13 ก.ค. 2020 เวลา 06:18 • นิยาย เรื่องสั้น
หลายคนยลตามช่อง
ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ พอดีแม่ไม่สบายเข้าโรงพยาบาล คนอื่นก็ไม่ค่อยว่าง ผมเลยต้องไปเฝ้าชั่วคราวช่วงเย็น มีคนมาเยี่ยมบ้างแม่ผมก็บอกว่าไม่ต้องให้ใครมาเยี่ยมแล้วล่ะ จะออกจากโรงพยาบาลแล้ว
2ทุ่มเศษๆ ลูกพี่ลูกน้อง3คนก็มาเยี่ยมโดยไม่ได้นัดหมาย คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีครับ คุยกันโขมงโฉงเฉงเสียงดังแต่ไม่รบกวนแม่ผมครับ เค้าชอบ บอกว่าสนุกดี
เรื่องที่คุยก็เป็นเรื่องสัพเพเหระทั่วๆไปตั้งแต่รถติดจนไปถึงการงานหน้าที่แล้วก็บรรดาลูกหลานแล้วตบท้ายด้วยการถามว่าแม่ผมเป็นไงบ้างดูแล้วอาการดีกว่าที่ได้ยินมาตั้งเยอะแน่ะ แม่ผมก็สาธยายเลคเชอร์ไปเรื่อยๆแบบชิลๆ พอดีพยาบาลมาวัดความดันพร้อมเอาสายน้ำเกลือออก
คราวนี้แม่ผมเลยเปลี่ยนเรื่องคุยหลังจากที่พยาบาลออกไปแล้ว สงสัยตอนบ่ายพี่สาวผมคงมาเยี่ยมแล้วคงบ่นเรื่องโน้นเรื่องนี้ไปเรื่อยแล้วลงท้ายว่าคนโสดก็จงเป็นโสดไปเถอะวะ อย่าหาเรื่องเลยดีกว่า อยู่สบายๆดีกว่า แต่งงานแล้วก็มีแต่เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือว่าเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องลูก เหนื่อยเป็นบ้า แม่ผมพูดตบท้าย
"ตั่วโกว" ซาเฮียพูดขัดขึ้นหลังจากตั่วเฮียกับโส่ยตี๋มองหน้ากันอย่างเห็นด้วยกับสัจธรรมเรื่องนี้ ส่วนผมนั่งวงนอก ทำตาปริบๆ "ใครบอกว่าแต่งงานแล้วไม่สบาย ผมว่าสนุกจะตายไป" --- อย่างงั้นเหรอครับ
"รู้ไหมว่าการแต่งงานและมีลูกเป็นการลับสมองอย่างหนึ่ง" --- อ้าว!?
"ตอนที่ยังไม่แต่ง ก็คงทำแต่งาน ตกเย็นก็ไม่มีอะไรทำเพราะอยู่คนเดียว เล่นเน็ท อ่านหนังสือ ทำโน่นทำนี่ไปตามเรื่อง มันจะมีอะไรมาลับสมองวะ มีลูกมีเมียมันมีเรื่องก็ต้องคอยแก้ไข สอนหนังสือลูก มันช่วยให้เราใช้สมองแก้ปัญหา สมองไม่ฝ่อนะเว้ย" --- เอ่อ มันก็อาจจะจริง
"รู้ไหม ตอนไหนที่อั๊วแบบว่าเซ็งสุดๆ ปิดเทอมไง" --- ไหงเป็นงั้นไปได้
"อ้าว ก็ตอนเปิดเทอม ชั่วๆดีๆอั๊วก็ต้องตื่น6โมงเช้า จับลูกมาไล่ไปอาบน้ำ เรียกไปกินข้าว ขับรถไปส่งพวกมัน มันเหมือนมีนาฬิกาปลุก พอกลับเข้ามาก็ทำงานต่อได้เพราะว่าตื่นตัวเต็มที่ ตานี้พอปิดเทอม 6โมงก็6โมงอั๊วก็นอนต่อ นอนเพลินไปคราวนี้จะ8โมง ลูกน้องมาอั๊วก็สลึมสลือลุกมาเปิดร้าน งงๆเพราะเพิ่งตื่น ไม่แจ่มใสว่ะ" --- เป็นงั้นไป
"แล้วรู้ไหม ถ้าแต่งงานช้า สมมุติว่า30ปลายๆแล้วแต่ง อย่างเร็วก็ถัดมาไม่เกินปีก็มีลูก แรกๆยังไม่เหนื่อยหรอกว่ะ แต่คราวนี้พอลูกอายุ5ขวบอยากให้อุ้มขี่คอ อายุ40กว่าเข้าไปแล้ว แบกเด็กไม่ไหวหรอกนะเว้ย" --- เอิ่ม....!?
คราวนี้แม่ผมก็บอกไปว่า เรื่องลูกน่ะถ้ามีหลายคนมันก็วุ่นวายเหนื่อยจะตายไป ต้องเตรียมโน่นหานี่ให้ เซ็ง
"ตั่วโกว ถ้าคนไม่เยอะแล้วเวลาขยายกิจการน่ะจะหาใครมาช่วยล่ะ" --- ซาเฮียขัดขึ้นอีก แต่คราวนี้ตั่วเฮียสวนกลับไปทันใดว่าก็ไม่ต้องขยายไงวะ อยู่มันแค่นี้ก็ได้ แล้วแกก็หัวเราะครืน --- อืมม์ น่าคิด
"เฮ้ย คิดอย่างนี้ไม่ได้หรอก ขยายกิจการก็ต้องใช้คนของเราอยู่ดีนั่นแหละ เอางี้ก็ได้ ไม่ขยายก็ได้ แต่เอาเป็นว่าถ้าลูกหลานน้อย คุยกันแผลบเดียวก็หมดเรื่องคุยต่างคนต่างไป ไม่มีเรื่องคุยเยอะๆ น่าเบื่อจะตาย" --- ก็จริงนะ พอจะเห็นด้วยหรอกครับ
"แล้วก็ง่ายที่สุด แล้วพวกอั๊วที่มาเนี่ยมันกี่คนแล้วล่ะ ยังไม่รวมพวกที่มาก่อนอั๊วอีก ตั่วโกวคงไม่ได้คุยนานๆแบบนี้จนป่านนี้จะ4ทุ่มแล้วล่ะนะถ้าญาติน้อยคนน้อย" --- ซาเฮียตบท้ายอย่างผู้ชนะ
ทุกคนหัวเราะชอบใจกันใหญ่
ผมว่าซาเฮียนี่มองโลกแง่ดีจริงๆ
แล้วมันก็จริงหลายเรื่องเหมือนกันเพราะตอนที่เลคเชอร์ก็ไม่มีคนขัดเลย
สุขภาพจิตดีจริงๆ
นับถือ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา