คำถามจากป๋าอัจฉริยะ EP2 เมื่อความฝันหดเล็กลง
แม้ว่าจะดูเหมือนอาจารย์ยานางิซาว่า จะเป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเองอย่างสูง และมีลูกศิษย์ลูกหาที่รักและเคารพอาจารย์อยู่หลายคน บางคนถึงกับไปเกิดใหม่ไม่ได้เพราะติดใจที่ไม่ผ่านวิชาของอาจารย์ (ตอนที่ 20 “เมื่อป๋าเจอผี”
ในเล่มที่ 2 ตอนที่ 17 ที่ชื่อตอน “กล่าวลาอาจารย์” ผู้เขียนได้พาเราไปรู้จักกับ ศาตราจารย์ฟุรุคาว่าบุคคลที่เป็นที่เคารพนับถือของป๋า ซึ่งเป็นอาจารย์สอน ป๋ามาตั้งแต่วัยหนุ่ม ปัจจุบันแม้จะชราภาพไปมากแต่ป๋าก็ยังให้ความเคารพนับถือไม่เสื่อมคลาย
ในวัยหนุ่มศาตราจารย์ฟุรุคาว่า เคยเป็นผู้คิดค้นคว้าเครื่องคิดเลขอัจฉริยะซึ่งจะช่วยคำนวนเศรษฐกิจได้อย่างแม่นยำ ซึ่งมีขนาดใหญ่มากและเมื่อพบกับป๋าอีกครั้ง ศาตราจารย์ได้หยิบเอาเครื่องคิดเลขในปัจจุบันขึ้นมาคุยกับป๋าว่า
“ดูนี่สิ เครื่องคำนวนรุ่นใหม่ของบริษัท N รุ่นล่าสุดที่มีขนาดเล็กมากๆ เจ้าตัวน้อยที่ชั้นเคยทำขึ้นเมื่อสมัยก่อนเทียบไม่ได้เลย ความฝันที่เคยยิ่งใหญ่ของฉัน เดี๋ยวนี้มันหดเล็กลงไม่ต่างจากเครื่องคิดเลขนี้เลย”
โลกที่เคยกว้างใหญ่ เมื่อเราอายุมากขึ้นขนาดของมันก็ดูเหมือนว่าจะเล็กลงเรื่อยๆ เช่นเดียวกับความฝันอันยิ่งใหญ่มากมายที่ค่อยเลือนหายไปบ้างระหว่างทางของชีวิต เหลือไว้แค่สิ่งที่สำคัญจริงๆ
ศาตราจารย์ฟุรุคาว่าในอดีตอาจเป็นคนที่สำคัญมีนักวิจัยมาลุมล้อมมากมาย แต่ในวัยชรา คลาสการสอนของเขามีนักเรียนเข้าฟังชนิดนับหัวได้ แต่สำหรับป๋าของเราแล้ว ความเคารพนับถือที่มีต่อป๋ายังคงไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไปเลย
“หูของชั้นมันแย่ลงเรื่อยๆ ได้ยินแต่เสียงเซ็งแซ่ของเรื่องราวในอดีต พวกนักรียนที่รัก กลุ่มนักเรียนที่รวมตัวกันประท้วง สมัยที่เครื่องคิดเลขเคยถูกยกย่องไม่ต่างจากคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน และ เพื่อนฝูงที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขทำงานวิจัยกันมา แต่ละฉาก แต่ละเสียงที่หลั่งไหลเข้ามาหลอกหลอน จนดูเหมือนเป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นมาไม่น่านนี้เอง” ศาตราจารย์ฟุรุคาว่า เปรยให้ป๋าฟัง
“แต่สำหรับผมแล้วเรื่องราวในอดีตไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป ศาตราจารย์ก็ยังเป็นอาจารย์ของผมอยู่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเช่นเดียวกัน” ป๋าตอบ
ในวันสุดท้ายของการสอนก่อนเกษียน มีนักเรียนเพียงหนึ่งคนและป๋าที่เข้ามาฟังการบรรยายของ ศาตราจารย์ฟุรุคาว่า และเมื่อสอนจบนักเรียนเพียงคนเดียวได้นำดอกไม้มามอบให้ศาตราจารย์เพื่อกล่าวคำอำลา แม้จะมีเพียงคนเดียว แต่มันก็ทำให้ศาตราจารย์ถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความยินดี
ในช่วงชีวิตที่ดูเป็นเส้นทางยาวไกลที่ไม่มีวันสิ้นสุด เราอาจมีฝันต่างๆมากมาย เราอยากมีชื่อเสียงใหญ่โต มีแต่คนรักและชื่นชม เพราะเราเผลอคิดไปว่าเรายังมีเวลาอีกมาก เหลือเวลาอีกมากที่จะหามา และที่จะเสพสุขกับมัน
แต่เมื่อเข้าถึงช่วงโค้งสุดท้ายของชีวิตซึ่งความตายอาจเข้ามาทักทายเราได้ตลอดเวลา การใช้ชีวิตย่อมต่างไป เราจะให้ความสำคัญกับสิ่งเล็กๆและละเอียดอ่อนมากขึ้น และจะเข้าใจได้ว่าในที่สุดแล้ว ความสุขที่แท้จริงมันเล็กนิดเดียวจริงๆ