดต่อกัน
เวลาท่องเที่ยวตะลอนทัวร์ในสหรัฐฯ ป้าก็จะชอบจอดรถแล้วลงไปถ่ายรูปป้ายรัฐเก็บไว้ดูเล่น แถมด้วยรูปตัวเองถ่ายคู่กับป้าย เหมือนจะเป็นการยืนยันว่า มาแล้วคร้าบ...อะไรทำนองนั้น ซึ่งที่สหรัฐฯ นี้ หากใครมาเที่ยว และขับรถเที่ยวข้ามรัฐ จากรัฐหนึ่งไปสู่อีกรัฐ คุณก็จะผ่านช่วงต่อของรัฐ ซึ่งเกือบทุกรอยต่อเขาจะทำป้ายต้อนรับไว้ เราสามารถจอดรถริมทางหลวง และลงไปถ่ายรูปได้ ซึ่งที่นี่เขาทำป้ายต้อนรับเป็นเรื่องปกติ เราก็ลงไปถ่ายเก็บไว้เป็นปกติเช่นกัน
ที่แรกที่ได้ถ่ายรูปกับป้ายรัฐคือ รัฐ Florida (ออกเสียง ฟรอลิด้า) ซึ่งเป็นรัฐที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศสหรัฐฯ รัฐนี้จัดเป็นรัฐที่ 27 ของสหรัฐฯ มีเมืองหลวงชื่อ Tallahassee (ออกเสียง ทาลาฮาซซี่) รัฐ Florida มีชื่อเล่น ว่า The Sunshine State มีดอกส้มและผลส้มเป็นดอกไม้และผลไม้ประจำรัฐ ดังนั้นป้ายทะเบียนรถจะมีรูปดอกและผลของส้ม พร้อมข้อความว่า Florida The Sunshine State เหตุที่ถ่ายกับป้ายรัฐนี้เป็นที่แรก เพราะเป็นรัฐที่เป็นที่สิงสถิตของป้า
ป้ายต้อนรับของรัฐ Alabama
รัฐที่อยู่ติดกับรัฐ Florida คือ Georgia (ออกเสียง จอร์เจีย) และ Alabama (ออกเสียง อลาแบ๊ม่า) ซึ่งอยู่ทางเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือของ Florida รัฐ Alabama เป็นรัฐที่ 22 ของสหรัฐฯ มีเมืองหลวงชื่อ Montgomery (ออกเสียง ทำนอง ม่อนกอมเมอรี่) ป้ายของรัฐจะมีข้อความว่า Welcome to Alabama the Beautiful ซึ่งเป็นสโลแกนที่เป็นวลีโฆษณาให้ผู้มาเยือนรู้ว่ารัฐนี้เป็นรัฐที่สวยงาม มีภูเขา พื้นราบ หาดทราย ชายฝั่ง อ่าว ทะเลสาบ และ แม่น้ำหลายสาย และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามทั้งทางวัฒนธรรม และการศึกษาที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย
ป้ายต้อนรับของรัฐ Mississippi
รัฐที่อยู่ติดกับรัฐ Alabama ทางตะวันตก คือ รัฐ Mississippi (ออกเสียง มิสซิสซิบปี่) เป็นรัฐที่ 20 ของสหรัฐฯ มีเมืองหลวงชื่อ Jackson (ออกเสียงทำนอง แจ็คซัน) รัฐนี้มีชื่อเล่นว่า The Magnolia State ซึ่งชัดเจนว่ามีดอกไม้ประจำรับคือ ดอก Magnolia (ออกเสียงทำนอง แม็คโน้ลเหลี่ย) คำว่า Mississippi มาจากภาษาฝรั่งเศส (French) ว่า "Messipi" ใช้เรียกชื่อแม่น้ำสายเดียวกับชื่อรัฐนี้ ช่วงหนึ่งมีสโลแกนที่ป้ายต้อนรับว่า It's like coming home แต่ตอนหลังมาเปลี่ยนเป็น The Birthplace of America’s Music นัยว่าเพื่อผลในเรื่องของการโปรโมทการท่องเที่ยว เพราะที่รัฐนี้เป็นรากหรือต้นกำเนิดของเพลงในโบสถ์ (Gospel) เพลงลุกทุ่ง (country music) เพลงแจ้ส (Jazz) เพลงบลูแกรส (bluegrass) และเพลงร็อค (rock n’ roll) เพราะราชาเพลงร็อคคือ Elvis Presley เกิดที่เมือง Tupelo ในรัฐนี้นี่เอง
การตกแต่งด้วยกีตาร์และเอลวิสที่ถนน Main Street เมือง Tupelo : wikipedia
เอานะคะ โพสต์นี้พาไปดูป้ายรัฐบางรัฐในสหรัฐฯ พร้อมเกร็ดเล็กน้อยที่เกี่ยวข้องไปบ้างแล้ว ที่จริงมีอีกเยอะค่ะ เพราะเที่ยวครบ 50 รัฐ ก็ตามถ่ายภาพให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ บอกแล้วว่าป้าบ้า ฮ่า ฮ่า ... ส่วนตัวคิดว่าทุกอย่างเป็นการเรียนรู้ หากเราดูแล้วเฉย ๆ ก็เท่านั้นเอง แต่พอดีชอบศึกษา เลยได้ความรู้มาเพิ่มเวลาเราเที่ยวเองค่ะ สนใจคิดว่ามีประโยชน์จะกดไลค์ กดแชร์ติดตาม สับตะไคร้ หรือ subscribe ให้ดงให้ดาวก็ตามสบายนะคะ ป้าไม่ว่าหรอก อิ อิ ชอบ...
ป.ล. การเขียนคำออกเสียง ขออนุญาตเขียนตามที่เขาออกเสียงนะคะ ไม่ได้เขียนแบบที่คนไทยเขียนค่ะ และ ส่วนใหญ่จะใช้ภาษาอังกฤษแทนเพื่อไม่ให้คนอื่นติดการออกเสียงคำตามการเขียนแบบไทย เพราะเวลาไปต่างประเทศ เราพูดศัพท์หรือชื่อต่าง ๆ ตามการอ่านแบบไทย คนฝรั่งไม่รู้เรื่องค่ะ เช่น ไทยเขียน ฟลอริดา แต่ฝรั่งเขาออกเสียง ฟลอริด้า ค่ะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา