25 มิ.ย. 2020 เวลา 03:16 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่องสั้นวันฝนพรำ ..
เสียงนาฬิกาปลุกดังเป็นครั้งที่สามในเช้าวันอาทิตย์ที่หัวเตียงหลังจากที่ดิเรกกดปิดไป 2 ครั้ง
ครั้งนี้คงไม่ได้ละ ดิเรกคิด แล้วก็ฝืนใจลุกขึ้นมาจากเตียงที่แสนอุ่น
นึกในใจว่าเวลาความสุขหมดไปอีกคืน แถมยังต้องรีบไปจัดแจงงานอีกหลายอย่างก่อนที่จะถึงตอนสายๆจะต้องถึงวัด เลี้ยงเพลพระ
วันนี้เป็นวันงานเผาศพภรรยาของเค้าเอง
แม้จะผ่านมาหลายวันแล้ว ดูเหมือนยังงงๆ และแปลกๆอยู่ ดิเรกมีแค่เหมียว ภรรยาอยู่กัน 2 คน ไม่มีลูก ไม่มีคนงาน ทุกอย่างในบ้านเหมียวจะดูแลทั้งหมด พอขาดเหมียว ชีวิตไม่เป็นระเบียบ ไม่เหมือนเดิม เงียบเหงา
"พี่ เอาชุดนอนมาใส่ตระกร้าด้วยสิ"
ขณะที่ดิเรกกำลังจะเปิดประตู
"แก้ว ถ้ายังไม่ล้าง วางในอ่างหนะใส่น้ำไว้ให้เต็มด้วยนะ"
"อยู่เลนนี้สิเราจะตรงนะ เลนนี้มันเลี้ยวขวา" มันป๊อบอัพขึ้นมาเลย เพราะดิเรกเผลออยู่เลนขวาอีกแล้ว
เสียงของเหมียวยังคงก้องอยู่ในหัวตลอด เหมือนเหมียวยังคงอยู่ คอยเตือนสติ ไม่ว่าจะทำอะไรในระหว่างวัน เข้ามาตลอดเลย
อาจเป็นฝนที่ตกมาตลอด วันนี้รถเลยติดไฟแดงแยกนี้นานมากจริงๆ วิทยุที่เคยเปิดเพลง มีเสียงร้องของเธออยู่ข้างๆ ..ตอนนี้มันไม่มีอีกแล้ว
เบาะซ้ายกลายเป็นที่วางกระเป๋าของเค้า ไม่มีเหมียว ไม่ได้กลิ่นน้ำหอม ที่เคยโชยมาทุกวัน ที่ดิเรกไม่เคยจำได้เลยว่า กลิ่นนี้เป็นน้ำหอมที่เค้าซื้อให้เอง
เหมียวเป็นคนที่ชอบน้ำหอมมาก มีหลายขวด เหมียวมักให้ทายเสมอว่ากลิ่นนี้คือขวดไหน ซึ่งไม่มีวันไหนเลยที่ดิเรกจะทายถูก
ในขณะที่นึกเรื่องน้ำหอม ดิเรกเหลือบไปเห็นรองเท้าของเธอสีขาวคู่เก่าๆคู่หนึ่งอยู่ หลบอยู่มุมนึงตรงพื้นด้านซ้าย
น้ำตาเริ่มไหลมาแบบกลั้นไม่อยู่..
จำได้เลย วันที่ซื้อคู่นี้ให้เธอ ทั้งคู่ยังไม่ได้แต่งงานกัน ตอนนั้นเพิ่งฝึกงานบริษัทเดียวกัน เหมียวไม่มีรองเท้าดีๆใส่ไปงานเลี้ยงต่างๆ
ในตอนนั้นทั้งคู่มีฐานะค่อนข้างยากจน เหมียวเห็นรองเท้าคู่นี้แล้วอยากได้มาก มันมีราคาแพง
ดิเรกเก็บเงินและแอบไปซื้อให้เธอในวันที่เธอเริ่มทำงานวันแรก เป็นของขวัญชิ้นแห่งความทรงจำจริงๆ
เหมียวคอยดูแล เป็นเหมือนทั้งคู่ชีวิตและเพื่อนที่ทำให้ชีวิตของดิเรกดีขึ้นๆทุกปี หน้าที่การงานดี ร่ำรวยขึ้นมามากกว่าเดิม มีบ้านมีรถ
เหมียวคือภรรยาที่หนุนให้สามีประสบความสำเร็จอย่างไม่ต้องสงสัยเลย เพราะดิเรกเป็นคนเฉื่อย ช้า เหมียวเป็นคนแอคทีฟ ได้เหมียวมาคอยกระตุ้น ทั้งผลักทั้งดัน
แต่วันนี้ไม่มีเหมียวอีกแล้ว...
เวลาที่อยู่ด้วยกัน ไม่ได้เห็นคุณค่า ไม่เคยถามเหมียวเลยว่า อยากไปเที่ยวไหนมั้ย อยากได้อะไร อยากทำอะไร ต่างคนต่างทำงาน กลับมาบ้านเหมียวยังต้องทำงานบ้าน ทำกับข้าวอีก ยิ่งคิดยิ่งน้ำตาไหล
จากนี้เหมียวจะไปอยู่ที่ไหน จะได้ขึ้นสวรรค์มั้ย
วันนี้เป็นวันสุดท้าย วันนี้เหมียวจะไปจากชีวิตจริงๆแล้ว เย็นวันนี้...😢
งานทำบุญเลี้ยงพระเพลจะมีแต่ญาติและเพื่อนสนิทๆ หนึ่งในนั้นก็คือ ดนัย เพื่อนที่เรียนมาด้วยกัน สนิทมากทั้งดิเรกและเหมียว
"ไปเตรียมซองทำบุญมาวางไว้ที่โต๊ะสิ ใครมาเค้าจะได้เห็น"
"เอ้า อย่านั่งเฉยสิ น้าส้มเค้ามาแล้ว"
เสียงของเหมียวในหัวทำไมมัน ยังดังอยู่ตลอดนะ นี่เราคิดถึงเค้ามากขนาดนี้หรอ ดิเรกนึกในใจ ขณะที่ ดนัยเดินเข้ามาทัก
"เอ้ย เป็นไรนั่งซึมตลอดเลย เอาน่าเหมียวมันไปสบายแล้ว แกควรจะเลิกเศร้าได้แล้วนะ"
ดิเรกไม่ได้ตอบอะไร ได้แค่เหลือบมองเพื่อนด้วยหางตา
"นี่ก็อีกคน ไม่ทำงานทำการ 30000 ที่ยืมไปหนะ ยังไม่เห็นจะมาคืนซะที บอกแล้วว่าอย่าให้" เสียงเหมียวแทรกเข้ามาอีก
ได้ยินดังนั้น ดิเรกลุกพรวดขึ้น มือขวาเกาศรีษะอย่างแรง "เออๆ"
ดนัยตกใจรีบมาตบไหล่ "ไม่เป็นไรเพื่อน แกยังมีชั้นอยู่ อย่าคิดมากนะ แกอยากระบายอะไร ได้นะเว้ย"
"ฉันรู้สึกว่าเหมียวอยู่ข้างๆชั้นตลอดเลย ทำให้ชั้นลืมเค้าไม่ได้จริงๆ"
"แกไม่จำเป็นต้องลืมนะ จดจำเหมียว สิ่งดีๆที่ทำร่วมกันมา"
ดิเรกไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่มองรูปถ่ายเหมียวที่ตั้งอยู่ด้านหน้าอยู่นาน
ไฟโหมแรง ปล่อยควันลอยขึ้นสูง
ดิเรกและดนัย ยืนมองควันที่ค่อยๆจางลงๆ ขณะที่ฟ้ามืดมาตั้งแต่บ่ายละ เหมือนฝนจะตกแต่ยังไม่ตก
มองผ่านเมรุ เห็นฟ้าแลบอยู่ไกลๆ
ไม่กี่วินาที ก็มีเสียงฟ้าผ่า ดังสนั่นมาก ไม่ค่อยเห็นฟ้าผ่าดังขนาดนี้มานานแล้ว
ดนัยหันมามองดิเรก พบว่าดิเรกยืนมองท้องฟ้าและยิ้มอย่างมีความสุข
"ฉันดีใจนะที่เห็นแกยิ้มได้วันนี้เอง เหมียวไปสบายแล้วนะเพื่อน"
"ใช่ แกได้เห็นฟ้าแลบและได้ยินเสียงฟ้าผ่านั่นใช่ปะ แสดงว่าเหมียวได้ไปสวรรค์แล้ว เหล่าเทวดาคงวุ่นกันน่าดูเลย" 😊
นับจากนั้นมา ดิเรกไม่ได้ยินเสียงแว่วอะไรจากเหมียวอีกเลย ...
😀😀😀😀😀😀😀

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา