3 เรื่องที่ทำให้สายตาแย่ลงหลังจากคุณพ่อคุณแม่อายุ 60 ปี พร้อมวิธีป้องกัน
พออายุย่างเข้า 60 ปี ก็ถือว่าเป็นช่วงสำคัญอีกช่วงหนึ่งสำหรับสายตาที่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก โดยหลักสากลทั่วไปจะแนะนำให้คนที่อายุย่างเข้า 60 ต้องตรวจสุขภาพตาเป็นประจำทุกปี
วันนี้ผมเลยจะมาสรุปถึงสาเหตุที่ทำให้สายตามัวลงหลังอายุ 60 ที่เจอกันบ่อย ๆ ซึ่งข้อมูลนี้น่าจะมีประโยชน์มากสำหรับคนที่ต้องดูแลคุณพ่อคุณแม่หรือผู้สูงอายุที่อายุย่างเข้า 60 แล้ว ... มาครับ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
เรื่องที่ 1 ต้อกระจก
 
ในตาคนเรามีเลนส์อยู่ข้างในลูกตาเหมือนเลนส์กล้องถ่ายรูป ส่วนต้อกระจกก็คือเนื้อเลนส์ข้างในตาที่เริ่มขุ่นขึ้น และจะขุ่นมากขึ้นตามกาลเวลา สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ส่วนจะเกิดขึ้นเร็วหรือช้า จะขุ่นมากหรือน้อยแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละคน แต่ที่แน่ ๆ คือถ้าเลนส์ตามันขุ่นมาก ๆ หรือที่เรียกกันว่า “ต้อกระจก” อาการก็เหมือนการมองผ่านกระจกรถมัว ๆ ภาพที่เห็นจะไม่ชัด
เรื่องที่ 2 ต้อหิน
 
“ต้อหิน” พูดให้เข้าใจแบบไม่ใช่ภาษาหมอก็คือ ความดันข้างในลูกตามันสูงกว่าปกติ แต่ต้องแยกให้ออกระหว่างความดันเลือดหรือความดันตัวกับความดันข้างในลูกตามันคนละเรื่องกัน อย่าสับสนนะครับ
เปรียบเทียบง่าย ๆ ลูกตาก็คล้ายกับลูกบอลใส่น้ำ ส่วนต้อหินก็คล้ายกับลูกบอลที่ถูกอัดน้ำเข้าไปจนเต็ม ทำให้แรงดันข้างในมันเยอะ แล้วพอความดันข้างในมันเยอะเกินกว่าที่ประสาทตาจะทนได้ มันก็จะทยอยตายแบบผ่อนส่ง ตามัวและเห็นแคบลงเรื่อย ๆ คนไข้พอเป็นต้อหินระยะท้าย ๆ ก็จะชอบเดินชนนู่นชนนี่เพราะการมองเห็นมันแคบเหมือนมองผ่านรูกุญแจ
เรื่องที่ 3 จอประสาทตาเสื่อม
 
คนไม่ค่อยรู้จัก “โรคจอประสาทตาเสื่อม” เพราะส่วนมากจะเกิดกับคนอายุมาก 60-70 ปีขึ้นไป อาการคือคนไข้มองเห็นบิดเบี้ยวหรือเงาดำตรงกลางภาพ เหมือนมีใครเอาอะไรมาบังตรงกลาง บางทีโรคนี้เรียกอีกชื่อว่า “จุดรับภาพเสื่อม” สาเหตุเกิดจากความเสื่อมของประสาทตาที่อยู่ตรงผนังด้านหลังของลูกตา ซึ่งเกิดจากอายุที่มากขึ้นเหมือนกันนั่นแหละครับ
ที่สรุปให้ฟังทั้งหมดนี้ ผมไม่ได้ขู่ให้กลัว แต่อยากเตือนไว้เฉย ๆ เพราะผมเห็นคนไข้หลายรายที่เกิดอาการแล้วปล่อยเอาไว้นาน ๆ ไม่ยอมรักษา เพราะคิดว่าไม่เป็นไร แล้วพอมาตรวจก็ต้องเสียดายมาก เพราะโรคมันเป็นไปเยอะแล้ว โดยเฉพาะต้อหินกับจอประสาทตาเสื่อมที่เมื่อเซลล์ประสาทตามันเสียไปแล้วก็มักจะเสียไปถาวร
ประเด็นอยู่ที่ไหนครับ? ประเด็นไม่ได้อยู่แค่เรื่องการมองเห็นเท่านั้น ลองนึกดู เวลาเราหรือผู้สูงอายุที่เราดูแลเริ่มมีอาการตาพล่ามัวและการมองเห็นแย่ลง มันก็จะลามไปถึงหลาย ๆ เรื่อง เช่น ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องมีคนคอยดูแล ทำให้ความสุขในการใช้ชีวิตน้อยลง
แต่โชคดีที่โรคพวกนี้หากเจอตั้งแต่เนิ่น ๆ หรือตั้งแต่ยังไม่มีอาการก็สามารถรักษาให้หายได้ หรืออย่างน้อยก็คงสภาพการมองเห็นที่ดีไว้ได้ ดังนั้นขอแนะนำให้ทุกคนที่อายุเกิน 60 ปี ควรอย่างยิ่งที่จะต้องตรวจตาและจอประสาทตาอย่างน้อยปีละครั้ง ถึงแม้จะยังมองเห็นดีอยู่ก็ตาม ง่าย ๆ แค่นี้ก็สามารถป้องกันโรคที่ว่าได้
อย่างที่โบราณว่า “กันไว้ดีกว่าแก้ ถ้าแย่แล้วแก้กันไม่ทัน” นั่นแหละครับ
โดย นพ.กัปตัน วิริยะลัพภะ (จักษุวิทยา)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา