Blockdit Logo (Mobile)
นกอ้วนสีน้ำเงิน
•
12 ก.ค. 2020 เวลา 05:54 • ปรัชญา
ควาามคิดติดลบ! (Negative Thinking)
ความคิดติดลบ คือสิ่งที่ทุกท่านทุกคนน่าจะเคยเผชิญผ่านมันมาบ้าง "ความคิดติดลบ" หรือการคิดแบบ Negative Thinking น่าจะเป็นสิ่งปกติ ที่คนเราทุกคนสามารถมีกันได้ มันจะเกิดขึ้นเป็นครั้งเป็นคราว แต่หลังจากที่ผมได้ทำความเข้าใจมัน ผ่านมุมมองของคนอื่น จากผู้ที่ต้องเผชิญมันในทุกวัน ทุกเวลา ทำให้ทราบว่า Negative Thinking เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องทำความเข้าใจ ผมเขียนบทความนี้ เพื่อนำเสนอมุมมองความคิด ตามความเข้าใจของผมเอง
ขอขอบคุณ คุณ The Minds Journal link: https://pin.it/6HTI68q
เรื่องราวความเข้าใจ เรื่อง Negative Thinking ของผมได้เริ่มต้นขึ้นในวันหนึ่ง ผมได้พูดคุยและแลกเปลี่ยนมุมมอง ในเรื่องต่าง ๆ กันกับผู้ที่กำลังป่วยเป็น "โรคซึมเศร้า" ท่านหนึ่ง หนึ่งในเรื่องที่เราคุยกันคือ "ความสุขที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน"
ผมสอบถามมุมมองในเรื่อง "ความสุข" คำตอบที่กลับมา ทำให้ผมตกใจและเริ่มสนใจมุมมองของเขามากขึ้น คำตอบนั้นคือ "ในการใช้ชีวิตกับสิ่งแวดล้อมที่กำลังเผชิญอยู่ เขาไม่มีความสุขเลย" ผมลงลึกไปอีกครั้งว่า "สิ่งแวดล้อม ที่หมายถึง มีอะไรบ้าง" เค้าบอกสิ่งแวดล้อมที่เค้าต้องเจอ ใน 1 วัน มีหลักก็คือ
1.สิ่งแวดล้อมที่ทำงาน
2.สิ่งแวดล้อมที่บ้าน (ครอบครัว)
และอีกสิ่งหนึ่ง ที่ส่งผลมาก ๆ คือ ตัวของเขาเอง สาเหตุ เริ่มต้นที่สิ่งแวดล้อมทำให้เขาต้องเจ็บปวด ความเจ็บปวดนั้น เปรียบเหมือน โดนตราประทับเหล็กร้อน ๆ จี้เข้าที่กลางอก ถึงแม้ความเจ็บปวดนั้นจะหายไป แต่รอยประทับยังคงชัดเจนและคอยทำให้นึกถึงมันอยู่ ทุกๆ เมื่อ และเมื่อพบเจอกับความทุกข์จากสิ่งแวดล้มเดิม ๆ ทำให้มันทวีคูณความเจ็บปวดเพิ่มไปอีก
ภาพประกอบ ตราประทับ
ไม่ใช่แค่ความทุกข์เท่านั้นที่ส่งผล แม้แต่ตอนที่สิ่งแวดล้อมมันน้อมนำความสุขมาให้ รอยประทับมันก็ส่งผลเช่นกัน ส่งผลเป็น สองรูปแบบ
1.ไม่เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือความสุข ไม่ว่าจะมากน้อยแค่ไหน เพราะสิ่งที่เคยประทับเอาไว้ ไม่ใช่ความสุข แต่มันคือความทุกข์ ดังนั้นที่เราเจออยู่ "เป็นสุขจอมปลอม"
2.ต่อให้ยอมรับว่าคือความสุข แต่มันช่างน้อยนิดนัก ถ้าเทียบเปรียบกับความทุกข์ ที่ได้รับ ตราประทับยังคงชัดเจน "ทดแทนกันไม่ได้"
ดังนั้นเมื่อใดที่เกิดความทุกข์ ตราประทับจะทำให้เราเจ็บปวดเป็นพิเศษ และถ้าเมื่อใด ที่ใจเราเริ่มเป็นสุข ตราประทับจะปรับความคิดของเรา ด้วยผลทั้งสองรูปแบบด้านบน ทำให้เรามองความสุขนั้นเป็นความทุกข์ ซะแทนหรือไม่ก็ทำให้ความสุขที่เกิดขึ้น ถดถอยน้อยลงไปอีก ตราประทับแห่งความเจ็บปวดนี้ ที่ทำเราตกอยู่กับความทุกข์ ผมมองว่ามันคือสาเหตุของ Negative Thinking หรือ ความคิดติดลบนั้นเอง เพื่อให้ท่านผู้อ่านเข้าใจมากขึ้น ผมขออธิบายดังนี้
สำหรับผมแล้วความสุขหรือความทุกข์ ถูกแบ่งดังภาพครับ
ภาพอธิบาย ระดับความรู้สึกผม
จะเห็นว่าผมแบ่งความสุขและความทุกข์ ด้วยเส้นสีแดง อยู่ที่ 0,0 เลยถ้ามีความสุขแม้เพียงแค่ +1 ผมก็ถือว่านั้น มันเป็นความสุข และเมื่อเกิดทุกข์ -1 สำหรับผมก็อาจมองได้ว่า มันห่างจากความสุข เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
สำหรับท่านที่ผมได้พูดคุย ผมพยายามนำคำพูดลองเขียนกราฟเหมือนกันดู ผมคิดว่าได้ประมาณรูปนี้ครับ
ภาพอธิบายความรู้สึกของท่านที่ผมพูดคุยด้วย
จะเห็นชัด ๆ เลยระดับเส้นสีแดงที่แบ่งความสุขและทุกข์ นั้นยกขึ้นไปสูงมากขึ้น ต่อให้มีความสุข +1 ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกมีความสุข เพราะตราประทับ ยังคงปรับสุขกลับเป็นทุกข์ ตาม 2 สาเหตุที่ด้านบน
หากเกิดทุกข์ เพียงแค่ -1 ระยะห่างจากความสุข มันช่างห่างไกล ในความทุกข์นี้ จึงทวีความเจ็บปวดมากขึ้นไปอีก
ท่านผู้อ่านพอจะเห็นภาพนะครับ ความคิดติดลบ มันมีผลกับความสุขอย่างไร แล้วท่านใดที่กำลังเผชิญ กับมันอยู่ เราควรจะทำอย่างไร
ผมและท่านที่ผมได้พูดคุยแรกเปลี่ยน ลองพยามหาคำตอบของทางออก ในเรื่องนี้ หลังจากคิด เราก็ตกผลึกกันได้ว่า Negative Thinking มันเกิดขึ้นจาก ตัวเราเอง ดังนั้นเราต้องแก้ที่ตัวเราเอง ! แล้วมันอย่างไรล่ะ
ขอขอบคุณ คุณsaN
คำตอบคือ "เมื่อไหร่ที่เรายอมรับ และเข้าใจในตัวเราเอง รู้ตัวเองว่า เรากำลัง คิดติดลบอยู่ และเราไม่อยากทำมัน ให้มองว่าเรื่องในอดีตยังคงเป็นอดีต ที่สอนใหเรา เติบโตและแข็งแกร่ง แต่นั้นไม่ใช่ปัจจุบัน อย่านำอดีตมาใช้ตัดสินทั้งหมด ให้เราตกผลึกเรื่องราวในปัจจุบันและตัดสินใหม่ ทุกครั้ง" นี้คือคำตอบของเขา
จากที่ฟังผมขอสรุป ดังนี้ครับ
* เข้าใจตัวเอง ทำได้โดยการตรวจสอบตัวเอง ถามตัวเองในปัญหาที่เกิด และถามลงรายละเอียด ลึกลงๆ ไปเรื่อยๆ จนเราเข้าใจตัวเราอย่างแท้จริง แล้วเราจะรู้ทางออก ของปัญหานั่นๆ (อาจทำได้โดยการปรึกษา พูดคุยกับ ผู้ฟังที่ดี แล้วผมจะมารีวิว วิธีการเป็นผู้ฟังที่ดีใน บทความหน้าครับ)
* ไม่นำคำตัดสินในอดีต มาใช้ตัดสินปัจจุบัน การตัดสินให้ตัดสินจากความคิดความเข้าใจปัจจุบันของเรา โดยทำมันหลังจาก "เข้าใจตัวเองแล้ว" ส่วนเรื่องในอดีต มันได้หล่อหลอมความคิดของเราแล้ว ดังนั้นไม่จำเป็นเลย ในการใช้อดีตมาตัดสิน
* การปล่อยวาง ผมมองว่ามันสำคัญมาก ๆ มันคืออะไร มันคือการ Reset กราฟค่าความรู้สึก ทำให้ Negative Thinking ไม่สามารถส่งผลกับจิตใจได้ นั้นจะทำให้เรา มีความสุข และหายจากความทุกข์ได้ง่ายขึ้น
ผมหวังว่าบทความนี้ จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย แก่ท่านผู้อ่านที่สนใจและผมขอเป็นหนึ่งกำลังใจ ให้ท่านที่ประสบปัญหาไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม ให้ท่านผ่านมันไปด้วยดี ด้วยความจริงใจจากเพจนกอ้วนสีน้ำเงิน "เป็นกำลังใจให้ครับ"
หากท่านใดต้องการสนับสนุนเพจนกอ้วนสีน้ำเงิน เพียงแค่ท่าน กด Link กดแชร์ หรือ Comment และ กด Follow เพจนกอ้วนสีน้ำเงิน เพียงเท่านี้ท่านก็เป็นผู้สนับสนุนเราอย่างเป็นทางการแล้วครับ และต้องขอขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ ที่ส่งมาให้ เพจนกอ้วนสีน้ำเงิน ขอขอบคุณมากๆครับ
จากนักเขียนผู้พยายาม "นกอ้วนสีน้ำเงิน"

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา