Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Tell Tales
•
ติดตาม
1 ก.ค. 2020 เวลา 16:16 • ประวัติศาสตร์
ปฏิวัติอเมริกาฉบับเข้าใจง่ายแบบคนสมองเบา
"ปฏิวัติอเมริกา" หรือ "American Revolutionary War" เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่สำคัญ มากในประวัติศาสตร์โลกเลยล่ะค่ะ เพราะว่านี่เป็นเหมือนกับการปฏิวัติรุ่นบุกเบิกของดินแดนอาณานิคมในเครือจักรภพสหราชอาณาจักรอังกฤษ
เรื่องราวจะเป็นมาเป็นไปอย่างไร เรามาเข้าใจไปพร้อมๆกันเลยค่ะ
อเมริกาไม่ได้ตกเป็นอาณานิคมทั้งหมด มีเพียง13รัฐที่ตกเป็นดินแดนอาณานิคม
2
13 อาณานิคม หรือ Thirteenth Colonies ประกอบไปด้วย
1. นิว แฮมป์เชียร์ [New Hampshire]
2. แมสซาชูแซ็ตต์ [Massachusetts]
3. คอนเน็คติคัต [Connecticut]
4. โร้ด ไอแลนด์ [Rhode Island]
5. นิว ยอร์ก [New York]
6. นิว เจอร์ซีย์ [New Jersey]
7. เพนซิลวาเนีย [Pennsylvania]
8. เดลาแวร์ [Delaware]
9. แมร์รี่แลนด์ [Maryland]
10. เวอร์จิเนีย [Virginia]
11. นอร์ธ แคโรไลน่า[North Carolina]
12. เซาธ์ แคโรไลน่า [South Carolina]
13. จอร์เจีย [Georgia]
ปัจจัยในการปฏิวัติ
- อังกฤษเรียกเก็บภาษีกับชาวอาณานิคมอย่างไม่เป็นธรรมและไม่จำเป็น
- อังกฤษใช้นโยบายการค้าอย่างไม่ยุติธรรมกับอาณานิคม เนื่องจากบริเวณลุ่มแม่น้ำมิสซิสซิปปีนี้เป็นแหล่งเพาะปลูกใบชาที่สำคัญ อังกฤษใช้วิธีซื้อจากอาณานิคมในราคาถูกมากแล้วนำไปขายในยุโรปในราคาเพิ่มหลายเท่า
- ชาวอาณานิคมได้รับแรงบันดาลใจในเรื่องของ"ประชาธิปไตย" มาจาก "จอห์น ล็อค" นักปรัชญาชาวอังกฤษ
- มีการจำกัดพื้นที่ในการทำมาหากินของชาวอาณานิคม โดยไม่ให้ไปทำการค้าขายแลกเปลี่ยนกับดินแดนที่อังกฤษยึดมาจากฝรั่งเศส
- ชาวอาณานิคมปฏิเสธที่จะเสียภาษีหากไม่มีผู้แทนของชาวอาณานิคมในสภา
อีเว้นท์ที่หนึ่ง : Boston Tea Party *สำคัญมาก*
ท่าเรือบอสตันในปัจจุบัน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 6 ธันวาคม ปี 1773
มีเรือบรรทุกสินค้าสามลำบรรทุกใบชามายังท่าเรือบอสตัน
ผู้นำคนหนึ่งของเหล่าแพทริออท[Patriot](แปลว่า"คนรักชาติ"หรือ"คนชาตินิยม") ได้ขึ้นไปบนเรือและเทใบชาทิ้งทะเล
นำไปสู่การปิดท่าเรือบอสตันและส่งกำลังเข้าปราบปรามโดยอังกฤษ
จากนั้นฝรั่งเศสก็ได้แอบส่งกำลังอาวุธเข้าช่วยเหลืออเมริกา
เหตุการณ์นี้เกิดจากความต้องการต่อต้านของชาวอาณานิคม เพราะชาวอาณานิคมถูกบังคับให้ปลูกใบชา ต้องเสียภาษีใบชา และความไม่พอใจในพระราชบัญญัติใบชาที่ออกมาเพื่อคัดค้านชาวอเมริกันที่คัดค้านอังกฤษ
Tips - การที่ฝรั่งเศสเข้ามาช่วยเหลือแบบเงียบๆเพราะว่ามีความแค้นกับทางอังกฤษเป็นการส่วนตัว จากการแย่งชิงแข่งขันดินแดนอาณานิคมกันในช่วงเวลานั้นและก่อนหน้านั้น โดยการที่ฝรั่งเศสเข้ามาช่วยทำให้อเมริกาเป็นต่อในศึกครั้งนี้อย่างมากเลยทีเดียว
และนอกจากนี้ยังมีสเปนเข้ามาร่วมช่วยอเมริกาด้วย แต่ไม่ได้มีบทบาทมากเท่าฝรั่งเศส
อีเว้นท์ที่สอง : การพยายามยึดยุธโธปกรณ์ของชาวอาณานิคมโดยชาวอังกฤษ
ความพยายามยึดยุทโธปกรณ์ของชาวอเมริกันโดยบริเตนในเดือนเมษายน 1775
นำไปสู่การต่อต้านกันอย่างเปิดเผยระหว่างกำลังคราวน์[Crown Forces - ทีมทหารของสหราชอาณาจักร] และทหารอาสาสมัครแพทริอัต
ทหารอาสาสมัครเดินหน้าล้อมกำลังบริติชในบอสตัน ทำให้ชาวเมืองต้องอพยพย้ายออกในเดือนมีนาคม 1776
สภาภาคพื้นทวีปตั้ง"จอร์จ วอชิงตัน"ให้บังคับบัญชาทหารอาสาสมัคร
ต่อมาวอชิงตันได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพภาคพื้นทวีป ตลอดจนประสานงานหน่วยทหารอาสาสมัครของรัฐ
"เซอร์ วิลเลียม ฮาว"[Sir William Howe] ผู้บัญชาการทหารบกชาวอังกฤษ เริ่มการตีโต้ตอบซึ่งมุ่งยึดนครนิวยอร์กคืนจากชาวอาณานิคม
ฮาวชนะวอชิงตันด้วยอุบาย ทำให้ความมั่นใจของฝ่ายอเมริกาแตะจุดต่ำสุด
วอชิงตันสามารถยึดกองทัพเฮชชันได้ที่เทรนตัน และขับบริเตนออกจากนิวเจอร์ซีย์ ฟื้นความมั่นใจของฝ่ายอเมริกากลับมา
ในปี1777 บริเตนส่งกองทัพใหม่โดยมี "จอห์น เบอร์กอยน์" [John Burgoyne] เป็นผู้บังคับบัญชาให้ยกลงใต้จากแคนาดาและแยกอาณานิคมนิวอิงแลนด์
ทว่า ฮาวไม่สนับสนุนเบอร์กอยน์ ทำให้เขาหมดกำลังบำรุง ถูกล้อมและต้องยอมจำนนในเดือนตุลาคม1777
ความปราชัยของบริเตนที่ซาราโทกาทำให้ฝรั่งเศสและสเปนที่ได้จัดหาอาวุธ เครื่องมือ กระสุนปืน และกำลังบำรุงอื่นๆให้ชาวอาณานิคม ได้เข้าสู่สงครามอย่างเปิดเผยและเป็นทางการในปี1778 หลังจากช่วยเหลือแบบแอบๆ
โดยทางฝรั่งเศสและสเปนได้ลงนามพันธมิตรทางทหารซึ่งรับรองเอกราชของสหรัฐ
บริเตนตัดสินใจยอมเสียอาณานิคมทางเหนือและกู้อดีตอาณานิคมทางใต้ เข้ายึดจอร์เจียและเซาท์แคโรไลนา
ในปี1779 สเปนเข้าร่วมสงครามเป็นพันธมิตรกับฝรั่งเศสภายใต้สนธิสัญญาตระกูล โดยมีเจตนายึดยิบรอลตาร์และอาณานิคมบริติชในแคริบเบียน
บริเตนประกาศสงครามต่อสาธารณรัฐดัตช์ในปี1780
อังกฤษพยายามที่จะยึดรัฐทางตอนใต้ของอเมริกา ด้วยความช่วยเหลือที่มีคาดเอาไว้ว่าจะได้รับจากพลเรือนผู้ภักดี(Royalists) และสงครามก็เคลื่อนไปทางตอนใต้
ชาร์ลส์ คอร์นวอลลิส[Charles Cornwallis] ได้จับกุมกองทัพที่เมืองชาร์ลสตัน เซาท์แคโรไลนาในต้นปี1780
แต่เขาไม่สามารถเกณฑ์ทหารอาสาสมัครจากพลเรือนผู้ภักดีได้มากเพียงพอที่จะควบคุมอาณาเขตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในที่สุดกองทัพอเมริกันฝรั่งเศสที่ร่วมมือกัน สามารถเข้ายึดกองทัพอังกฤษรอบที่สองได้สำเร็จที่ยอร์กทาวน์ ในฤดูใบไม้ร่วงปี1781
ผลจากการสิ้นสุดสงครามคือมีการทำสนธิสัญญาปารีส ลงนามเมื่อวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 1783 เป็นการยุติความขัดแย้งอย่างเป็นทางการ และยืนยันการแยกประเทศโดยสิ้นเชิง จากจักรวรรดิอังกฤษ
บริเตนตกลงรับรองเอกราชของสหรัฐเหนือดินแดนโดยมีขอบเขตคร่าวๆ อยู่แถวแคนาดาทางเหนือ ฟลอริดาทางใต้ และแม่น้ำมิสซิสซิปปีทางตะวันตก
ส่วนฝรั่งเศสผู้เป็นตัวแปรสำคัญที่มีผลชี้ขาดต่อสาเหตุของเอกราชอเมริกา แต่กลับได้รับดินแดนเพียงเล็กน้อย และมีปัญหาหนี้สินมหาศาล
ทางสเปนได้อาณานิคมฟลอริดาของบริเตนและเกาะมินอร์กา แต่ก็ไม่สามารถชิงยิบรอลตาร์ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักคืนมาได้
ท้ายที่สุดคือฝ่ายดัตช์ที่มีแต่เสีย โดยถูกบังคับให้ยกดินแดนบางส่วนให้บริติช
การลงนามประกาศอิสรภาพ
Statue of Liberty หรือ เทพีเสรีภาพ ของขวัญครบรอบวันประกาศอิสรภาพจากฝรั่งเศส
วันประกาศอิสรภาพ หรือ Independence Day คือวันที่ 4 กรกฎาคม ปี1776
ในปัจจุบันวันที่ 4 กรกฏาคมจะเป็นวันฉลองประจำปี เพื่อรำลึกถึงการก่อตั้งประเทศสหรัฐอเมริกา อดีตอาณานิคมของอังกฤษ
โดยวันนั้นคือวันที่สภาแห่งภาคพื้นทวีป[Continental Congress] หรือสภาแห่งฟิลาเดลเฟีย ได้ออกประกาศการเป็นอิสรภาพของประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ
การเสนอร่างคำประกาศอิสรภาพต่อที่ประชุม
การเสนอร่างคำประกาศอิสรภาพต่อที่ประชุมสภาแห่งภาคพื้นทวีป
ประกอบไปด้วยคณะกรรมการ 5 คน ได้แก่
จอห์น อดัมส์ ตัวแทนจากแมสซาชูเซตส์
โธมัส เจฟเฟอร์สัน ตัวแทนจากเวอร์จิเนีย
เบนจามิน แฟรงคลิน ตัวแทนจากเพนน์ซิลวาเนีย
โรเจอร์ เชอร์แมน ตัวแทนจากคอนเนคติกัต
โรเบิร์ต ลิฟวิงส์ตัน ตัวแทนจากนิวยอร์ก
ผลจากการปฎิวัติ
สนธิสัญญาสันติภาพกรุงปารีส(1783)
1. บริเตนใหญ่รับรองเอกราชของสหรัฐอเมริกา
2. การสิ้นสุดของจักรวรรดิบริติชที่หนึ่ง
3. สมาพันธ์อิระควอยแตก
- เกิดการปฏิวัติฝรั่งเศสตามมา *สำคัญมาก*
- บริเตนใหญ่มอบพื้นที่ทางตะวันออกของแม่น้ำมิสซิสซิปปี ทางตอนใต้ของเกรตเลกส์ และแม่น้ำเซนต์ลอเรนซ์ให้กับสหรัฐ
- บริเตนใหญ่มอบอีสต์ฟลอริดา เวสต์ฟลอริดาและมินอร์กาให้สเปน
- บริเตนใหญ่มอบโตเบโกและเซเนกัลให้ฝรั่งเศส
- สาธารณรัฐดัตช์เสียเมืองนาคปัตตินัม[Negapatnam]จากรัฐทมิฬนาฑูประเทศอินเดียให้บริเตนใหญ่
- จอร์จ วอร์ชิงตัน ได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา
จบกันไปแล้วกับการปฏิวัติอเมริกานะคะ แต่ว่าการปฏิวัติฝรั่งเศสเกี่ยวอะไรกับการปฏิวัติอเมริกาล่ะ? แล้วเกิดอะไรขึ้นตามมา? อะแฮ่ม กดติดตามรอดูตอนต่อไปได้นะคะ
อย่าลืืมคอมเม้นท์ กดไลก์ กดแชร์ หรือจะช่วยโดเนทเพื่อสนับสนุนค่ากาแฟและการพัฒนาคอนเท้นท์คุณภาพนะคะ รัก <3
ขอขอบคุณภาพฟรีๆสวยๆทั้งหมดจาก Pixabay ค่า
10 บันทึก
4
2
13
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
History - ประวัติศาสตร์น่ารู้ ที่คุณอาจจะอยากรู้ หรือที่คุณอาจจะรู้แล้ว หรือที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน
10
4
2
13
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย