Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องของลุง..ทัฟฟี่
•
ติดตาม
10 ก.ค. 2020 เวลา 11:12 • ไลฟ์สไตล์
#ช่วงนึงของ...ชีวิตใน"ผ้าเหลือง"...ep.1
จะเขียนเล่าเรื่องของลุงทัฟฟี่ ในช่วงเวลา 5 เดือน ที่ได้บวช ดูคราว ๆ แล้ว น่าจะไม่จบในตอนเดียวเป็นแน่ มีหลายเรื่องที่อยากจะเล่า เอาเป็นว่านึกอะไรได้จะก็เขียนลงไปก็แล้วกันนะ อย่างน้อยก็ได้เก็บไว้เป็นความทรงจำช่วงนึงของชีวิต ก็คงจะเขียนเป็นช่วง ๆ ตามทามไลน์ไล่อ่านไปเลย.....เริ่มจาก
ขอบคุณรูปสวย ๆ ถ่ายโดย...ป้อเสก ก้าวเล็ก ด้วยนะครับ
"ก่อนบวช...."
ถามกันเยอะ...ทำไมบวช ? 5555
.
เอาง่าย ๆ สั้น ๆ ก็คือช่วงนั้นอ่านเยอะ(ใน BD นี่ด้วยล่ะ) เลยฟุ้งไง ฟุ้งซ่าน ใจไม่นิ่ง สงสัย มีคำถาม อยากรู้ อยากพิสูจน์....
แปลกใจนะ ทำไมเวลามีคนบวช คนชอบนึกว่าคนนั่นมีปัญหา มีทุกข์ เลยหนีบวช เป็นความคิดที่แปลก ๆ เออ แต่ก็จริงนะ คนมีทุกข์ ชอบหนีทุกข์ไปบวช
ชีวิตผมไม่ได้มีปัญหาหนักหนาอะไร แค่เกิดอยากรู้ว่า บวชแล้วเป็นไง ? ความสุขในธรรมะเป็นยังไง ? สุขจากสงบเป็นยังไง ? เดิน ๆ เล่นอยู่ เลยโทรไปปรึกษาผู้ใหญ่ ว่าจะบวชจะยุ่งยากไม๊
ท่านบอกไม่ยุ่ง ไม่ยาก เลยเอาวะ บวชก็บวช รีบเคลียร์ธุระ ภาระกิจส่วนตัว พักงานไว้ เอาว่าเคลียร์ชีวิตแบบไม่มีอะไรให้ห่วง
พอจะบวช สิ่งนึงที่ โค-ตะระ กลัว ก็ต้องท่องบทสวด ขอบวช เนี๊ยแหระ
โอ้ย !!! เพราะก่อนนั่นได้ยินว่า ท่องยากมาก ยาวมาก บางคนต้องท่องกันเป็นเดือน ๆ
แล้วกูจะรอดไม๊ว่ะ ยิ่ง ก๊ง ๆ อยู่ !!!!
เล่มนี้พระทุกรูปต้องมีคิดตัวเลย
มุ่งมั้นกับการท่องจำ บทสวด เปิดยูทูปดูคลิปเยอะมาก ดีนะเรื่องการเตรียมงานบวช มีคนจัดการดูแลให้ ก็เลยไม่ต้องคอยห่วงอะไร มีหน้าที่ ท่อง ๆ อย่างเดียว ตื่นท่อง เดินท่อง ท่อง ๆๆๆๆ
เฮ่ย....พอฮึดเอาจริงเหมือนมีอะไรดลใจ ใช้เวลาท่องแค่ 5 วัน ก็ท่องจำบทหลัก ๆ ได้เกือบหมด
เชี๊ยย...กุทำได้ไง งง !!!!
ขั้นต่อไป เดินสาย ขอขมาญาติผู้ใหญ่ ที่นับถือจ้าาาาา
ผู้ใหญ่หลายคน ไม่ได้ติดต่อกันนานมาก พอมีโอกาสได่เข้าไปกราบลาบวช เจอกันถึงกับอึ้ง วันเวลาที่ผ่านไป หลายคนเหมือนไม้ใกล้ฝั่ง บางคนหลง ความจำเสื่อมไปตามเวลา และสภาพสังขาลร่างกาย
ความทรงจำในวัยเด็กที่เคยผูกพันธุ์กับ ญาติ ๆ พวกนี้ วิ่งเข้ามา.....เวลามันชั่งเดินได้เร็วจริงๆ
.
.
"นี้คือบทเรียนบทแรก....ที่ได้เรียนรู้"
ภาพจาก pixabay
"ชีวิตพระใหม่...."
วันที่ 1 ก.พ. 2563 วันแรกในชีวิตภายใต้ผ้าเหลือง พิธีการผ่านไปได้ด้วยดี แบบเรียบ ๆ ง่าย ๆ ไม่มีดนตรี ไม่มีแตรวง ไม่มีทำขวัญนง ขวัญนาคอะไรทั้งนั้น เรียกว่าโกนหัวเข้าวัดเลยก็ว่าได้นะ (รีบเหมือนโจรหนีคดีเข้าวัด)
โบสถ์วัดเขาแก้ว วรวิหาร
ชีวิตพระใหม่ ปัญหาแรกที่เจอคือ "การห่มผ้า" เกิดมาเคยแต่นุ่งกางเกง ใส่เสื้อ ใส่กางเกงใน แต่เมื่อเป็นพระ ตามพระวินัย พระพุทธเจ้าทรงอนุญาติให้พระภิกษุ มีเครื่องนุ่งห่มได้เพียง 3ชิ้น (เรียกรวมกันว่าผ้าไตรจีวร)
คือ จีวร(คือผ้าห่ม), สบง (คือผ้านุ่ง),
ส่วนสังฆาฏิ(คือผ้าพาด สำหรับกันร้อน กัน หนาว)
***ภายหลังอนุญาติให้มีผ้าอาบน้ำฝนเพิ่มได้อีกผืนนึง เป็นผืนที่ 4
ช่างภาพงานบวช ป้อเสก คนเดิม
สีของจีวรพระ
จีวร หรือเครื่องแบบของพระภิกษุ นับว่าเป็นเครื่องแบบที่เก่าแก่ที่สุด มีมากว่า 2500 ปีมาแล้ว สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดคือ ด้วยผ้าธรรมดาๆ พระสามารถห่มได้หลายแบบมากกก หลักๆก็มีอยู่ 3 รูปแบบ
คือ
1. ห่มลดไหล่
2. ห่มคลุม
3. ห่มดอง
"การห่มลดไหล่"
เป็นการห่มจีวรแบบคลาสสิค คือการจับชายผ้าม้วนเข้าหากัน แล้วสะพายไว้ที่ไหล่ซ้าย เปิดไหล่ขวา
การห่มแบบนี้เป็นการห่มอย่างทางการ นิยมห่มไปไหว้พระ สวดมนต์ หรืออยู่ในเขตวัดวาอารามครับ ถ้าเทียบกับชุดเราๆ ก็ประมาณเสื้อเชิ้ต เสื้อโปโล กางเกงขายาว จัดเป็นเรียบร้อยอยู่ (ใครว่าพระห่มไม่เรียบร้อย โชว์ไหล่โชว์ผิวเนื้อ จะบอกว่านี่โคตรเรียบร้อยเลยนะ ไม่เรียบร้อยคือไม่ใส่จีวรจ้า อันนี้เท่ากับใส่เสื้อกล้ามอยู่บ้านอะ)
**แต่ถ้าจะให้เป็นทางการ พิธีการ ก็ต้องพาดสังฆาฏิ (ผ้าขนาดจีวรนี่แหละที่ไม่ได้คลี่ออก แต่เอามาพับซ้อนกันเพื่อพาดบนไหล่ซ้าย) ชุดนี้จะเท่ากับเสื้อแขนยาวมีปก ผูกไท ใส่สูทเลยทีเดียว
การห่มลดไหล่
"การห่มคลุม"
เป็นการห่มจีวรแบบคลาสสิคเหมือนห่มลดไหล่นั่นแหละ ที่ต่างคือจะห่มคลุมไหล่ทั้งสองข้าง แบบนี้ไว้ใช้ห่มเวลาออกนอกวัด เช่น ไปบิณฑบาต ไปกิจนิมนต์ตามบ้าน หรือสถานที่ที่มีชาวบ้านเยอะๆ จะได้ดูเรียบร้อย
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณาย
การห่มคลุมเมื่อออกบิณฑบาตร
"การห่มดอง"
เป็นการห่มแบบโมเดิร์น ใช้สำหรับงานพิธีการหรือทางการก็ได้ เพราะดูเรียบร้อย มีระเบียบและสวยงาม จุดเด่นคือเราจะไม่พึ่งพาการม้วนแล้ว แต่จะพับผ้าทบไปมาแล้ว "มัด" แทนด้วยสิ่งที่เรียกว่าผ้ารัดอก (ต้องเพิ่มขึ้นมาอีกชิ้น)
พระที่ห่มดองจะพาดสังฆาฏิด้วย ซึ่งจะเป็นชุดที่เรียบร้อยมาก เป็นชุดสูทของพระ ระดับเดียวกับ การห่มลดไหล่ที่ เลยทีเดียว
***การห่มผ้าของสามเณรนั้น สามเณรเองก็ห่มดองเหมือนพระ ต่างกันที่พระมีสังฆาฏิ แต่สามเณรไม่มีผ้าสังฆาฏิ
การห่มดอง...ภาพจาก google
ปัญหาของพระบวชใหม่(รวมถึงลุงทัฟด้วย) กว่าจะห่มผ้าเองได้คล่องได้สวยต้องใช้เวลาพอสมควร แรก ๆ ก็มีพระพี่เลี้ยงช่วยแหระ แต่หลายวัน ๆ เข้าก็เกรงใจท่าน ก็ต้องพยายามฝึกห่มด้วยตนเอง ห่มผ้าวันแรก ๆ เชื่อว่าพระใหม่ทุกรูป ลุ้นกลัวจีวรปลิวกันทั้งนั้น ห่มแล้วบางรูปทั้งรัดทั้งหนีบกันแทบหน้าเขียว ก็กลัวหลุดอ่ะเนอะ
ผ้าแค่ 3 ผืน สามารถมาพันเป็นแขน เป็นเสื้อได้ แถมผ้าที่พระเอามาห่อตัวชั้นนอกนั้นเป็นผ้าผืนใหญ่ๆ บางๆ อยู่บนตัวพระได้โดยไม่ได้ใช้กระดุมหรือซิปเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
แค่ใช้วิธีการม้วนหรือมัดเท่านั้นเอง แถมใส่ได้ทุกคน ไม่ว่าจะอ้วน จะผอม ใครผอมก็ม้วน ๆๆ มัด ๆๆ พันให้แน่นๆ ใครอ้วนก็คลายออกมา
ในความรู้สึกพระใหม่ตอนนั้น บอกเลยน่าทึ่งที่สุดเลย !!!!
ภาพจาก pixabay
ใช้ชีวิต.....5 เดือนกับผ้า 3ผืน (มี2ชุด)
เป็นชีวิตที่ไม่ต้องยุ่งยาก ว่าวันนี้จะใส่เสื้อสีอะไร ชุดไหน จะเข้ากันไม๊ วันนี้จะใส่ยีนต์ กับเสื้อยืดหรือเชิ๊ตสีไหนดี
.
.
.
"ชีวิตเราจะต้องการอะไรมากมาย..."
(ประกายความสุขเริ่มแว๊บๆเข้ามา)
เราย่อมพิจารณาโดยแยบคายแล้ว
.
นุ่งห่มจีวร เพียงเพื่อบำบัดความหนาว
.
เพื่อบำบัดความร้อน
.
เพื่อบำบัดสัมผัสอันเกิดจาก เหลือบ ยุง ลม แดด และสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย
.
และเพียงเพื่อปกปิดอวัยวะอันทำให้เกิดความละอาย
.
นี่คือบทสวดที่พระจะท่องทุกวัน....
****แปลมาให้เรียบร้อย จริงๆสวดเป็นภาษาบาลี
ขอบคุณที่ตามอ่าน
พรุ่งนี้จะเล่าเรื่อง กิน นอน สวดมนต์
ให้อ่านกันต่อนะครับ.....
1 บันทึก
45
77
7
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
#ช่วงนึงของ...ชีวิตใน"ผ้าเหลือง"
1
45
77
7
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย