Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
คลังความรู้ by SpokeDark
•
ติดตาม
13 ก.ค. 2020 เวลา 09:00 • ประวัติศาสตร์
ปลดแอกแล้วยึดครอง! ย้อนอดีต 'สงครามฟิลิปปินส์-อเมริกัน' เมื่ออเมริกาก่อสงครามกับฟิลิปปินส์ด้วยความหวังดี
WIKIPEDIA PD
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
ย้อนกลับไปในปี ค.ศ.1898 สหรัฐอเมริกาและสเปนได้มีความขัดแย้งกัน จนทำให้เกิดสงครามขึ้นมา โดยในขณะนั้นฟิลิปปินส์มีผู้นำคนสำคัญที่มีชื่อว่า เอมิลิโอ อกิลนัลโด ที่ได้รวบรวมสมัครพรรคพวกเรียกร้องเอกราชให้แก่ฟิลิปปินส์ภายใต้การสนับสนุนของสหรัฐฯ จนสามารถปลดแอกฟิลิปปินส์จากการเป็นประเทศราชของสเปนมานานกว่า 300 ปี
ได้เป็นผลสำเร็จ จนนำมาสู่การสถาปนาสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ที่ 1 ในเวลาต่อมา
เอมิลิโอ อกิลนัลโด ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนแรกของฟิลิปปินส์ เนื่องจากสหรัฐฯ ได้รับชัยชนะเหนือสเปนในดินแดนอาณานิคมจนทำให้สเปนต้องเซ็นสัญญาสงบศึกโดยการยกฟิลิปปินส์ไปเป็นรัฐในอารักขาของสหรัฐฯ จนนำมาสู่การต่อต้านของ
ชาวฟิลิปปินส์ และเกิดสงครามฟิลิปปินส์-อเมริกัน ที่กินระยะเวลายืดเยื้อนานกว่า 14 ปี
WIKIPEDIA PD
ฝ่ายสหรัฐอเมริกา ได้ให้เหตุผลที่ต้องทำสงครามในครั้งนี้ ก็เพราะพวกเขาต้องการปลดปล่อยคิวบา เปอร์โตริโก และฟิลิปปินส์ จากเผด็จการสเปน โดยเฉพาะฟิลิปปินส์ สหรัฐฯ มองว่าพวกเขาจำเป็นต้องเข้าไปปกป้องประเทศแห่งนี้จากเจ้าอาณานิคมยุโรปที่รอโอกาสในวันที่สหรัฐฯ ถอนตัวออกจากภูมิภาคนี้ และสหรัฐฯ เอง จำเป็นที่ต้องสอน
ระบอบประชาธิปไตยแบบอเมริกันให้ชาวฟิลิปปินส์ได้เรียนรู้อีกด้วย
ทางด้านฟิลิปปินส์เอง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะสามารถปลดแอกตัวเองจากเจ้าอาณานิคม
สเปน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขาได้ซึมซับวัฒนธรรมจากเจ้าอาณานิคมสเปนมากพอสมควร โดยในช่วงนั้นฟิลิปปินส์ยังมีระบบชนชั้นวรรณะที่ติดพันมาจากยุคอาณานิคมสเปน โดยกลุ่มผู้ปกครองผู้เรียกร้องเอกราชของประเทศประกอบไปด้วยกลุ่มผู้มีการศึกษา
หัวหน้าชนเผ่า เจ้าของธุรกิจ ในขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังเป็นชาวนาที่ยากจน จึงเป็นงานยากของเอมิลิโอ อกิลนัลโด ที่จะต้องผสานความแตกต่างระหว่างชนชั้นของผู้คนในฟิลิปปินส์ให้หลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน
WIKIPEDIA PD
แน่นอนว่าฟิลิปปินส์ในตอนนั้นยังไม่ได้มีเสถียรภาพมากนัก เมื่อต้องทำสงครามกับสหรัฐฯ ชาวฟิลิปปินส์ก็พยายามต่อสู้ จนกินเวลายืดเยื้อนานถึง 14 ปี ก่อนที่ฟิลิปปินส์จะกลายมาเป็นรัฐในอารักขาของสหรัฐฯ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เสียด้วยว่า สหรัฐฯ เองก็ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดกับชาวฟิลิปปินส์ที่คิดต่อต้านเหมือนกัน
ในช่วงเวลาที่ปกครองฟิลิปปินส์ สหรัฐฯ ได้ทำการส่งเสริมวัฒนธรรมการปกครองแบบเสรีประชาธิปไตย พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ขยายโอกาสทางการศึกษาและสาธารณสุข ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ฟิลิปปินส์มีคนพูดภาษาอังกฤษมากที่สุดในเอเชีย มอบโอกาสให้
ฟิลิปปินส์ได้มีโอกาสร่วมพัฒนาประเทศ และเตรียมร่างแผนมอบเอกราชคืนให้ฟิลิปปินส์ภายใน 10 ปี (เริ่มประกาศใช้ตั้งแต่ปี ค.ศ.1935) แต่มาเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง
เสียก่อน
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ได้กลับมาปลดปล่อยฟิลิปปินส์จากการยึดครองของญี่ปุ่น โดยนายพลดัลลาส แม็คอาเธอร์ ที่เคยให้สัญญากับชาวฟิลิปปินส์ไว้ว่า ‘ข้าพเจ้าจะกลับมา’
และเขาก็ได้กลับมาตามที่ได้สัญญาเอาไว้ และสหรัฐฯ ก็ได้มอบเอกราชให้ฟิลิปปินส์ใน
วันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ.1946 ถึงแม้ก่อนหน้านั้น สหรัฐฯ จะได้ชื่อว่าฉวยโอกาสรุกรานฟิลิปปินส์ ที่พึ่งประกาศเอกราชจากสเปนได้ไม่นาน จนทำให้เกิดสงครามยืดเยื้อนานกว่า
14 ปี แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สหรัฐฯ ได้เข้ามาช่วยสร้าง ช่วยพัฒนาและวางรากฐานให้กับฟิลิปปินส์เอาไว้มากมาย แตกต่างจากสมัยทีฟิลิปปินส์เป็นอาณานิคมของสเปนเป็น
อย่างมาก
จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม เรามักเห็นชาวฟิลิปปินส์พูดภาษาอังกฤษได้คล่อง มีวัฒนธรรมที่ดูแตกต่างจากเพื่อนบ้านอาเซียนทั้งหมด กล่าวคือ วัฒนธรรมและบุคลิกของชาว
ฟิลิปปินส์ดูเหมือนชาวลาตินอเมริกามากกว่านั่นเอง
ส่วนเรื่องความสูญเสียในช่วงสงคราม ทั้งสองประเทศเลือกที่จะมองข้ามไป โดยให้เหตุผลว่า มันเป็นเรื่องปกติของสงครามที่ต้องมีความสูญเสีย เพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดี
ระหว่างสองประเทศสืบไป
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
5 บันทึก
13
1
4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
สงครามในประวัติศาสตร์โลก
ประวัติศาสตร์ I
5
13
1
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย