25 มิ.ย. 2020 เวลา 02:09 • ไลฟ์สไตล์
คิดให้ดีก่อนก้าวข้ามเลย Friend zone
โปรดระวังสิ้นสุดทางเพื่อน เพื่อนคนนี้เป็นคนที่คุณควรข้ามผ่านคำว่าเพื่อนมาเป็นคนรักแล้วจริงๆ น่ะหรือ?
Friend zone คำนี้กำลังมาแรงเลยช่วงนี้ เหล่าคนโสดมักจะมีหลายๆ คนที่ตกอยู่ในความสัมพันธ์ที่อยากจะก้าวข้ามเกินกว่าคำว่าเพื่อนไปสู่การเป็นคนรัก แต่ในความสัมพันธ์เหล่านี้นั้นมีความเสี่ยงสูงมากที่จะต้องพบเจอกับความผิดหวังและอาจจะเป็นจุดจบของการเป็นเพื่อนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะข้ามผ่านจุดนี้ไปลองคิดดีๆ มีบางสถานการณ์ที่เราไม่ควรจะปล่อยใจให้ข้ามผ่านเฟรนด์โซนไปอยู่นะคะ เช่น
/canva
6. เป็นข้อห้ามหนึ่งของที่ทำงาน
สำหรับที่ทำงานหลายๆ แห่งถือเป็นกฎข้อห้ามว่าห้ามมีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกัน หรือคนที่เป็นสามีภรรยาทำงานที่เดียวกันไม่ได้ โดยเฉพาะบริษัทที่ทำงานเกี่ยวกับด้านการเงิน เนื่องจากเคยมีกรณีการทุจริตจากกรณีแบบนี้อยู่มาก รวมถึงบางทีก็ทำให้เสียการปกครองเอาด้วย หรือว่าคู่รักอาจจะทะเลาะเบาะแว้งมีปากเสียงในที่ทำงานสร้างความน่ารำคาญใจให้คนอื่นๆ ด้วยอีก สถานที่ทำงานหลายๆ แห่งจึงตัดปัญหาด้วยการห้ามเพื่อนร่วมงานคบหากันเอง ยกเว้นถ้าเกิดว่ารักขึ้นมาจริงๆ ไม่น่าจะก่อให้เกิดปัญหาอะไร บางที่ก็อาจจะอะลุ่มอะล่วยยอมให้คบกันได้ แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าความสัมพันธ์ที่เกินเลยนี้จะมีผลกระทบต่อการทำงานมากทีเดียวนะ ลองคิดแล้วกันว่าจะเลือกงานหรือเลือกความรักมากกว่าดีล่ะ?
5. แค่เหงาเพราะว่าห่างจากแฟน
บางคนก็เป็นคนที่มีความหวั่นไหวทางจิตใจได้ง่ายหากว่ามีปัญหา อยู่ห่างจากแฟน หรือว่ากำลังทะเลาะกับแฟน ก็อาจจะทำให้จิตใจที่อ่อนแออยู่ในขณะนั้นหวั่นไหวไปกับคนที่อยู่ใกล้ตัวที่อาจจะไม่เคยคิดมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันมาก่อนได้ อาจจะเกิดความรู้สึกเผลอตัวเผลอใจให้กันและกันได้ ดังนั้นก่อนที่คิดจะมีความสัมพันธ์ที่เกินเลยคำว่า 'เพื่อน' ให้ทบทวนดูให้ดีว่ามันเหมาะสมแล้วหรือยัง แต่ทางที่ดีแล้วควรที่จะหนักแน่นกับแฟนตัวเองเข้าไว้เพื่อไม่ให้เกิดกรณีการนอกใจหรือว่าทำผิดต่อความรักกันเลยเถอะนะ
4. มีคนรักกันอยู่แล้ว
ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดหรือว่าทั้งสองฝ่ายเลยก็ตาม ถ้าหากว่ามีคนรักอยู่แล้วยิ่งเป็นการไม่ควรเลยที่จะปล่อยให้ความสัมพันธ์ระหว่างคุณและเพื่อนคนนึงเกินเลยมากกว่าคำว่าเพื่อน เพราะจะมีผลกระทบตามมาทั้งในเรื่องความรักของคุณและเขา รวมถึงความสัมพันธ์แบบเพื่อนที่มีต่อกันมาโดยตลอด อาจจะทำให้ความรู้สึกของทุกฝ่ายพังไปกันหมด ไม่มีทางเข้าหน้ากันติดได้อีก อย่าให้ความหวั่นไหวโลเลมาทำให้ชีวิตของพวกคุณต้องพังกันเลยนะ เป็นเพื่อนต่อกันเป็นกัลยาณมิตรต่อกันไปนานๆ นั่นแหละดีที่สุดแล้ว ความรักควรเก็บไว้ให้แฟนของคุณเพียงเท่านี้ก็พอแล้วล่ะ อย่าไปแบ่งให้คนอื่นเลย
3. ต่างฝ่ายต่างรู้ว่าใจตัวเองต้องการใคร
บางทีเราก็รู้ดีอยู่นะว่าแท้ที่จริงแล้วเรารักหรือว่าใจเราต้องการใครมากที่สุด แต่ความรักไม่ใช่ว่าจะสมหวังได้เสมอไป บางทีคนที่เราแอบรักหรือว่าแอบชอบนั้นเขาไม่ได้มีใจให้กับเรา ทำให้ต้องมาปรับทุกข์กับเพื่อนคนสนิทของตัวเอง ซึ่งในฐานะเพื่อนที่มีความรู้สึกพิเศษมากกว่าเพื่อนแล้ว บางทีอาจจะรอคอยความหวังให้เราใจอ่อนให้กลับมามองในความรักความหวังดีของเขาบ้าง จนบางทีก็มาตกลงปลงใจคบหากัน ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ความรักแต่เป็นเพราะความเห็นใจและสงสารกันเสียมากกว่า ทำให้ในที่สุดแล้วความสัมพันธ์ก็จบลงอยู่ดี เพราะว่ามันไม่ได้เริ่มต้นจากการที่มีความรักต่อกันจริงๆ นั่นเอง กลายเป็นว่าต้องมาเสียเพื่อนที่ดีต่อไปอย่างที่ไม่น่าเสียเลยจริงๆ
2. ไลฟ์สไตล์ต่างกันสุดขั้ว
การที่เป็นเพื่อนนั้นจะคบหากับคนที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่างกันสักแค่ไหนก็ไม่ค่อยเป็นปัญหาเท่าไหร่นักหรอกนะคะ แต่ถ้าคิดจะคบหาถึงขั้นว่าเป็นแฟนกันขึ้นมา แต่ว่าไลฟ์สไตล์มีความแตกต่างกันมากๆ อย่างเช่นว่าเขาเป็นนักดนตรีทำงานตอนกลางคืน ส่วนคุณเป็นสาวออฟฟิศใช้ชีวิตทำงานตอนกลางวันมันก็ยากที่จะอยู่ด้วยกันได้ เพราะเวลาชีวิตที่แตกต่างกันมากนั่นเอง หรือว่าคุณอาจจะทำงานเป็นแอร์โฮสเตสที่จะต้องบินไปต่างประเทศเป็นประจำ ส่วนแฟนคุณทำงานบริษัทที่มีเวลาน้อยและงานยุ่งอยู่เสมอ ก็ยิ่งเป็นการยากที่จะมีเวลาให้กันได้อีกเป็นต้น รวมถึงระดับทางสังคมก็เช่นกัน ถ้าเป็นในนิยายหรือว่าละครนั้นก็คงจะดูโรแมนติกดีนะ แต่ถ้าเป็นในชีวิตจริงแล้วคนใดคนหนึ่งอยู่สูงหรือต่ำกว่าก็เป็นการยากที่จะประคับประคองความรักให้อยู่รอดไปได้จริงๆ กับบางคนน่ะคบหาในระดับเพื่อนก็พอเถอะ ต่อให้ชอบพอกันสักแค่ไหนก็ตามนะ
1. มีนิสัยเสียที่รู้สึกว่ารับกันไม่ได้
ด้วยความเป็นเพื่อนเราย่อมที่จะรู้จักกันดีอยู่แล้วว่าอีกฝ่ายนึงนั้นมีข้อดีและข้อเสียอย่างไร โดยเฉพาะข้อเสียในฐานะที่เป็นเพื่อนนั้นเราก็คงจะพอหยวนๆ ให้กันและคบกันได้ เพราะมันก็เป็นชีวิตเขาที่เราก็คงได้แต่เตือน แต่ไม่ถึงกับจะบังคับฝืนใจให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ขนาดนั้น แต่ถ้าเป็นแฟนขึ้นมาแล้วข้อเสียตรงนี้จะมีผลต่อการคบหาของคุณและเขาอย่างมากเลย อย่างเช่น ถ้าหากว่าเขาเป็นคนเจ้าชู้หลายใจชอบคบผู้หญิงหลายๆ คน ทั้งๆที่คุณก็รู้ในข้อเสียนี้ดีอยู่แล้วแต่ว่ายังคงฝืนที่จะข้ามเฟรนด์โซนไปอีก หวังไว้ว่าสักวันจะเปลี่ยนเขาได้ แต่ในที่สุดเขาไม่ยอมเปลี่ยนตัวเองเพื่อคุณแล้วจะไปโทษใครได้นอกตัวเองที่ยอมเขาเองล่ะ ดังนั้นแล้วหากไม่อยากเจ็บอย่าเอาหัวใจตัวเองเข้าไปเสี่ยงเลยดีกว่าเนาะ
งานนี้เหล่าบรรดาคนที่แอบรักเพื่อนตัวเองก็คงต้องคิดเอาดีๆ แล้วล่ะว่าจะกล้าเสี่ยงข้ามผ่านความสัมพันธ์แบบนี้ไปดีไหม? เพราะว่าคู่รักหลายๆ คู่ก็เริ่มต้นจากการเป็นเพื่อนกันมาก่อน แต่ถ้าหากว่ามันไม่เป็นอย่างนั้นแล้วล่ะก็ นอกจากว่าจะไม่ได้แฟนแล้วก็ยังจะต้องเสียเพื่อนรักคนนึงไปอีกด้วย ทำให้อดเสียดายความเป็นเพื่อนต่อกันไม่ได้จริงๆ ล่ะนะ
เคนคิดจะก้าวข้ามผ่าน Friendzone นี้ไปไหม?
บทความ โดย : Akine_noxx
เผยแพร่ครั้งแรกในเว็บ Spice/Pepper
ฝากติดตาม กดไลค์ กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา