‘...เวลาปัจจุบัน...ณ ห้องประชุม ’
“ ผลั๊ก ” สิ้นเสียงของเขมิกา เสียงผลักประตูห้องประชุมก็ดังขึ้น พร้อมกับร่างสูงก้าวเข้ามา ทุกคนในห้องประชุมมองไปตำแหน่งเดียวกันทันทีอย่างไม่ต้องนัดหมาย
คริสต์ ขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อมองมาที่ห้องประชุมที่ทุกคนพร้อมใจหันมามองที่เขา แต่นั้นไม่ทำให้คริสต์เกิดการประหม่าแต่อย่างใด เขาทำเพียงมองไปยังกลุ่มคนเหล่านั้น และพบรอยยิ้มของคุณหญิงศศิธรและเขมิกา
“นี่แหละค่ะ!...นักแสดงนำชายของเรา” สิ้นเสียงของเขมิกา ทุกสายตาย้ายมามองเธอทันที เพราะทุกคนในห้องแห่งนี้ยกเว้นเพียงผู้กำกับ ที่พึ่งรู้ว่า คริสต์ ทายาทของคุณหญิงศศิธร คือนักแสดงนำชายของ ‘พ่ายกลซาตาน’
คริสต์ย้ายสายตาไปมองเขมิกา ด้วยใบหน้าที่ไม่มีใครสามารถเดาอารมณ์ของเขาได้ ใช่! ความรู้สึกเดียวที่คริสต์รู้สึกอยู่ตอนนี้คือ เซ็ง! ไม่ใช่เขาไม่รู้มาก่อน เขารู้เรื่องที่ตัวเองต้องเล่นละครเมื่ออาทิตย์ก่อน....
“อะไรนะครับ!!!!คุณแม่...พี่เขม...ผมกำลังเข้าใจอะไรผิดเหรอเปล่า?” คริสต์ ที่นั่งทานมื้อเย็นที่บ้านคุณหญิงศศิธร ที่มีเพียงเขา คุณแม่ และเขมิกา
“ไม่ผิดเลยสักนิด...คุณคริสต์เข้าใจถูกต้องแล้ว...คุณน้าและพี่กำลังจะให้คริสต์เล่นละครเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงให้กับตัวคุณคริสต์เอง เพื่อเป็นที่ยอมรับของสังคม...และวิธีเดียวที่ดีที่สุดและได้ผลอย่างแน่นอน คุณคริสต์ต้องเป็นนักแสดงนำชายของบทประพันธ์ที่กำลังมีกระแสอยู่ตอนนี้ ‘พ่ายกลซาตาน’ ของ ‘สำนักพิมพ์ข้อเขียน’ ...ซึ่งเจ้าของสำนักพิมพ์คุณน้ารู้จักกัน”
“เพื่ออะไร?” คริสต์หันไปถามเขมิกา
“เมื่อสัปดาห์ก่อนวันประชุมคณะบริหาร คุณน้าเสนอในที่ประชุมที่ให้คุณคริสต์ขึ้นมาเป็นประธานบริหารต่อจากท่าน...” เขมิกาบอกข้อสรุปในที่ประชุมให้คริสต์ฟังอย่างละเอียด
“อะไรนะครับ!...ทำไมผมไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน” คำถามนี้ คริสต์หันไปถามคุณหญิงศศิธร
“...คริสต์ ลูกแม่...แม่อยากพักผ่อน...แม่อยากจะกลับโรม...แม่อยากจะไปอยู่ใกล้ๆคุณพ่อของคริสต์ นานมากแล้วที่แม่ให้พ่อต้องหลับอย่างสงบเพียงลำพัง...”
“คุณแม่!...คุณแม่ก็สามารถไปพักผ่อน ไปหาคุณพ่อได้นะครับ ไม่เห็นต้องทำถึงขนาดนี้”
“คริสต์!...แม่อายุมากแล้ว...แม่ต้องการวางมือ พักผ่อนจริงๆ...และอีกอย่างคริสต์เป็นผู้ใหญ่พร้อมกับที่นี่แล้ว...ที่นี่ต้องการเลือดใหม่ คนรุ่นใหม่ และคริสต์เหมาะสมเป็นที่สุด ใคร จะคิด จะมอง คริสต์เป็นอย่างไรก่อนหน้านี้แม่ไม่เคยสนใจเพราะแม่รู้จักลูกแม่คนนี้ดี และตลอดสองปีที่ผ่านมาลูกก็แสดงให้แม่และพี่เขมเห็นแล้ว ว่าลูกแม่มากด้วยความสามารถเพียงใด มันถึงเวลาแล้วที่แม่จะประกาศให้โลกรู้ว่า คริสต์ มาร์ติน เชียร์เลอร์ ลูกชายแม่เพียงคนเดียว แท้จริงแล้วตัวตนเขาเป็นแบบไหน ไม่ใช่! อย่างที่ทุกคนเข้าใจอยู่ตอนนี้....” คุณหญิงศศิธรร่ายยาวอย่างใจเย็น
“…แล้ววิธีอื่นมันไม่มีเหรอครับ?...”
“แล้วคริสต์ คิดว่ามันจะเป็นวิธีไหน?” คุณหญิงศศิธรเลิกคิ้ว ตั้งคำถามบุตรชายกลับ....
คริสต์ได้แต่เงียบ เพราะตัวเขาก็คิดไม่ออกเช่นกัน รอยยิ้มของคุณหญิงศศิธรปรากฎบนใบหน้าและหันไปสบตากับเขมิกาที่ยิ้มออกมาเช่นกัน เพราะท่าทางแบบนี้ของบุตรชายนั้นเป็นการยอมจำนน ต่อเหตุผลของเธอและเขมิกา