บ้านตรงใจ...ไม่ตรอมใจ (ตอนที่ 3)
จ้างทีมงานสถาปนิกออกแบบดีไหม
หลายคนอาจคิดว่า จะจ้างทำไมให้เสียเงินเปล่าๆ บ้านฉัน ฉันสั่งผู้รับเหมาจะเอาแบบนั้นแบบนี้เองก็ได้นิ เคยจัดห้องเองไหมครับ แล้วพบว่า ตู้โต๊ะ เตียง วางแล้วดูไม่เข้าที่เข้าทาง จะเดินเปิดหน้าต่างอาจต้องมีการเดินหลบเตียง หรือเอื้อมมือข้ามโต๊ะทำงานเพื่อเปิดปิดหน้างต่าง หรือซื้อเตียงมาตั้งแล้วกลับดูเกะกะห้อง ดูใหญ่เกินไป หรือพบว่าห้องดูรกมาก ทั้งที่พยายามจัดแล้วก็ตาม ลามไปจนถึงสี สไตล์ของเฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่านที่เลือกที่ชอบแล้วแต่ทำไมดูไม่สวย ไม่เข้ากัน แม้กระทั่งการเกิดปัญหาการลื่นล้มในห้องน้ำ ห้องรับแขกหรือบริเวณอื่นๆ เหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาท่ีแก้ได้หรือป้องกันได้ตั้งแต่ออกแบบ
แล้วถ้าจ้างออกแบบ เราจะได้อะไรบ้าง
การออกแบบคืออะไร บางคนอาจเข้าใจว่าแค่ทำอะไรสวย ทำอะไรที่เท่ห์ แต่จริงๆแล้วการออกแบบเป็นงานวางแผนนะครับ
วางแผนอะไร ก็วางแผนชีวิตคุณไงครับ
1.วางแผนการใช้ชีวิตในปัจจุบัน
อันนี้เป็นหลักการพื้นฐานของผู้ออกแบบเลยครับที่ต้องรู้ความน้องการของเจ้าของบ้านว่าต้องการอะไร และถ้าจะให้ดีคือการเจาะลึกไปถึงวิธีการใช้ชีวิตของเจ้าของและสมาชิกคนอื่นๆในบ้าน วางแผนแก้ไขเพื่อลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อเข้าใช้งาน เช่นคนหนึ่งชอบมีปาร์ตี้ ในขณะที่อีกคนชอบอยู่แบบสงบๆ ทำอย่างไม่ให้งานปาร์ตี้ไปกวนชีวิตอันสงบของอีกคน
2.วางแผนชีวิตในอนาคต
เช่นการวางแผนเพื่อการมีลูกซักคนสองคน วางแผนไว้เผื่ออนาคตแก่ๆตัวไม่อยากเดินขึ้นบันไดไปนอนชั้นบน สถาปนิกสามารถจัดเตรียมแบบไว้ให้ได้ว่าเมื่อวันนั้นๆมาถึงจะปรับเปลี่ยนพื้นที่อย้่างไรให้ตอบสนองความต้องการของเราและในขณะเดียวกัน เรายังใช้ชีวิตได้อย่างปกติในวันนี้ด้วย
3.วางแผนค่าใช้จ่าย
3.1.ค่าใช้จ่ายตอนเริ่มโครงการ ในการว่าจ้างสถาปนิกทำการออกแบบ เมื่อเราได้แบบที่สมบูรณ์ออกมาแล้ว เราสามารถให้ผู้รับเหมาก่อสร้างคิดราคาค่าใช้จ่ายๆจริงก่อนได้ ถูกแพงยังปรับลดในแบบได้ เราจะได้เห็นค่าใช้จ่ทั้งหมดหรือ8-90% ก่อนที่เราจะลงมือทำจริง
3.2.เมื่อเราเข้าไปอยู่ ถ้าสถาปนิกออกแบบมาดี เราจะประหยัดค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ และแรงกายเราไปได้มาก เช่นถ้าออกแบบให้ห้องสามารถเปิดหน้าต่างรับลมและระบายอากาศได้ ไม่ต้องเปิดแอร์ตลอดเวลา หรือออกแบบแล้วไม่ให้เกิดมุมมืดที่เราต้องเปิดไฟแม้ในเวลากลางวัน อันนี้ก็เท่ากับช่วยใประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้ในระยะยาว หรือการใช้เทคนิค advance ในการออกแบบบ้านประหยัดพลังงาน
หรือการออกแบบให้ประหยัดน้ำ เช่นการออกแบบให้สามารถรวบรวมน้ำฝนมาใช้ในการรดน้ำต้นไม้ได้ เราก็จะประหยัดน้ำไปอีก
3.3.การออกแบบให้มีการใช้พื้นที่ที่คุ้มค่าที่สุดกับเงินที่เสียไป ไม่เกิดเป็นพื้นที่เสียเปล่าที่ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้
3.4.ประหยัดแรงกาย เช่นการออกแบบให้บริเวณแต่งตัวหรือบริเวณแต่หน้าอยู่ใกล้กับห้องน้ำทำให้เราไม่ต้องเดินกลับไปกลับมากเกินความจำเป็น เป็นต้น
4.วางแผนเพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยหรืออาจเกิตในอนาคต หรือให้สามารถดูแลได้ง่าย เช่นการออกแบบจุดรับน้ำให้มีขนาดใหญ่กว่าปกติและมีการดูแลที่ง่ายไม่ยุ่งยากไม่จำเป็นต้องตามช่างมาทำเสมอไป
5.วางแผนเพื่อลดปัญหาด้านสุขภาพเช่นการลดซอกมุมเพื่อลดฝุ่น การเลือกวัสดุผิวที่ค่อนข้างฝืดเพื่อกันการลื่น การใช้วัสดุที่ไม่มาสารพิษระเหยออกมา ดังนี้เป็นต้น
6.ได้เห็นบ้านที่จะเสร็จก่อนการก่อสร้างจริง ในการออกแบบของสถาปนิกจะมีการนำเสนอภาพ Perspective(ทัศนียภาพ)ของบ้านเมื่อสร้างเสร็จให้เราดู หรือบางครั้งจะทำเป็น Model(หุ้นจำลอง)ของบ้านให้เราดูก่อน เราก็สามารถเห็นได้ก่อนจะสร้างมีอะไรจะแก้จะได้แก้ทันเพราะการแก้บนกระดาษค่าใช้จ่ายถูกกว่าการแก้ระหว่างก่อสร้าง
ฝากข้อคิดเหล่านี้ ไว้ให้พิจารณานะครับ วันไหนมีโอกาสจะสร้างอาคาร ลองพิจารณาหาทีมงานสถาปนิกมาออกแบบดูนะครับ เพื่อให้บ้านตรงใจ...ไม่ตรอมใจ หรือเครียดจนเพลียใจนะครับ
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
