24 มิ.ย. 2020 เวลา 13:40
เรื่องสั้น..”จันทร์เจ้าขา”
บทที่ 2 ตอนที่ 5 (24/6/2020)
สวัสดีครับ เพื่อนๆ
ขอส่ง เรื่อง(เริ่มจะไม่)สั้น จันทร์เจ้าขา..และคลิปเพลงใหม่ ให้เพื่อนอ่านและฟัง
เพลินๆ ก่อนนอน คืนวันพุธนะครับ..
ราตรีสวัสดิ์ครับ
ความเดิมตอนที่แล้ว:คาร์โน ผู้เป็นบิดาจบเกมหมากรุก และให้คำปรึกษาแก่ คาร์โนจูเนียร์ ในกลยุทธ์กับสยามประเทศ ว่า “จงหา หมากเรือ.. ของเจ้าให้พบ”
ในขณะเดียวกับ คณะเดินทางของคุณหลวงหนุ่ม ได้เดินทาง ถึงเมืองตุ่น ..ที่ชาวเมืองไม่ให้คณะเข้ามาพักค้างคืนในเมือง..
ซึ่งพรานเฒ่า ได้มาเตือนให้ทุกคนในคณะ..ระวังถึงอาเพศ เมืองลับแลที่กำลังจะเกิดขึ้นในคืนนี้..
บทที่ 2 รุ้งวาริท
ตอนที่ 5 นาคบาศ..
เมื่อควาญช้าง ได้ฟังพรานเฒ่า ..เล่าถึงอาถรรพ์เมืองลับแล ..และอาเพศ..ที่กำลังจะเกิดขึ้นในคืนนี้ ..
เสียงบ่นพึมพำ พูดคุยกัน.. ของเหล่าควาญช้าง..
เสียงสวดมนต์..เสียงบ่นโทษชะตาตนเอง.. ก็เริ่มดังขึ้นผสมกันปนเป..ดูวุ่นวาย
..และตื่นกลัว..
จนพรานเฒ่า เริ่มกังวลว่า จะคุมสถานการณ์ความตระหนกตื่นกลัว ..ที่กำลังกระพือพัดนี้..ไม่อยู่..จึงหันกลับมามองหา คุณหลวงอีกครั้ง..
แต่ทันใดนั้น.. คุณหลวง ก็เดินแทรกเข้ามากลางวง สนทนา..แล้วยืนนิ่งครู่หนึ่ง ก่อนที่จะพูดด้วยเสียง ดังกังวาล และเปี่ยมด้วยสิทธิอำนาจ แต่เจือด้วยความเมตตา ความว่า..
“จงเงียบ.. และฟังข้า..
เหล่าควาญช้าง และผู้ติดตามทุกคน..”
“...ด้วยพระบรมเดชะ..
มหิทธฤทธา บารมี ของสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ผู้เป็นเหนือหัว เจ้าแผ่นดินสยามประเทศแห่งนี้..
ได้ทรงมอบหมาย ให้ข้า และพวกเจ้า ถวายงานรับใช้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ในการพาเหล่าข้าหลวง ไปเยี่ยมเยือน เชื่อมสัมพันธ์กับหัวเมืองประเทศราชล้านนา ก่อนที่รัฐบาลอังกฤษจะจัดทำ สนธิสัญญากับเชียงใหม่ ในวันสำคัญอันใกล้นี้..
... แม้จะต้องบุกน้ำลุยไฟ สู้เภทภัยใดๆ พวกเราก็จะทำให้สำเร็จ โดยสวัสดิภาพ ตามพระราชดำรัสของพระองค์ท่านทุกประการ..”
“..และด้วยเดชะพระบารมีปกเกล้าของพระองค์ท่าน นี้เอง ขอให้พวกเจ้าสงบใจ และ จงฟังให้ดี.. การเหล่านี้จะสำเร็จได้ ก็ด้วยความสามัคคี และความร่วมมือร่วมใจของพวกเราทุกคน..
“ จงนั่งลง..พนมมือ หลับตา และตั้งใจฟัง ร่ายพระคาถาเพื่อป้องกันอาเพศในเขตอาถรรพ์นี้ และกล่าวพร้อมกันว่า..
“.. เอ หิ (จงมา)..พญานาคะสุปัณณานัง สิทธิชะนาจิตตัง อิติปิโส ภะคะวา พุทธังปิด ธัมมังปิด สังฆังปิด มะอุอะ.”
ภาพจาก คุณลายไทย
ทันใดนั้นเอง..เด็กหนุ่ม ผู้ติดตามควาญช้างคนนึง ที่นั่งพนมมือต่อหน้าคุณหลวง
..ก็รู้สึกร้อนวูบวาบ ตัวสั่นเทา และรู้สึกว่าแผ่นหลัง
..คล้าย มีพญางูใหญ่ กำลังเคลื่อนไหวอยู่..
จนต้องร้องขอให้คุณหลวง ช่วยเหลือ ว่า “นายท่าน โปรดช่วยข้าด้วยเถิด เจ้าข้า” พร้อมกับหมอบกราบ แทบเท้าของคุณหลวง..
คุณหลวง จึงระบายลมแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และพุทธมงคลคาถา เป่าลงบนกลางหลัง ของเด็กหนุ่มคนดังกล่าว..
ทุกคนต่างก็จ้องมอง และสังเกตเห็นถึง การเปลี่ยนแปลง..บางอย่าง..
ภายหลังที่ คุณหลวงเป่าลมกระจายทั่วแผ่นหลัง ว่า
อักขระ อาคม บนรอยสัก ของเด็กหนุ่มนั้น กลับมีแสงสว่าง หรือประกายไฟ ในบางอักษร และ อักษรเหล่านั้น ต่างก็เคลื่อนสลับย้ายที่กัน ไปมาเป็น ยอดพระคาถามะ..อะ..อุ ขึ้นใหม่..
..พร้อมกับ มีรอยคลื่น..ใต้ผิวหนัง ประดุจมีพญางูกำลังเคลื่อนไหวอยู่..
อัศจรรย์นี้ ..ได้เคลื่อนไหวอยู่อีกครู่หนึ่ง จนค่อยๆปรากฏ รูปลักษณ์ ของลักษณะอักขระ และรูปทรงใหม่ ที่ชัดขึ้นๆ.. จนในที่สุดก็หยุดนิ่ง พร้อมกับแสงสว่างวูบหนึ่ง.. ก่อนจะค่อยๆเลือนดับลง เป็นรูป รอยสัก “นาคบาศ“ ขึ้นมาแทนที่..
ขอบคุณ เพจคุณลายไทยเพื่อการอนุรักษ์ มากๆเลยนะครับ :)
พรานเฒ่า และเหล่าควาญช้าง ต่างตกตะลึง ..เงยหน้าขึ้น มองคุณหลวงหนุ่ม อย่างนับถือ และยกมือท่วมหัว กล่าว“สาธุ” กันอย่างพร้อมเพรียง ในอัศจรรย์นี้..
“ทุกคน..จงนำผ้า มาวางทับบนรอยนาคบาศนี้ พร้อมกับระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ “ คุณหลวงกล่าว พร้อมกับสำทับตามอีกว่า
1
“..สำหรับผู้ชาย ให้ทำเป็นประเจียดโพกศีรษะ หรือ รัดต้นแขนข้างที่ถนัด..ส่วนคุณหนูดี และคุณหนูฆฤณ ขอให้ผูกเป็นผ้าพันรอบคอไว้”
เมื่อควาญช้าง และทุกคนนำผ้าของตน ไปวางทับบนรอย นาคบาศ บนแผ่นหลังเด็กหนุ่ม ตามที่คุณหลวง ว่าแล้ว..ก็เห็นประจักษ์อัศจรรย์ตรงกันว่า..ดูเหมือนว่า รอยนาคบาศบนแผ่นหลัง จะเลื้อยขึ้นมาบนลายผ้าที่วางทุกๆครั้งไป
..ราวกับมีชีวิต..
ขณะที่ ทุกคนกำลังไปเตรียมเก็บข้าวของขึ้นไป อยู่บนหลังช้าง ในคืนนี้..
คุณหลวง ก็ขอให้ พรานเฒ่า นายทหารหนุ่ม และนายแพทย์ชอว์ ช่วยเอา ไม้ที่ผูกด้วยผ้าประเจียด ไปวาดเป็นเส้นเขต ล้อมรอบบริเวณและปักไม้ลงเป็นหลักเขตขอบขัณฑสีมาของเกราะเพชร นาคบาศ..
ในระหว่าง ที่นายแพทย์ชอว์ กำลังลากไม้ ในการสร้างหลักเขต ก็ได้สังเกตเห็นพันธ์ไม้ พิษ “หมากเขือบ้า” (บ้าลำโพงม่วง-ป่า) Datura stramonium ขึ้นเป็นดงหนาแน่น..อยู่รอบๆ ที่ตั้งของคณะ..
ทุกส่วนของพืชชนิดนี้ ไม่ว่าลำต้น ใบ ดอก ผล หรือเกสร ล้วนมีคุณสมบัติเป็นพิษทั้งสิ้น เพราะมีสาร “อัลคาลอยด์” (alkaloid), ชนิดโทรเพนในระดับอันตราย ได้แก่ อะโทรปีน, ไฮออสไซยามีนและสโคโพลามีน Atropine, Hyoscyamine และ Scopolamine หลายชนิดที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท.. ทำให้เกิด ประสาทหลอนในระยะเวลาอันสั้น ได้รวดเร็ว .. ครั้งสุดท้ายที่เขาได้เห็น พร้อมกับเพื่อนคณะแพทย์ คือ การทำซอมบี้มนุษย์ ด้วยพืชชนิดนี้ ในประเทศเฮติ..
เขายังจำนัยน์ตา ที่เบิกโพลงด้วยความกลัวสุดขีดครั้งสุดท้าย ของเดวิด หัวหน้าคณะ..ที่กำลังคุ้มคลั่ง..สูญเสียสติสัมปชัญะ ได้อย่างดี..
นายแพทย์ชอว์ จึงรีบวิ่งกลับมา เล่าเรื่อง ดงพืชพิษ “บ้าลำโพงป่า” ในบริเวณรอบๆนี้ ให้นายทหารหนุ่ม และคุณหลวงฟัง..
คุณหลวงนิ่งฟัง อย่างสงบ และได้ถาม นายแพทย์ชอว์ ว่า มีคำแนะนำในการแก้ไขเรื่องนี้ อย่างไรบ้าง..
นายแพทย์ชอว์ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง .. แต่ทันใดนั้น ก็มีเสียงเล็กๆ เอ่ยขึ้นว่า
“ตี้บ้านของหนูดี๋ ใจ๊ดินปู๋นบนดอยแตวใส่น้ำเป็นน้ำปู๋น จิบผ่อก่อปอจ้วยได้พ่องเจ้า...”
(ที่บ้านของหนูดี ใช้ดินปูนภูเขา (Zeolite) ละลายน้ำ เป็นน้ำปูน จิบดื่ม ก็พอจะบรรเทาได้บ้าง เจ้าค่ะ)
“ แล้วเราจะหา ปูนนี้ ได้ที่ไหนบ้าง ล่ะ คุณหนูดี..” นายทหารหนุ่ม เอ่ยถาม
“..บะหินสีขาวตี้อยู่ใกล้ๆต้นบ้าลำโพงฮั้นนะเจ้า..”
(ดินหินสีขาว ที่อยู่บริเวณใกล้ๆ ต้นบ้าลำโพง นั่นเองแหละเจ้าค่ะ)
หนูดี หันไปทางดงพืชพิษ แล้วค่อยๆ เอ่ยตอบ..
คุณหลวงจึง หันไปมองพรานเฒ่า และพยักหน้าให้ครั้งหนึ่ง..
พรานเฒ่าจึงรีบเกณฑ์ ผู้ช่วยควาญช้าง 6 คน ไปขุดดินปูนข้าง “ต้นบ้าลำโพง” มาละลายน้ำและ แจกจ่ายให้ทุกคนไว้..
ความมืดค่อยๆ คืบคลาน มาปกคลุม ทั้งป่า และผืนฟ้า..จนแม้แสงดาวยังถูกบดบัง..
คบเพลิงที่เสียบอยู่ข้าง กูบใหญ่ ทำให้เห็นสีหน้า กังวล เคร่งเครียด และความอ่อนล้า ของเหล่าควาญช้าง..และคณะ..
บรรยากาศในความมืด ค่อยๆเงียบเสียงลง.. จนได้ยินแม้กระทั่งเสียง..
เปลวไฟ ในกองฟืนใหญ่ ที่แลบเลีย และส่งเสียงปะทุ แตกดัง “เปรี๊ยะๆ” กับไม้ฟืน..
นายทหารหนุ่ม กระชับปืนยาว ในมือมั่นเตรียมพร้อม .. ขณะที่นายแพทย์ชอว์ ยังคงเฝ้ามองไปที่ดงไม้พิษ ที่กำลังโอนเอน ไปตามแรงลมที่ค่อยๆ พัดกระพือ ราวกับมือปีศาจ..
“ วันนี้ ข้านึกมุกเก่าได้ละ ผู้กอง..” นายแพทย์ หันมาแหย่นายทหารหนุ่ม ก่อนจะมีเสียงปราม มาจากพรานเฒ่า ที่หันมาเตือน ว่า
“ ผ่านคืนนี้ไปได้ก่อน..ค่อยเปิดศึกกันนะขอรับ..
คุณหมอ ..ใจเย็นๆ กันนะขอรับ..”
ส่วนคุณหลวงหนุ่มนั้น.. กลับหลับตา พิงเอนนอนเหยียดขาดูสบายๆ ..อยู่บนกูบเดียว กับ คุณหนูดี และคุณหนูฆฤณ ..
คุณหนูฆฤณ กระซิบบอกคุณหนูดี ที่กำลังพึมพำ พูดอะไร อยู่คนเดียว..ว่า “พี่หนูดีขา.. อย่าพูดคนเดียวนะเจ้าคะ.. ฆฤณ ขนลุกหมดแล้วเจ้าค่ะ..”
คุณหนูดี หันกลับมาช้าๆใบหน้าประแป้งขาวโพลน แล้วยิ้มให้ค้างไว้..
ไม่พูดอะไร..
“ โอย.. คุณพี่หนูดีเจ้าขา น่ากลัวกว่า เดิมอีก..เจ้าค่ะ.. หันกลับไปพูดคนเดียวเหมือนเดิม ก็ได้นะเจ้าคะ..
หนูฆฤณ พูดพลาง เอาผ้าประเจียด มาคาดตา คลุมโปง แล้วอธิษฐาน ต่อว่า ..
“นาคบาศ เจ้าขา.. ขอหนู
ฆฤณ ปลอดภัย..หลับยาวจนถึงเช้า เลยนะเจ้าคะ.. สาธุ ราตรีสวัสดิ์เจ้าค่ะ..”
คุณหลวงหรี่ตาขวา ขึ้นมองหนูฆฤณ และยิ้มอย่างเอ็นดู
ขณะที่พรานเฒ่า..จับปืนหน้าไม้ จ้องไปทาง ประตูเมือง ของเมืองตุ่น..จนเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงผิดปกติของบรรยากาศโดยรอบ..
ลมพัดกระพือ เกสรของดอกบ้าลำโพงป่านั้น.. ค่อยๆพัดแรงขึ้น..แรงขึ้น.. จนเกสร และฝุ่นบริเวณนั้น ฟุ้งขึ้น ราวกับมีพายุ..
ขณะเดียวกัน..เสียงลมที่พัดดังอื้ออึงนั้น.. บางครั้ง..ฟังดู เหมือนกับมีเสียงขบเขี้ยว เคี้ยวฟัน..ครวญคราง..หวีดหวิว ปนเปกันจนฟังไม่ได้ศัพท์..
จนเมื่อลมสงบลง .. พรานเฒ่า และทุกคน ก็ต้องตะลึง.. เพราะเมืองตุ่น ทั้งเมือง..กลับหายไป.. เหลือเพียง ทุ่งหินกว้าง ลาดยาว..
...
...
ชั่วขณะหนึ่งนั้น.. ก็มีเสียงโห่ร้องของกองทัพขนาด มหึมา และเสียงกลองรบ..
ดังขึ้นมา..กึกก้อง..
ทั่วบริเวณ ..
และร่างอันน่าสยดสยองมากมาย..ของกองทัพโบราณ ก็ค่อยๆปรากฏชัดขึ้น ตั้งแถวพร้อมประจัญบาญ ยืนอยู่ตรงบริเวณที่เคยเป็นประตูเมืองตุ่น..
ในท่ามกลางเหล่ากองทัพอสุรกายนั้น .. กลับมีสตรีรูปงามนางหนึ่ง ยืนอยู่บนช้างศึก ถือพระแสงยาว ชี้มาทางทิศ ที่คุณหลวงอยู่ และปรากฏเสียงดังกังวาล ว่า
“เหตุใด ..วิสุทธิภุชงค์นาคา จึงยืนอยู่ฝ่ายตรงข้าม กองทัพอันเกรียงไกรของ พระนางวิสุทธิเทวี และกระทำการทุรยศ ต่อสัตย์สาบาน ที่ทำต่อ ..
พระเจ้าบุเรงนองกะยอดินนรธา.. ในการรักษาคุ้มครองอาณาจักรล้านนา“
“ทั้งยังจะขัดขวาง การสัญญาเพื่อเอกราชของเชียงใหม่นี้..อีกด้วย..”
คุณหลวงจึงลุกขึ้น..ประนมมือตั้งจิตอธิษฐาน แล้วประกาศ ว่า
“สยามประเทศ เป็นราชอาณาจักร อันมี สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ผู้เป็นเจ้าอยู่หัว ปกครองโดย..
ทศพิธราชธรรม.. “
“และ ข้า..หลวงวิสุทธิ์ภุชงค์ ได้รับพระบรมราชโองการ ให้นำ พระธำมรงค์ และพระกุณฑล (ตุ้มหู) เพื่อพระราชทานให้กับเจ้าหญิงดารารัศมี ในการที่จะเชื่อมราชอาณาจักรทั้งสองให้เป็นปึกแผ่นเดียวกันโดยความรักและไมตรี..”
“ ขอให้ท่านและกองทัพ อันเกรียงไกร..ได้โปรดเปิดทาง.. และคุ้มครองพวกเราในการเดินทางครั้งนี้ด้วยเถิด..”
เมื่อสตรีนางนั้นได้ฟัง คำประกาศของคุณหลวงนั้น..
พลันแววตาของนาง ปรากฏวูบหนึ่ง ของความผิดหวัง และขุ่นเคือง ..
ก่อนที่จะเปลี่ยนกลับมาเป็นแววตาแห่งความเด็ดเดี่ยวของแม่ทัพ..
แล้วชูมือ ทำสัญญาณให้เหล่าอสุรกายพลธนู โก่งคันธนูอาคม เหล่านั้นขึ้น..
..
..
คุณหลวงหลับตาลง และสื่อสารด้วยจิต ว่า..
“โปรด อย่าทำเช่นนี้ เลย..
จันทมณีเทวี..”
“ข้าไม่อยากทำร้ายเจ้า..”
สายตาขมขื่นของนาง จ้องมาที่คุณหลวง พร้อมจิตอาลัย กล่าวว่า
“..สิ้นลมบ่สิ้นรัก
รอเจ้า,
..สู้ขาดใจสู้เฝ้า
ห่วงหา,
..เสียชีพไป่ลืมเศร้า
โถมทับ..นานมา,
..สิ้นศึกใดห่อนล้า
เทียบเจ้า..ลืมสิ้น “
2
พลันเสียงกังวาลใส ของสตรีนางนั้น ก็ดังสวนกึกก้องทั่วบริเวณนั้น ขณะที่นางลดมือลง ว่า ..
..
“ฝนแสนห่า..”
..
“ยิง..”
..
เสียงปล่อยสายธนู และเสียงลูกธนู นับหมื่นที่พุ่งแหวกอากาศ สร้างความอลหม่าน ตื่นกลัวให้กับเหล่าคชสาร และทุกคน..
ยกเว้นคุณหลวง และหนูดี ที่มองธนู ที่กำลังพุ่งเข้ามา ทางนี้ อย่างเรียบเฉย ..และขมุบขมิบ ท่องอะไรบางอย่าง..
ในขณะที่นายแพทย์ชอว์ รำพึงกับตัวเอง เบาๆว่า
“ นี่คือภาพหลอน..
จากเกสรลำโพงบ้า แน่ๆ..”
“แต่ช่างสมจริง..
อะไรเยี่ยงนี้..นะขอรับ คุณหมอ..” นายทหารหนุ่ม ตอบ อย่างเลื่อนลอย พลางจ้องมองลูกธนู นับหมื่นๆดอก เหมือนสายฝน ที่กำลังจะสาดเข้ามาถึงตัว..
..
..
1
จบบทที่ 2 ตอนที่ 5
..
..
#เกร็ดเพิ่มเติม,
#สัญญาอังกฤษและธำมรงค์วงนั้น,
-รัฐบาลอังกฤษเตรียมจัดทำ สนธิสัญญาเชียงใหม่ พ.ศ. 2426 ขึ้นแทนฉบับเดิมที่หมดอายุไขลงซึ่งเนื้อหาสาระคล้ายคลึงกับสนธิสัญญาฉบับเดิม คือ เกี่ยวกับเรื่องให้ความคุ้มครองคนในบังคับของทั้งสองฝ่าย เรื่องความร่วมมือในการส่งผู้ร้ายข้ามแดน การป่าไม้..
-แต่มีส่วนที่แตกต่างจากเดิม..ว่าด้วยอำนาจของศาลต่างประเทศ และการตั้งรองกงสุลอังกฤษประจำเชียงใหม่
-แต่ก่อนที่อังกฤษจะส่งรองกงสุลขึ้นไปประจำที่เชียงใหม่นั้น มีข่าวลือว่าทูตอังกฤษจากพม่าตอนใต้มาเจรจาทาบทามว่า สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร มีพระราชประสงค์อยากจะขอรับเอาเจ้าหญิงดารารัศมี ไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์
-เมื่อข่าวลือทราบถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระกุณฑลและพระธำมรงค์ประดับเพชรขึ้นไปพระราชทานของขวัญแทนใจ..ให้เจ้าหญิงดารารัศมี พร้อมกับตราพระราชบัญญัติสำหรับข้าหลวงและตุลาการสำหรับศาลเมืองลาวเฉียง
สวัสดี และขอจบเพียงเท่านี้
ขอบคุณครับ
ร้อยเรียงเรื่องสั้น (T.Mon)
24/6/2020

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา