ทางด้านกอหญ้าที่เดินออกมาจากห้องประชุม จุดหมายของเธอคือลานจอดรถที่รถของเธอจอดอยู่ กอหญ้าก้าวเดินอย่างรวดเร็วไม่มีความลังเลใดๆหรือเปลี่ยนใจที่จะกลับเข้าไปในห้องประชุมนั้นอีกครั้ง
“…ให้ตายเถอะ!!!!...ฉันไม่ยอมให้งานเขียนของฉันต้องด่างพร้อย เพราะผู้ชายนิสัยห่างไกลและปราศจากความเป็นสุภาพบุรุษ...เด็ดขาด” กอหญ้าพึมพำกับตัวเอง และก้มหน้าหยิบกุญแจรถออกมาเมื่อเดินมาถึงลานจอดรถ เธอรีบเอาตัวเองเข้าไปในรถพร้อมสตาร์ททันทีอย่างรวดเร็ว เพราะเธอต้องการออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด.... ‘ของขึ้น’
“เอี๊ยดดดดดดด...” กอหญ้าต้องย้ำเหยียบเบรคอีกครั้งอย่างรวดเร็ว เมื่อจู่ๆด้านหน้ารถเธอมีร่างสูงของคนที่ด่าเธอเมื่อไม่นานนี้.....
คริสต์ที่ออกมาจากห้องประชุม เขาออกมาทันเห็นเธอเดินออกประตูสู่ลานจอดรถ จึงเร่งฝีเท้าตามมาทันก่อนที่เธอจะออกไป ‘บัดซบ!!!’ ใครจะคิดว่า ‘ยายเด็กแว่น’ จอมซุ่มซ่ามจะเป็นเจ้าของบทประพันธ์ที่คุณแม่และเขมิกาต้องการเป็นนักหนา
คริสต์ใช้สายตาคมเข้มจับจ้องมองไปที่กระจกหน้า เพื่อมองหญิงสาวที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย และนั้นทำให้เขารู้แล้วว่าใครที่มาใช้ที่จอดประจำของเขา
กอหญ้าเองก็ใช้ดวงตาหลังกรอบแว่นใหญ่มองกลับอย่างไม่มีใครหลบใคร “ ปี๊ด...” กอหญ้ากดแตรสั้นๆเพียงครั้งเดียว เตือนและบอกให้คริสต์หลบไป
“ลงมาคุยกันก่อนได้มั้ย?” คริสต์เอ่ยออกไป ให้ดังพอให้คนที่นั่งอยู่ด้านหลังพวงมาลัยได้ยิน และแน่นอนตอนนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้มีเพียงคริสต์กับ กอหญ้าเท่านั้น เพราะผู้ร่วมเห็นเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ของศึกปะทะของคริสต์และ กอหญ้า ในอุบัติเหตุก่อนการประชุม กำลังเป็นไทยมุงมองเหตุการณ์การปะทะของคริสต์และกอหญ้าอีกครั้ง และจำนวนมากขึ้นเมื่อทุกคนในห้องประชุมก็ออกมาและเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าเช่นกัน และแน่นอนรวมถึงคุณหญิงศศิธรและเขมิกา ที่ยืนอยู่หน้าทุกคน
“ปี๊ด...” เสียงแตรรถของกอหญ้า ดังขึ้นอีกครั้ง เป็นคำตอบให้กับคำถามของคริสต์
“มีเหตุผลหน่อยได้มั้ย!...เราต่างก็โตๆกันแล้ว...”
“ปี๊ดดดดดด....” เสียงแตรรถดังยาวขึ้นกว่าปกติ ทำให้คริสต์ต้องยกมือขึ้นมาปิดหูของตัวเองไว้
“คุณน้า!...เขมว่าเราคงต้องเทรนการพูดให้คุณคริสต์ใหม่ว่า สุภาพบุรุษต้องใช้คำพูดแบบไหนกับผู้หญิงที่เค้าไม่หลงไหลไปกับความหน้าตาดีของคุณคริสต์...” คุณหญิงศศิธรพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
ทางด้านกอหญ้าที่จ้องมองคริสต์ด้วยความเดือดดาลของอารมณ์ที่มากขึ้น “หน๋อยยย!!!...ยังกล้ามาว่าฉัน ว่าไม่มีเหตุผล...ไอ้!ผู้ชายเฮงซวย...” กอหญ้าพึมพำกับตัวเองในรถ ใครจะหลงไหลได้ปลื้มกับผู้ชายคนนี้ก็เอาเหอะ! แต่ต้องไม่ใช่เธอ กอหญ้า ดาร์เมี่ยน คนนี้
“ปี๊ด ปี๊ด ปี๊ด...” กอหญ้ากดแตรเสียงสั้นๆ อีกสามครั้ง เพื่อบอกเจตนาของเธอว่าเธอไม่ต้องการพูดกับผู้ชายคนนี้
คริสต์ได้แต่ถอนหายใจ เพราะเขาคิดว่าตอนนี้หญิงสาวหลังพวงมาลัยคงกำลังเดือด ให้เขาพูดอะไรไปตอนนี้เธอก็คงไม่ยอมพูดกับเขาเป็นแน่ คริสต์ยกมือขึ้นมาทั้งสองมือบ่งบอกถึงการยอมแพ้ และยอมถอยออกมา ปล่อยให้หญิงสาวเคลื่อนรถออกไป
คริสต์ทำเพียงมองตามและจดจ้องรถพร้อมป้ายทะเบียนบันทึกไว้ในสมองของเขา เพราะคนอย่างเขาถ้าต้องการอะไรแล้ว เขาต้องได้มันมา ‘สำนักพิมพ์ข้อเขียน’ คนอย่างเขาไม่จนหนทางง่ายๆ แค่ครั้งนี้เขายอมถอยให้ก่อนหนึ่งก้าว แต่คนอย่างเขาถ้ายอมถอยหนึ่งก้าวแล้ว เขาจะต้องเดินหน้าอย่างน้อยสามก้าว